การแข่งขันด้านอวกาศ
ผู้เรียบเรียง : รองศาสตราจารย์ ดร.วิชุดา สาธิตพร และธีทัต จันทราพิชิต
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
การแข่งขันด้านอวกาศ (Space Race) หมายถึงช่วงที่เกิดการแข่งขันเพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งในด้านเทคโนโลยีอวกาศระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 ถึงต้นทศวรรษที่ 1970 ผลจากการแข่งขันด้านอวกาศระหว่างสองประเทศทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี และส่งผลไปถึงเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศในปัจจุบัน
ที่มา
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามได้รับเทคโนโลยีจากผู้แพ้สงครามอย่างนาซีเยอรมัน หนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่ทั้งสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาได้มาจากประเทศเยอรมนี นั้นคือเทคโนโลยีด้านจรวด[1]
เมื่อเริ่มที่จะเกิดความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสองประเทศ จนเกิดมาเป็นสงครามเย็นในภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตก็เริ่มแข่งขันด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ (Arms Race) เพื่อให้มีอาวุธที่ดีที่สุดและจำนวนมากที่สุด
การแข่งขันดังกล่าวทำให้เกิดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และการสร้างขีปนาวุธซึ่งรวมไปถึงการสร้างขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missiles หรือ ICBM) เพื่อส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปทำลายล้างข้าศึกที่อยู่ห่างจากอีกฟากโลกได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง[2] ซึ่งการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปได้กลายเป็นมูลเหตุสำคัญในการพัฒนาจรวดที่สามารถส่งวัตถุขึ้นไปบนอวกาศได้
ต่อมาการแข่งขันด้านขีปนาวุธข้ามทวีปได้กลายเป็นการแข่งขันเพื่อที่จะช่วงชิงความเป็นหนึ่งในด้านการสำรวจอวกาศ[3] และนำมาสู่การแข่งขันทางด้านอวกาศขึ้น
ส่งดาวเทียมขึ้นวงโคจร
ในปี ค.ศ.1955 ทางสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ได้ประกาศจะส่งดาวเทียมขึ้นวงโคจร และในปี ค.ศ. 1957 ทางสหภาพโซเวียตได้ทำการยิงจรวดส่งดาวเทียมดวงแรกของโลกหรือที่รู้จักกันว่า สปุตนิก 1 (Sputnik 1) ขึ้นไปโคจรในอวกาศ[4] โดยคำว่าสปุกนิก หมายถึงเพื่อนร่วมทางในภาษารัสเซีย
การส่งดาวเทียมขึ้นไปสู่อวกาศของสหภาพโซเวียตสร้างความตื่นตกใจว่าสหภาพโซเวียตนำหน้าสหรัฐอเมริกาด้านเทคโนโลยีอวกาศ [5]โดยก่อนี่สหรัฐอเมริกาจะส่งดาวเทียมของตนเองขึ้นสู่วงโคจรได้เป็นครั้งแรก ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1958 สหภาพโซเวียตก็ได้ส่ง 'สปุตนิก 2 (Sputnik 2) พร้อมกับสุนัขชื่อไลก้า (Laika) ขึ้นไปยังวงโคจรได้สำเร็จ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1957 แม้ว่าไลก้าจะเสียชีวิตจากความร้อนและความเครียดในการทดลองก็ตาม
ส่งมนุษย์ขึ้นอวกาศ
ภายหลังจากมีการส่งดาวเทียมขึ้นไปยังอวกาศ การส่งสิ่งมีชีวิตไปยังอวกาศกลายเป็นการทดลองขั้นต่อไป เมื่อความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตพุ่งสูงขึ้น ก็ทำให้เกิดการทดลองจำนวนมากกับสิ่งมีชีวิตเพื่อทดสอบว่าสิ่งมีชีวิตจะสามารถอยู่ในอวกาศได้หรือไม่[6]
โดยทางสหรัฐอเมริกาได้มีโครงการชื่อว่า โครงการเมอร์คิวรี่ (Project Mercury) ซึ่งตั้งตามชื่อของเทพเฮอร์เมสในปกรณัมกรีกหรือเมอร์คิวรี่ในอารยธรรมโรมัน โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่
1. ส่งคนอเมริกันไปโคจรรอบโลก
2. ทดสอบสมรรถภาพของมนุษย์ในการเดินทางสู่อวกาศ
3. นำยานอวกาศและนักบินอวกาศกลับสู่พื้นโลกโดยปลอดภัย
โดยที่มีวัตถุประสงค์ที่ไม่ได้กล่าวอีกข้อ คือ ต้องทำทั้งสามข้อนี้ให้แล้วเสร็จก่อนที่โซเวียตจะทำได้[7]
