พรรคเพื่อไทรวมพลัง

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุทธิกานต์ มีจั่น

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ดร.สติธร ธนานิธิโชติ

 

          พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) (PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY) จดทะเบียนเป็น ลำดับที่ 14/2564 เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 โดยมี นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หรือ กังฟู และว่าที่ร้อยตรี วิชัย จิตรพิทักษ์เลิศ เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนแรก มีคณะกรรมการบริหารรวม 9 คน โดยมีที่ทำการพรรคแห่งแรกอยู่ที่ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

          ด้านภูมิหลังและประสบการณ์ทางการเมืองของผู้นำพรรคเพื่อไทรวมพลังนั้น กล่าวได้ว่า นายวสวรรธน์ พวงพรศรี เคยได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา โดยนายวสวรรธน์เป็นลูกชายของ นางมนัสมนต์ จิตรพิทักษ์เลิศ ซึ่งเป็นพี่สาวของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ในขณะที่ ว่าที่ ร.ต.วิชัย จิตรพิทักษ์เลิศ เลขาธิการพรรคเป็นชาวอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นพี่ชาย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ทั้งยังเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคชาติไทยและเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยภายหลังย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภริยา[1]

          ต่อมาในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 นายวสวรรธน์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลือต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และในวันเดียวกันทางพรรคเพื่อไทรวมพลังได้จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายวสวรรธน์ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นของ นายวรเชษฐ เชิดชู พร้อมกันนี้ยังได้ทำการเปลี่ยนแปลงสำนักงานใหญ่ของพรรคมาที่ ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคในปัจจุบัน

          ด้านข้อมูลของพรรคการเมืองจากฐานข้อมูลของคณะกรรมการการเลือกตั้ง พบว่าพรรคเพื่อไทรวมพลัง มีสมาชิกทั้งหมด 7,576 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 5,498 คน มีสาขาทั่วประเทศทั้งหมด 6 แห่ง โดยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 แห่ง มีตัวแทนพรรคทั่วประเทศเพียง 1 คน[2]

 

ภาพ : ตราสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทรวมพลัง

PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (1).png
PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (1).png

พรรคเพื่อไทรวมพลังในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566

          ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566​ พรรคเพื่อไทรวมพลังส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ 19 คน โดยจับฉลากได้หมายเลข 38 และแบบแบ่งเขต 2 เขต ได้แก่ เขต 3 พื้นที่อำเภอดอนมดแดง, อำเภอตาลสุม, อำเภอม่วงสามสิบ, อำเภอเหล่าเสือโก้ก และเขต 10 อำเภอทุ่งศรีอุดม, อำเภอน้ำขุ่น, อำเภอน้ำยืน, อำเภอสำโรง (ยกเว้นตำบลสำโรง, ตำบลโคกก่อง, ตำบลบอน), อำเภอเดชอุดม (เฉพาะตำบลทุ่งเทิง) จังหวัดอุบลราชธานี โดยไม่มีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามของพรรค

          นโยบายพรรคเพื่อไทรวมพลังที่ใช้ในการหาเสียง ได้แก่ ปลดหนี้ มีงานทำ ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาด้านการศึกษาและสาธารณสุข อาทิ การแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรที่เป็นหนี้เสีย โดยให้กองทุนฟื้นฟูฯ รวมทั้งรับซื้อหนี้ทั้งหมดที่มีในสถาบันการเงินทุกประเภท รวมหนี้นอกระบบด้วย ตลอดจนให้ความสำคัญด้านการศึกษา เรียนฟรี ปริญญาตรี มีงานทำ สร้างอาชีพในชุมชน ส่งเสริมธุรกิจ SME ธุรกิจออนไลน์ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำปฏิรูปที่ทำกิน ยกระดับอาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้เป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทยประจำหมู่บ้าน และแก้ไขเกณฑ์ทหาร[3] เป็นต้น

 

ภาพ : สื่อประชาสัมพันธ์ในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทรวมพลัง[4]

PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (2).jpg
PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (2).jpg

 

          ทั้งนี้ ผู้สมัครแบบแบ่งเขตพรรคเพื่อไทรวมพลังชนะการเลือกตั้งทั้ง 2 เขต ได้แก่ นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี[5] ผู้สมัครเขต 3 ได้คะแนน 31,218 คะแนน ที่สามารถเอาชนะ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัยจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับ 22,020 คะแนน ส่วนนายสมศักดิ์ บุญประชม ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดอุบลลำปางก่อสร้าง (ศรีสมหวัง) และเป็นประธานชมรมคนรักน้ำยืน ผู้สมัครเขต 10 ได้คะแนน 63,127 คะแนน ซึ่งสามารถเอาชนะ นายสมคิด เชื้อคง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัยของพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับ 19,292 คะแนน ส่วนในระบบบัญชีรายชื่อได้รับ 67,692 คะแนน ทำให้ไม่มีผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคได้รับการเลือกตั้ง[6]

 

ภาพ : แสดงข้อความขอบคุณของนางพิมพกาญจน์ พลสมัคร[7]

PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (3).jpg
PHEU THAI RUAMPHALANG PARTY (3).jpg

 

