ป่ารอยต่อ

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุทธิกานต์ มีจั่น

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ดร.สติธร ธนานิธิโชติ

 

          “ป่ารอยต่อ” เป็นชื่อเรียกมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (อ.ป.จ.) (ชื่อภาษาอังกฤษ Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation) เป็นมูลนิธิที่กองทัพบกจัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงจัดกิจกรรมสนับสนุนภาคประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร ตลอดจนดำเนินความร่วมมือกับองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ราษฎรในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ระยอง และชลบุรี ครอบคลุมพื้นที่ 1.2 ล้านไร่ โดยเริ่มตั้งแต่หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกษียณอายุราชการ เมื่อเดือนตุลาคม 2548[1] ได้ดำเนินการในชื่อ “กองทุนป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” ก่อนจะจดทะเบียนเป็นมูลนิธิขึ้นเมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 มีที่ตั้งอยู่ที่บ้านพักสวัสดิการของกองทัพบกในพื้นที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ เลขที่ 872 พหลโยธินซอย 8 ถนนพหลโยธิน  แขวงสามเสนใน เขตพญาไท  กรุงเทพมหานคร 10400[2]

 

ภาพ : สัญลักษณ์มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก [3]

 

 

Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (1).png
Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (1).png

สัญลักษณ์เครื่องหมายมูลนิธิ

- วัวแดงแม่ลูก 2 ตัว แสดงถึง วัวแดงเป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ แต่ในพื้นที่แห่งนี้ พบวัวแดงอยู่กันเป็นฝูง

-ต้นตะเคียน 5 ต้น แสดงถึง ต้นตะเคียนซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ใหญ่หายาก อยู่ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดนี้

-ภูเขาและแม่น้ำ แสดงถึง ความอุดมสมบูรณ์ของป่าและความชุ่มชื้นจากสายน้ำ

ภาพทั้งหมดอยู่ภายในวงกลมและข้างล่างเป็นแถบผ้าครึ่งวงกลม มีข้อความว่า “มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด”

 

          อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร มีใจความสำคัญตามข้อบังคับของมูลนิธิฯ ประกอบด้วย[4]

          (1) สนับสนุนโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

          (2) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีสวัสดิการเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่พลเรือน รวมทั้งครอบครัว ทั้งในกรณีปกติและกรณีฉุกเฉิน ในขณะปฏิบัติหน้าที่ จนได้รับอันตราายถึงบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

          (3) อนุรักษ์ตามกฎหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการจัดการโครงการ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริและการเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป

          (4) ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าภายในโครงการ ตลอดจนสร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

          (5) ร่วมกับคณะกรรมการบริหารงานโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริในการประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของการดำเนินงานโครงการ

          (6) ดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์และสังคมสงเคราะห์

          (7) ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ประการใด

 

ตาราง : ในด้านของการบริหารงาน มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ประกอบด้วยคณะกรรมการ ดังรายชื่อต่อไปนี้[5]  

พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา

ประธานกิตติมศักดิ์

นายเจริญ  สิริวัฒนภักดี 

ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

1

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ   

ประธานกรรมการ

2

หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร  เทวกุล  

รองประธานกรรมการ

3

  พลเอกพัฑฒะนะ  พุธานานนท์     

รองประธานกรรมการ

4

พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา

กรรมการ

5

พลเอกอุดมเดช  สีตบุตร  

กรรมการ

6

พลเอกนพดล  อินทปัญญา    

กรรมการ

7

พลเอกเลิศฤทธิ์  เวชสวรรค์   

กรรมการ

8

นายกมล เอี้ยวศิวิกูล

กรรมการ

9

นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย    

กรรมการ

10

พลเอกกิตติพงษ์ เกษโกวิท

กรรมการ

11

พลเอกอภิชัย ทรงศิลป์

กรรมการ

12

พลเอกวิชญ์  เทพหัสดิน ณ อยุธยา

กรรมการ

13

พลเอกคณิต  สาพิทักษ์

กรรมการ

14

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล

กรรมการ

15

พลเอกวลิต  โรจนภัดกดี

กรรมการ

16

นายจตุพร บุรุษพัฒน์     

กรรมการ

17

นายอดิศร นุชดำรงค์

กรรมการ

18

นายธัญญา เนติธรรมกุล

กรรมการ

19

นายอรรถพล เจริญชันษา

กรรมการ

20

พลโทสว่าง  ดำเนินสวัสดิ์

กรรมการและเหรัญญิก

21

พลตรีจักรกฤษณ์ ศรีนนท์  

กรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิก

22

พันเอกชินสรณ์ เรืองศุข 

กรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิก

23

พลเอกสุรัตน์ วรรักษ์    

กรรมการและเลขานุการ

24

พลเอกอนันต์  กาญจนปาน

กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

25

พลเอกณัฐ  อินทรเจริญ

กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

           

