กษัตริย์ในยุโรป
กษัตริย์ในยุโรป
ในยุโรปกษัตริย์จะมีความสัมพันธ์กับศาสนาเป็นสำคัญ โดยเฉพาะศาสนาคริสต์เมื่อศาสนาคริสต์รุ่งเรืองขึ้นมา “โป๊ป” หรือที่เรียกว่า “พระสันตะปาปา” เป็นใหญ่ ใครก็ตามที่ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ประเทศใดในยุโรปต้องเดินทางไปหาโป๊ปเพื่อจะจุมพิตมือโป๊ป โป๊ปหรือพระสันตะปาปาจะทรงสวมมงกุฎให้กษัตริย์นั้นและกล่าวว่าในนามของพระผู้เป็นเจ้า เราขอแต่งตั้งให้ท่านปกครองเมืองนี้สืบไป
เมื่อทำพิธีเสร็จก็กลับบ้านเมืองปกครองแผ่นดิน นั้นๆ ในนามของโป๊ป ในนามของศาสนจักร เป็นอยู่อย่างนี้หลายร้อยปีในยุโรป ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือทำให้กษัตริย์ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกแทรกแซงด้วยอำนาจทางศาสนาง่าย ข้อดีคือ ประชาชนมีที่พึ่ง หากกษัตริย์ทำผิด ประชาชนก็ไปฟ้องโป๊ป โป๊ปจะสั่งลงไป กษัตริย์ก็จะแก้ไข ถ้ากษัตริย์องค์ใดไม่ปฏิบัติตาม โป๊ปก็จะทำพิธีที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “เอ็กซคอมมูนิเคชั่น” (excommunication) หรือคว่ำบาตร เหมือนกับที่กษัตริย์อังกฤษคือ พระเจ้าเฮ็นรี่ที่ ๘ เคยทำเรื่องไม่สมควร
เมื่อราษฎรไปร้องเรียนโป๊ป โป๊ปก็สั่งห้าม กษัตริย์อังกฤษไม่แยแส โป๊ปก็คว่ำบาตร สั่งไม่ให้พระทำพิธีให้กษัตริย์อังกฤษองค์นั้น พระเจ้าเฮ็นรี่ที่ ๘ เก่งกว่าโป๊ป เพราะว่าโป๊ปคว่ำบาตรกษัตริย์ กษัตริย์ก็คว่ำบาตรโป๊ปบ้าง แล้วสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ในศาสนาคริสต์นิกายที่สถาปนาขึ้นใหม่ โดยมีกษัตริย์เป็นผู้นำเสียเอง ประกาศเอานิกายนั้นเป็นศาสนาประจำชาติอังกฤษสืบมาจนบัดนี้