สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และสภาแรงงานแห่งชาติ ประเทศเบลเยี่ยม

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ


ที่มาของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ประเทศเบลเยี่ยม (CCE)

The Central Economic Council Kingdom of Belgium (CCE) สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ หรือ “คณะมนตรีเศรษฐกิจกลาง” ของประเทศเบลเยี่ยมมีรูปแบบคล้ายคลึงกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นๆ เนื่องจากช่วงปี ค.ศ. 1930 นั้นมีความคิดใหม่เกี่ยวกับบทบาทของรัฐ บทบาทของสหภาพการค้า (Trade unions) และบทบาทของลูกจ้างในนโยบายทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ

ค.ศ. 1944 ร่างปฏิณญาว่าด้วย Social Solidarity ได้กำหนดให้นายจ้างต้องยอมรับบทบาทของสหภาพการค้าในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน (Fully equal partners) และทำเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยการจ่ายค่าจ้างเพิ่มขึ้นและการประกันสังคม ในส่วนของสหภาพการค้านั้นก็ต้องยอมรับอำนาจของนายจ้างในกิจการงานของนายจ้าง และให้ความร่วมมือด้วยความสุจริตเพื่อเพิ่มผลผลิต

ค.ศ. 1948 ได้มีการตั้ง Central Economic Council และ Business Councils โดยกฎหมายว่าด้วย Economic organization มีหน้าที่ให้ความเห็นหรือตอบคำถามเกี่ยวกับเศรษฐกิจของชาติในรูปของรายงานต่อรัฐมนตรีหรือฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งกรณีมีคำร้องขอหรือ CCE เป็นผู้ริเริ่มเอง

อำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ประเทศเบลเยี่ยม (CCE)

CCE มีหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจ แต่ไม่มีผลผูกพันต่อการใช้อำนาจตัดสินใจทั้งฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ โดยหลักแล้ว การให้คำปรึกษาไม่ได้เป็นข้อบังคับ ดังนั้น รัฐบาลหรือรัฐสภาจะขอความเห็นของตัวแทนของสังคมใน CCE หรือไม่ ถึงกระนั้น CCE มีหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเฉพาะ เช่น ตารางค่าแรง (Pay scale) และมาตราฐานสินค้า (Product standards) เป็นต้น

นอกจากนี้ CCE ยังมีหน้าที่สำคัญ คือ จัดให้มีการพูดคุยระหว่างกลุ่มต่างๆ ในสังคม และดำเนินการในฐานะเป็นเวที (Forum) เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิเคราะห์ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสังคมและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ CCE เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคม (คณะมนตรีศรษฐกิจและสังคม) และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) และมีผู้แทนในคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมยุโรป (EESC)[1]

การได้มาซึ่งสมาชิก CCE และวาระการดำรงตำแหน่ง

CCE ประกอบด้วยประกอบด้วยผู้แทนจากฝ่ายนายจ้างและสหภาพแรงงาน จำนวน 50 คนโดยได้รับการแต่งตั้งโดย royal decree มีระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 4 ปีตามข้อเสนอแนะขององค์กรนายจ้างและลูกจ้าง ส่วนองค์กรที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร (Non-profit organizations) หรือองค์กรอิสระอาจมีส่วนร่วมในกิจการงานของ CCE ได้ ไม่มีสิทธิออกเสียง

CCE ประกอบด้วย ประธานสภาฯ 1 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์หลังจากมีการปรึกษาต่อ CCE แล้ว มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี ทำหน้าที่ดำเนินการการประชุมของ CCE หรือของบางคณะกรรมการ นอกจากนี้ รองประธาน 4 คน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ของสภาฯ คอยทำหน้าที่ช่วยเหลืองานของประธานสภาฯ และคอยกำหนดประเด็นทางการเมืองที่สำคัญที่ CCE จะต้องศึกษา

กลไกการทำงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ประเทศเบลเยี่ยม (CCE)

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ประเทศเบลเยี่ยม (CCE) มีการประชุม 10 ครั้งต่อปี[2] และมีคณะทำงาน (Council’s committees) ทำหน้าที่สะท้อนประเด็นต่างๆ ที่ส่งมาโดย CCE แบ่งเป็น 5 คณะ แต่ละคณะดูแลรับผิดชอบเรื่องต่อไปนี้ [3]

1. นโยบายเศรษฐกิจและสังคม

2. ด้านกิจการยุโรป

3. องค์การทางเศรษฐกิจ

4. การพัฒนาที่ยั่งยืนและการพัฒนาสังคมใหม่

5. การแข่งขันทางการค้า

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในการวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงานองค์กรสภาที่ปรึกษาฯ
ณ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม ระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2549.

สำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ประเทศเบลเยี่ยม (CCE)

สำนักงานเลขาธิการสภา เป็นหน่วยงานอิสระดูแลงานธุรการของ CCE ซึ่งหัวหน้าของสำนักงาน ได้แก่ เลขาธิการสภาและผู้ช่วยเลขาธิการสภา ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์โดยคำแนะนำของที่ประชุมใหญ่ของ CCE

หน้าที่สำคัญของสำนักเลขาธิการสภา คือ ร่างความเห็นหรือรายงานที่สะท้อนถึงมุมมองของกลุ่มต่างๆ ในสังคม รวบรวมข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเหล่านั้น และสร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานทางธุรการทั้งในประเทศและในทวีปยุโรป ธนาคารแห่งชาติ มหาวิทยาลัย องค์การระหว่างประเทศ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมในระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมของสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิก เป็นต้น

สภาแรงงานแห่งชาติ (The National Labour Council (CNT))

นอกจาก CCE แล้ว ประเทศเบลเยี่ยมยังมีสภาแรงงานแห่งชาติ (The National Labour Council (CNT)) ซึ่งจัดตั้งโดยพระราชบัญญัติ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1952 และมีการแก้ไของค์ประกอบและการทำงานของ CNT เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2009

จากที่กล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง มีส่วนสำคัญต่อแนวคิดในการมีสภาที่ปรึกษาฯ ในต่างประเทศ ซึ่งในสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ก็เกิดจากฐานคิดอันเนื่องจากนายจ้างกับลูกจ้าง

ที่มา

วัชรา ไชยสาร. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาคมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และสังคม และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) พร้อมด้วยองค์กรสภาที่ปรึกษา ในประเทศ เบลเยี่ยม. วารสารสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549.

สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน ณ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2549.

ดูเพิ่มเติม

http://www.nesac.go.th/document/show11.php?did=07080001

http://www.nesac.go.th/France/

http://www.eesc.europa.eu/

http://www.eesc.europa.eu/.../cce-central-economic-council-en.html

อ้างอิง

  1. unpan1.un.org/intradoc/groups/public/documents/un/unpan027737.pdf, สิงหาคม 2553.
  2. 2. วัชรา ไชยสาร. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาคม ที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) พร้อมด้วยองค์กรสภาที่ปรึกษา ในประเทศเบลเยี่ยม. วารสารสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549.
  3. www.eesc.europa.eu/.../cce-central-economic-council-en.html, สิงหาคม 2553.