          คณะกรรมการทั้งหมดในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นนายทหารและอีกส่วนหนึ่งเป็นอดีตข้าราชการและนักธุรกิจ ตัวอย่างเช่น หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ในขณะที่ นายกมล เอี้ยวศิวิกูล เป็นเจ้าของธุรกิจกลุ่มไมด้าเจ้าของโรงแรมใน จ.นครปฐม และนายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย เป็นนักธุรกิจประธานสภาหอการค้าจังหวัดสระแก้ว นอกจากนี้แล้วยังพบว่า กรรมการบางส่วนยังเคยได้รับแต่งตั้งเป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาทิ พลเอกนพดล อินทปัญญา พลเอกเลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ พลเอกกิตติพงษ์ เกษโกวิท พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พลเอกคณิต สาพิทักษ์ พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน) พลเอกธีรชัย นาควานิช (ปัจจุบันเป็นองคมนตรี) พลเอกวลิต โรจนภักดี และ พลตรีณัฐ อินทรเจริญ อีกทั้ง พลเอกพัฑฒะนะ พุธานานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)[6] ซึ่งเป็นของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งกลุ่ม บริษัท ไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ (TCC Group)[7]      

 

          ทั้งนี้ ยังมีการจัดโครงการการดำเนินงานภายใต้คณะทำงานและกรรมการด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย

          (1) คณะทำงานฝ่ายเลขานุการ มีพลเอกสุรัตน์ วรรักษ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายเลขานุการ

          (2) คณะอนุกรรมการฝ่ายหารายได้  มีพลเอกรุ่งโรจน์  จำรัสโรมรัน เป็นประธานอนุกรรมการ

          (3) คณะอนุกรรมการฝ่ายสวัสดิการ มีผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เป็นประธานอนุกรรมการ

          (4) คณะอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรม มีพลเอกสุรัตน์ วรรักษ์ เป็นประธานอนุกรรมการ

          (5) คณะอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตราษฎร โดยมีผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) เป็นประธานอนุกรรมการ

          (6) คณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรดินและน้ำ โดยมีรองอธิบดีด้านวิชาการ กรมพัฒนาที่ดิน เป็นประธานอนุกรรมการ

          (7) คณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่า โดยมีนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน เป็นประธานอนุกรรมการ

          (8) คณะอนุกรรมการฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืช โดยมีผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) เป็นประธานอนุกรรมการ

          (9) คณะอนุกรรมการฝ่ายตรวจสอบและประเมินผล มีพลเอกสุภาษิต วรศาสตร์ เป็นประธานอนุกรรมการ

          (10) คณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย มีพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา เป็นประธานอนุกรรมการ

          (11) คณะอนุกรรมการฝ่ายงบประมาณ มีพลเอกสุรัตน์ วรรักษ์ เป็นประธานอนุกรรมการ

 

ป่ารอยต่อ เครือข่ายพลเอกประวิตร และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ[8]

          มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ได้รับความสนใจในทางการเมือง เมื่อ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี พ.ศ. 2563 โดยตั้งคำถามต่อการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นนายทหารเกษียณอายุ แต่มีการใช้พื้นที่ในเขตทหารอยู่ และจุดประสงค์ของการตั้งมูลนิธิฯ มีขึ้นเพื่อรักษาป่า[9] แต่กลับใช้เป็น “ฐานบัญชาการทางการเมือง” ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยังเป็นประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด[10] 

          นอกจากนี้แล้ว นับตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เริ่มเข้ามาขับเคลื่อนงานของมูลนิธิแห่งนี้อย่างเต็มตัวหลังจากเกษียณอายุราชการและมูลนิธิแห่งนี้ก็ถูกจับตา เพราะมีฐานะเป็นพื้นที่แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แหล่งชุมนุมกลุ่มผลประโยชน์สำคัญ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นศูนย์รวมเครือข่าย ทั้งการเมือง การทหาร ธุรกิจ ผ่านทางกรรมการมูลนิธิ ทำให้โครงข่ายอำนาจทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แผ่ขยายออกไปกว้างไกลและเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้มีสถานะมั่นคงอยู่ในรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองฝ่ายใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล[11]