หากแต่สหภาพโซเวียตสามารถส่งมนุษย์คนแรกเข้าสู่วงโคจรได้สำเร็จก่อนสหรัฐอเมริกาโดย วันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1961 สหภาพโซเวียตสามารถส่ง ยูริ กาการิน ไปยังอวกาศได้สำเร็จ และทำให้ ยูริ กาการิ กลายเป็นมนุษย์อวกาศคนแรกของโลก ในเวลาต่อมาสหรัฐอเมริกาได้ส่งอลัน เชปเพิร์ด ขึ้นอวกาศ ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1961 เป็นอเมริกันคนแรกที่ได้ขึ้นสู่อวกาศและเป็นมนุษย์อวกาศคนที่สองของโลก
การแข่งขันไปดวงจันทร์และการสิ้นสุดของการแข่งขันด้านอวกาศ
การที่สหรัฐอเมริกาไม่สามารถส่งมนุษย์ขึ้นอวกาศได้ก่อนสหภาพโซเวียต ทำให้ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ของสหรัฐอเมริกา แถลงต่อสภาคองเกรสว่าจะให้ความสำคัญกับการแข่งขันทางด้านอวกาศมากกว่านี้ พร้อมกันนั้นยังได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ภายในปลายทศวรรษที่ 1960[8]
เป้าหมายการไปดวงจันทร์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตว่าใครจะเหนือกว่ากันในด้านเทคโนโลยีอวกาศ ในวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 สหรัฐอเมริกาส่งนักบินอวกาศไปเหยียบดวงจันทร์ได้เป็นผลสำเร็จ ก็นับว่าสหรัฐอเมริกาชนะการแข่งขันด้านอวกาศเป็นที่เรียบร้อย[9]
หากแต่ในมุมมองสหภาพโซเวียตก็ยังไม่คิดว่าการแข่งขันสิ้นสุดลง มีความพยายามในการแข่งขันตามมาอีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานีอวกาศหรือการสำรวจต่าง ๆ หากแต่ว่าการแข่งขันได้ลดความเข้มข้นลงและภายหลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย สหรัฐอเมริกาและประเทศรัสเซียได้มีโครงการความร่วมมือทางด้านอวกาศระหว่างกัน
ไทมไลน์การแข่งขันด้านอวกาศ
2 สิงหาคม ค.ศ. 1955 : สหภาพโซเวียตโต้กลับคำประกาศของสหรัฐอเมริกาโดยประกาศว่าสหภาพโซเวียตจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ
4 ตุลาคม ค.ศ. 1957 : สหภาพโซเวียตประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 (Sputnik 1) ขึ้นสู่อวกาศ นับเป็นการส่งดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรโลก
3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1957 : สหภาพโซเวียตส่งดาวเทียมสปุตนิก 2 พร้อมกับสุนัขชื่อไลก้าขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ ไลก้าเสียชีวิตในภารกิจจากความร้อนและความเครียด
31 มกราคม ค.ศ. 1958 : สหรัฐอเมริกาส่งดาวเทียมดาวเทียมเอ็กซ์พลอเรอร์ 1 (Explorer 1)
1 ตุลาคม ค.ศ. 1958 : ก่อตั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ NASA ขึ้น
18 ธันวาคม ค.ศ. 1958 : สหรัฐอเมริกาส่งดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของโลกชื่อสกอร์ (Signal Communications by Orbiting Relay Equipment หรือ SCORE) โดยเสียงของประธานาธิบดี ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ กลายเป็นเสียงของมนุษย์ที่ถูกเผยแพร่จากอวกาศเสียงแรก
2 มกราคม ค.ศ. 1959 : สหภาพโซเวียตส่งอุปกรณ์ลูน่า 1 (Luna 1) ไปยังดวงจันทร์ แต่ไม่สามารถเข้าสู่วงโคจรได้เพราะมีความเร็วมากเกินไป ลูน่า 1 กลายเป็นอุปกรณ์อวกาศชิ้นแรกที่หลุดจากวงโคจรของโลก
2 สิงหาคม ค.ศ. 1959 : สหรัฐอเมริกาส่งเอ็กซ์พลอเรอร์ 6 ดาวเทียมพยากรอากาศดวงแรกขึ้นสู่วงโคจรและถ่ายภาพโลกจากอวกาศเป็นครั้งแรก
12 สิงหาคม ค.ศ. 1959 : สหภาพโซเวียตส่งลูน่า (Luna 2) ไปสู่ดวงจันทร์ และประสบความสำเร็จในการส่งอุปกรณ์ลงบนพื้นผิวดวงจันทร์
4 ตุลาคม ค.ศ. 1959 : สหภาพโซเวียตส่งลูน่า 3 (Luna 3) และประสบความสำเร็จในการส่งวัตถุเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ พร้อมกับถ่ายภาพด้านหลังของดวงจันทร์ได้สำเร็จ
19 สิงหาคม ค.ศ. 1960 : สหภาพโซเวียตประสบความสำเร็จในการส่งสุนัขไปยังอวกาศและกลับมาที่โลกโดยยังมีชีวิตอยู่นับเป็นการส่งสัตว์ไปยังอวกาศครั้งแรกที่สัตว์มีชีวิตกลับมายังโลก
31 มกราคม ค.ศ. 1961 : สหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จในการส่งชิมแปนซีชื่อแฮมสู่อวกาศ แฮมกลายเป็นวานรตัวแรกที่ขึ้นสู่อวกาศ และประสบความสำเร็จในการมีชีวิตรอดขณะที่ลงจอด