          อย่างไรก็ดี ได้มีการวิเคราะห์ว่าแม้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทรวมพลังที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งสองคนต่างไม่เคยมีประสบการณ์ในสนามการเมืองระดับชาติ แต่ในระดับท้องถิ่นถือเป็นรู้จักของชาวบ้านในพื้นที่อย่างดี โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนางพิมพกาญจน์ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้รับความชื่นชมจากประชาชนในพื้นที่อำเภอม่วงสามสิบและอำเภอใกล้เคียง ที่ช่วยจัดหารถรับส่งคนป่วย หายารักษาให้ถึงบ้าน ในขณะที่นายสมศักดิ์ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยในช่วงโควิดระบาด ถือเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในการนำรถไปช่วย รับ-ส่ง ชาวบ้านที่ป่วยและทำงานอยู่ในต่างจังหวัด ให้กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดในอำเภอน้ำยืน รวมทั้งส่งทีมงานวิ่ง รับ-ส่ง ยาใช้รักษาโรคให้กับชาวบ้านด้วย จึงทำให้นายสมศักดิ์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย[8]

 

พรรคเพื่อไทรวมพลัง ในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล

          ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทรวมพลังนำเสนอเป็นพรรคท้องถิ่นของพี่น้องคนอีสาน ถึงแม้เป็นพรรคตั้งใหม่แต่หัวใจยิ่งใหญ่ จะทำงานเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรพี่น้องคนอีสาน[9] และพร้อมเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสม 8 พรรค ร่วมฝั่งประชาธิปไตยพร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีเงื่อนไขเพราะว่าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมาอันดับหนึ่ง พร้อมนำเสนอภาพให้พรรคเพื่อไทรวมพลังเป็นของคนรุ่นใหม่ พร้อมเป็นตัวกลาง โซ่ข้อกลางประสานระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง[10] นอกจากนี้ในช่วงเวลาที่เกิดกระแสความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวสวรรธน์ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลังออกมาแสดงความคิดเห็นในการสนับสนุนให้มีประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ทำงานแบบวัฒนธรรมการเมืองใหม่ เป็นกลาง และทำเพื่อประชาชน รวมทั้งเสนอให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงสูงสุดทั้งสองพรรคยอมถอยกันคนละก้าว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและรักษาในสิ่งที่ประชาชนเลือกเข้ามา[11]

 

อ้างอิง

[1] “เปิดตัวพรรค "เพื่อไทรวมพลัง" พี่ชาย "นายกฯหน่อย" นั่งเลขาธิการพรรค อดีตเลขานุการเป็นหัวหน้าพรรค”, สืบค้นจาก https://www. koratdaily.com/blog.php?id=13933 (1 มิถุนายน 2566).

[2] “พรรคเพื่อไทรวมพลัง”, สืบค้นจาก https://party.ect.go.th/dataparty-detail/140(1 มิถุนายน 2566).

[3] “เพื่อไทรวมพลัง”, สืบค้นจาก https:// www.vote62.com/party/เพื่อไทรวมพลัง/ (10 มิถุนายน 2566).

[4] “‘เพื่อไทรวมพลัง’ คือใคร ม้ามืดส่ง 2 ส.ส. ‘ส.จ.หน่อย-เสี่ยเชียง’ ล้มช้างคว้าเก้าอี้อุบลฯ”, สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/ politics/news_3981617(10 มิถุนายน 2566).

[5] “พรรคเพื่อไทรวมพลัง มาจากไหน? ม้ามืดคว้า 2 ที่นั่ง ส.ส.อุบลราชธานี”, สืบค้นจาก https://mgronline.com/onlinesection/ detail/9660000044910 (10 มิถุนายน 2566).

[6] “เลือกตั้ง 2566 : รู้จักพรรคม้ามืด "เพื่อไทรวมพลัง" ร่วมจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล”, สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/ content/327932(10 มิถุนายน 2566).

[7] “ล้มช้าง! มารู้จักพรรคเล็กม้ามืด ‘เพื่อไทรวมพลัง’ ส่งแค่ 2 เขตก็ล้ม ‘เพื่อไทย’ เรียบ”, สืบค้นจาก https://www.dailynews.co.th/ news/2333295/ (10 มิถุนายน 2566).

[8] “ล้มแชมป์อุบลฯ พรรคม้ามืด “เพื่อไทรวมพลัง” คว่ำเพื่อไทยตกเก้าอี้”, สืบค้นจาก https://www.thaipbs.or.th/news/ content/ 327810 (10 มิถุนายน 2566).

[9] “‘เพื่อไทรวมพลัง’ ชู เป็นพรรคของคนอีสาน พร้อมร่วมรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย”, สืบค้นจาก https://www.thereporters.co/tw-politics/0404231524/ (10 มิถุนายน 2566).

[10] “เลือกตั้ง 2566 : พรรคเพื่อไทรวมพลัง เลือกขั้วประชาธิปไตย ยกมือหนุน “พิธา”เป็นนายกฯ”, สืบค้นจาก https:// www.pptvhd36. com/ news/การเมือง/196666(10 มิถุนายน 2566).

[11] “หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง มั่นใจ ก้าวไกล-เพื่อไทย เคลียร์ปมประธานสภาจบ”, สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/news/ politic/2705695 (10 มิถุนายน 2566).