          อีกทั้งยังกล่าวได้ว่า สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งที่ทำการของกลุ่มอำนาจ 3_ป. ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในฐานะศูนย์กลางอำนาจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มักจะนัดรับประทานอาหารร่วมกัน อีกทั้งมูลนิธิป่ารอยต่อยังใช้เป็นศูนย์รวมนักธุรกิจ ข้าราชการระดับสูง ทั้งในฝ่ายพลเรือน และฝ่ายความมั่นคงทุกเหล่าทัพ เพื่อพูดคุยถึงสถานการณ์และประเด็นปัญหาต่าง ๆ[12] รวมทั้งตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ภายใต้วาระของการจัดงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา ทั้งยังมีผู้ให้การสนับสนุนและบริจาคเงินจำนวนมากให้แก่มูลนิธิแห่งนี้จากทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน[13]

 

ภาพ : แสดงเครือข่ายประวิตร-ป่ารอยต่อที่นำเสนอโดย รังสิมันต์ โรม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ[14]

Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (2).png
Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (2).png

 

          อย่างไรก็ดี มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ยังเคยถูกระบุว่าเป็นพื้นที่การเมืองสำคัญในการประชุมจัดตั้งรัฐบาลแทนที่ทำเนียบรัฐบาล การนัดประชุมกลุ่มตัวแทนพรรคเล็ก 16 พรรค ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 และแก้ปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมืองต่าง ๆ [15] ทั้งการจัดการความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ[16] และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโปงหลักฐานที่ นายพิเชษฐ สถิรชวาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 พรรคเล็ก ได้ยอมรับว่ามาเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางการลงพื้นที่พบประชาชนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณที่มูลนิธิแห่งนี้[17] นอกจากนี้ การอภิปรายของ นายรังสิมันต์ โรม ยังยกตัวอย่างอีกหลายบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องและมีผลประโยชน์พัวพันกับมูลนิธิป่ารอยต่อ จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ระหว่างอำนาจรัฐกับอำนาจทุน อีกทั้งกรรมการมูลนิธิคนอื่น ๆ ยังมีความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกด้วย[18]

          หลังจากการอภิปรายเรื่อง “ป่ารอยต่อ” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังคงได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจให้ทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีต่อไป ในขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกลถูกออกหมายข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ[19]

 

ภาพ : การพบปะของนักการเมืองคนสำคัญกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บ้านพัก “ป่ารอยต่อ” ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566[20]

Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (3).jpg
Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (3).jpg
Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (4).jpg
Five Provinces Bordering Forest Preservation Foundation (4).jpg

 

          อย่างไรก็ดี แม้ “ป่ารอยต่อ” จะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร และกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับการจับตามองในแวดวงการเมือง แต่ป่ารอยต่อยังคงเป็นพื้นที่ในการพบปะของนักการเมืองคนสำคัญ อาทิ การปรากฏภาพของแกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ร่วมโต๊ะทานข้าวมื้อเที่ยงกับ พล.อ.ประวิตร ภายใต้กระแสข่าวของการจับขั้วการเมืองใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป รวมทั้ง "กลุ่มสามมิตร" ได้แก่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มาเข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อลาออกจากพรรคพลังประชารัฐและย้ายกลับไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เป็นต้น อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรียังใช้บ้านพักในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ประชุมคณะกรรมการบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านสวัสดิการของรัฐ เร่งรัดระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลสวัสดิการของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาคนจนกลุ่มเปราะบาง[21]

          อย่างไรก็ดี หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในปี พ.ศ. 2566 และการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมร่วมรัฐสภาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร ได้ลดบทบาททางการเมืองของตนเองลงด้วยการลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ แต่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่อไป พร้อมกับการลดบทบาทของบ้านพักในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ลงจากการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร ที่ว่า “บ้านป่ารอยต่อฯ ปิดแล้ว เหลือไว้ทำแต่มูลนิธิ”[22]

 

อ้างอิง

[1] “ป่ารอยต่อ พล.อ.ประวิตร พื้นที่ดีลปัญหาการเมือง ราชกิจจาฯระบุ 7 ข้อ”, สืบค้นจาก https://www.prachachat.net/politics/news-992466(30 พฤษภาคม 2566).

[2] “ติดต่อกับเรา”, สืบค้นจาก http://www.5provincesforest.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538680467&Ntype=3 (30 พฤษภาคม 2566).

[3]  “ประวัติความเป็นมาของมูลนิธิอนุรักษป่ารอยต่อ 5 จังหวัด”, สืบค้นจาก http://www.5provincesforest.com/index.php?lay= show&ac= article&Id=538680590&Ntype=4(30 พฤษภาคม 2566).

[4] “ป่ารอยต่อ พล.อ.ประวิตร พื้นที่ดีลปัญหาการเมือง ราชกิจจาฯระบุ 7 ข้อ”, สืบค้นจาก https://www.prachachat.net/politics/news-992466(30 พฤษภาคม 2566).

[5] “รายชื่อคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด”, สืบค้นจาก http://www.5provincesforest.com/index.php?lay= show&ac=article&Ntype=4&Id=538680558(30 พฤษภาคม 2566).