12 เมษายน ค.ศ. 1961 : สหภาพโซเวียตสามารถส่งยูริ กาการิน ไปยังอวกาศได้สำเร็จ ทำให้ยูริ กาการิมนุษย์อวกาศคนแรก
5 พฤษภาคม ค.ศ. 1961 : สหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จในการส่งอลัน เชปเพิร์ดขึ้นสู่อวกาศ โดยเป็นการเดินทางโดยการบังคับของนักบินครั้งแรก
16 มิถุนายน ค.ศ. 1963 : สหภาพโซเวียตส่งวาเลนตีนา เตเรชโควา ขึ้นสู่อวกาศ วาเลนตีนา เตเรชโควา กลายเป็นพลเรือนคนแรก และผู้หญิงคนแรกในอวกาศ
18 มีนาคม ค.ศ. 1965 : อเลคเซย์ เลโอนอฟ นักบินอวกาศจากโซเวียตได้ปฏิบัติการออกจากยานอวกาศและทำการเคลื่อนไหวในอวกาศเป็นเวลา 12 นาที นับเป็นการครั้งแรกที่มีการเคลื่อนไหวในอวกาศนอกยานอวกาศ
14 กรกฎาคม ค.ศ. 1965 : ดาวเทียมมาริเนอร์ 4 ของสหรัฐอเมริกาเดินทางสู่ดาวอังคาร และถ่ายภาพพื้นผิวดาวอังคารระยะใกล้ได้สำเร็จ
21 ธันวาคม ค.ศ. 1968 : สหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จในการทำภารกิจอพอลโล 8 (Apollo 8) ไปยังวงโคจรของดวงจันทร์และกลับมาถึงโลกได้ นับเป็นครั้งแรกที่ยานอวกาศที่มีมนุษย์โดยสารเดินทางถึงดวงจันทร์
20-21 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 : สหรัฐอเมริกาส่งมนุษย์ไปยังพื้นผิวดวงจันทร์ได้เป็นผลสำเร็จ
11 เมษายน ค.ศ. 1970 : เกิดการระเบิดในภารกิจอพอลโล 13 ของสหรัฐอเมริกาและมีผู้รอดชีวิต นับเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุระเบิดในยานอวกาศแล้วยังมีผู้รอดชีวิตอยู่
19 เมษายน ค.ศ. 1971 : สหภาพโซเวียตได้ส่งสถานีอวกาศแห่งแรกเข้าสู่วงโคจร
1 สิงหาคม ค.ศ. 1971 : เดวิด สกอต ชาวอเมริกันกลายเป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ได้ขับยานอวกาศไปดวงจันทร์
15 กรกฎาคม ค.ศ. 1975 : ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตลดลง นำมาสู่ความร่วมมือทางด้านอวกาศครั้งแรกระหว่างสองประเทศ[10] นับเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดการแข่งขันด้านอวกาศของสองประเทศมหาอำนาจ
ผลกระทบ
การแข่งขันด้านอวกาศทำให้เกิดการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างขนานใหญ่ เกิดเทคโนโลยี เช่น ดาวเทียมสื่อสาร หรือกระทั่งนวัตกรรมถนอมอาหารเพื่อใช้ในภารกิจอวกาศ[11] นอกจากนั้นการแข่งขันด้านอวกาศยังนำไปสู่การออกกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาอวกาศ (Outer Space Treaty) ของสหประชาชาติ[12] ด้านวัฒนธรรม การแข่งขันด้านอวกาศส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมมวลชน โดยเฉพาะวัฒนธรรมมวลชนในทศวรรษที่ 1960 ที่มีฉากหลังหลาย ๆ ฉากเป็นการสำรวจอวกาศ เช่น การ์ตูน Fantastic Four ของมาร์เวล ในปี ค.ศ. 1961[13] ซีรีย์ Lost in Space ในปี ค.ศ. 1965 [14] Star Trek ในปี ค.ศ. 1966 หรือ 2001: A Space Odyssey
บรรณานุกรม
Aldo Spadoni. (2020). How Technology From the Space Race Changed the World. Retrieved from https://now.northropgrumman.com/how-technology-from-the-space-race-changed-the-world
Amy McKeever. (2022). How the space race launched an era of exploration beyond Earth. Retrieved from https://www.nationalgeographic.com/science/article/space-race-early-human-spaceflight-history-missions
Hill Aerospace Museum (2023). History of Intercontinental Ballistic Missiles (ICBMS) At Hill. Retrieved. from https://www.aerospaceutah.org/history-of-intercontinental-ballistic-missiles-icbms-at-hill/
Martand Jha. (2017). This is How the Space Race Changed the Great Power Rivalry Forever. Retrieved from https://nationalinterest.org/feature/how-the-space-race-changed-the-great-power-rivalry-forever-21690