[6] “กก.มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด 'บิ๊กป้อม' 24 คน เป็น สนช. 11 คน”, สืบค้นจาก https://www.isranews.org/content-page/item/62285-report001-62021-62285.html (12 พฤษภาคม 2566).

[7] “นายเจริญ สิริวัฒนภักดี”, สืบค้นจาก https:// www.assetworldcorp-th.com/th/leadership/board-of-directors/7/นายเจริญ-สิริวัฒนภักดี(30 พฤษภาคม 2566).

[8] ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รังสิมันต์ โรม, (2564), เรียนประชาชนที่เคารพ: รวมบทอภิปรายไม่ไว้วางใจจากป่ารอยต่อถึงตั๋วช้าง, (กรุงเทพฯ : เคล็ดไทย).

[9] “‘มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด’ ฐานบัญชาการการเมือง ‘ประวิตร’ ”, สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/politics/ 868398 (30 พฤษภาคม 2566).

[10] “มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด “บ้านใหญ่“ ตัวจริง-เสียงจริง”, สืบค้นจาก https:// workpointtoday.com/มูลนิธิป่ารอยต่อ-5-จังหว/(30 พฤษภาคม 2566).

[11] “มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด “บ้านใหญ่“ ตัวจริง-เสียงจริง”, สืบค้นจาก https:// workpointtoday.com/มูลนิธิป่ารอยต่อ-5-จังหว/ (30 พฤษภาคม 2566).

[12] “ลือสนั่น ป่ารอยต่อฯ! เผย “บิ๊กป้อม” เรียก “ผู้ว่าหมูป่า” เข้าพบส่วนตัว ซุบซิบหนุนเป็น นายกฯ คนต่อไป? ”, สืบค้นจาก https:// truthforyou.co/69968/ (31 สิงหาคม 2566).

[13] “มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด “บ้านใหญ่“ ตัวจริง-เสียงจริง”, สืบค้นจาก https:// workpointtoday.com/มูลนิธิป่ารอยต่อ-5-จังหว/ (30 พฤษภาคม 2566).

[14] “เครือข่ายประวิตร อำนาจที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับพวกพ้องตนเอง โดยทรัพยากรรัฐ โดยภาษีประชาชน เพื่อประวิตร club ”, สืบค้นจาก https://twitter.com/FWPthailand/status/1233240498334138368/photo/1(30 พฤษภาคม 2566).

[15] “ป่ารอยต่อ พล.อ.ประวิตร พื้นที่ดีลปัญหาการเมือง ราชกิจจาฯระบุ 7 ข้อ”, สืบค้นจาก https://www.prachachat.net/politics/ news-992466 (30 พฤษภาคม 2566).

[16] “คำต่อคำ ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ " ไม่เอาธรรมนัส ผมลาออก”, สืบค้นจาก https://www.nationtv.tv/news/378848906 (31 สิงหาคม 2566).

[17] "พิเชษฐ" โยน "ประวิตร" คุย "ธรรมนัส" ปมจ่ายเงินดูแลพรรคเล็ก ”, สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com/ politics/ 1016907(30 พฤษภาคม 2566).

[18] “ย้อนดู ส.ส.โรม อภิปรายปม 'ป่ารอยต่อ' ข้อต่ออำนาจทหาร-ทุน ภายใต้การนำของ 'ประวิตร'”, สืบค้นจาก https://prachatai.com/ journal/2020/02/86586(30 พฤษภาคม 2566).

[19] “มูลนิธิป่ารอยต่อ : อัยการยังไม่ส่งฟ้อง รังสิมันต์ โรม หลังตำรวจออกหมายจับ คดีหมิ่นประมาทอภิปรายมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ. ประวิตรในสภา”, สืบค้นจาก https://www.bbc.com/thai/thailand-60790115(30 พฤษภาคม 2566).

[20] “เลือกตั้ง 66 สรุปความเคลื่อนไหว ‘บ้านป่ารอยต่อฯ’ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา”, สืบค้นจาก https://workpointtoday.com/political-news-scoop/ (31 สิงหาคม 2566).

[21] “เลือกตั้ง 66 สรุปความเคลื่อนไหว ‘บ้านป่ารอยต่อฯ’ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา”, สืบค้นจาก https://workpointtoday.com/political-news-scoop/ (31 สิงหาคม 2566).

[22] “"บิ๊กป้อม" ประกาศบ้านป่ารอยต่อฯ ปิดแล้ว เหลือไว้แต่มูลนิธิ อวยพรสื่อทุกคนโชคดี”, สืบค้นจาก  https://mgronline.com/ politics/detail/9660000078570 (31 สิงหาคม 2566).

Fckmw0fckmw