National Air and Space Museum (2023). The Military Rockets that Launched the Space Age. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/military-rockets-launched-space-age
National Air and Space Museum (2023). What Was the Space Race?. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/what-was-space-race
Randy Kennedy. (2007). When the Space Age Blasted Off, Pop Culture Followed. Retrieved from https://www.nytimes.com/2007/09/25/science/space/25pop.html
Royal Museums Greenwich (n.d.). Space race timeline. Retrieved from https://www.rmg.co.uk/stories/topics/space-race-timeline
Space. (2020). Sputnik: The Space Race's Opening Shot. Retrieved from https://www.space.com/17563-sputnik.html
Taylor Maggiacomo and Alexander Stegmaier. (2021). Retrieved from https://www.nationalgeographic.com/magazine/graphics/a-visual-timeline-of-every-animal-ever-sent-into-space
Tegan O'Neil. (2016). How the Cold War saved Marvel and birthed a generation of superheroes. Retrieved from https://www.avclub.com/how-the-cold-war-saved-marvel-and-birthed-a-generation-1798246215
อ้างอิง
[1] อ่านเพิ่มเติมได้ที่: National Air and Space Museum (2023). What Was the Space Race?. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/what-was-space-race
[2] อ่านเพิ่มเติมได้ที่: Hill Aerospace Museum (2023). History of Intercontinental Ballistic Missiles (ICBMS) At Hill. Retrieved. from https://www.aerospaceutah.org/history-of-intercontinental-ballistic-missiles-icbms-at-hill/
[3] National Air and Space Museum (2023). The Military Rockets that Launched the Space Age. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/military-rockets-launched-space-age
[4] Space. (2020). Sputnik: The Space Race's Opening Shot. Retrieved from https://www.space.com/17563-sputnik.html
[5] National Air and Space Museum (2023). The Military Rockets that Launched the Space Age. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/military-rockets-launched-space-age
[6] Taylor Maggiacomo and Alexander Stegmaier. (2021). Retrieved from https://www.nationalgeographic.com/magazine/graphics/a-visual-timeline-of-every-animal-ever-sent-into-space
[7] Amy McKeever. (2022). How the space race launched an era of exploration beyond Earth. Retrieved from https://www.nationalgeographic.com/science/article/space-race-early-human-spaceflight-history-missions
[8] National Air and Space Museum (2023). What Was the Space Race?. Retrieved from https://airandspace.si.edu/stories/editorial/what-was-space-race
[9] Ibid.
[10] Royal Museums Greenwich (n.d.). Space race timeline. Retrieved from https://www.rmg.co.uk/stories/topics/space-race-timeline
[11] Aldo Spadoni. (2020). How Technology From the Space Race Changed the World. Retrieved from https://now.northropgrumman.com/how-technology-from-the-space-race-changed-the-world
[12] Martand Jha. (2017). This is How the Space Race Changed the Great Power Rivalry Forever. Retrieved from https://nationalinterest.org/feature/how-the-space-race-changed-the-great-power-rivalry-forever-21690
[13] Tegan O'Neil. (2016). How the Cold War saved Marvel and birthed a generation of superheroes. Retrieved from https://www.avclub.com/how-the-cold-war-saved-marvel-and-birthed-a-generation-1798246215
[14] Randy Kennedy. (2007). When the Space Age Blasted Off, Pop Culture Followed. Retrieved from https://www.nytimes.com/2007/09/25/science/space/25pop.html