พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย : เบลเยี่ยม

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:41, 15 สิงหาคม 2566 โดย Trikao (คุย | ส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง : ณัชชาภัทร อมรกุล

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ

 

          ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม หรือ ประเทศเบลเยี่ยม ได้รับเอกราชจากเนเธอร์แลนด์ใน ค.ศ. 1930 ถูกยึดครองโดยเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ประเทศนี้เจริญรุ่งเรืองในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาในฐานะรัฐในยุโรปที่ทันสมัยและก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเป็นสมาชิกของ NATO และ EU เมืองหลวงของบรัสเซลส์เป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งรวมถึงสหภาพยุโรปและนาโต้ (The World Factbook, 2023)

          เบลเยี่ยมเป็นประเทศเศรษฐกิจรายได้สูงที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีระบบสวัสดิการที่เข้มแข็ง สินค้าส่งออกหลัก คือ เคมีภัณฑ์ สินค้าทุน อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบ ยานพาหนะ และกึ่งการผลิตที่ไม่ใช่สารเคมี คู่ค้าส่งออกรายใหญ่ที่สุด คือ สหภาพยุโรป (ร้อยละ 63 ของการส่งออกทั้งหมด) (Trading Economics, 2023) ประเทศเบลเยี่ยม มีพื้นที่ 30,528 ตารางกิโลเมตร และมีจำนวนประชากร 11,913,633 คน จำนวนประชากรผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป ร้อยละ 19.91)

          ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาของการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่มีพลวัต โดยมีพื้นฐานมาจากถ่านหินและเหล็กกล้าในพื้นที่ Liège และการเติบโตของอุตสาหกรรมเคมีและการค้า ทำให้เบลเยียมได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก 

 

ประวัติศาสตร์

          คำว่าเบลเยี่ยมมาจากจากชื่อ "เบลจิกา" ที่ชาวโรมันตั้งขึ้นเพื่อเรียกภูมิภาคที่อยู่บริเวณทางตอนเหนือของภูมิภาคตะวันตกของยุโรป ซึ่งในช่วงปลายยุคกลางพื้นที่ที่เป็นเบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และฮอลแลนด์ในปัจจุบันนี้รวมกันภายใต้ชื่อจังหวัดทั้ง 17 และเป็นส่วนหนึ่งที่ปกครองโดย ดยุกแห่งเบอร์กันดี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ในฝรั่งเศส หลังจากนั้นก็เป็นของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์แฮบสเบิร์ก ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสเปน (Embassy of Belgium in Israel, 2023)

          หลังการปฏิรูปศาสนาดินแดนแถบนี้ได้กลายเป็นโปรแตสแตนท์และนิกายนี้ได้ขยายตัวไปในจังหวัดทางตอนเหนือ ซึ่งได้กลายเป็นเอกราชและก่อตั้งเป็นราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (ฮอลแลนด์) แต่ทางตอนใต้ยังคงเป็นคาธอลิคภายใต้การปกครองของสเปน

          ใน ค.ศ. 1713 ดินแดนแถบนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของออสเตรียภายใต้ ชื่อ ออสเตรียเนเธอร์แลนด์และได้ตกเป็นของจักรวรรดิ์นโปเลียนใน ค.ศ. 1792 หลังจากยุทธการที่วอเตอร์ลู ค.ศ. 1815 ส่วนหนึ่งของออสเตรียเนเธอร์แลนด์ได้รวมกับฮอลแลนด์เป็นสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ แต่ด้วยความแตกต่างทางศาสนา (belgium.be, 2023) เบลเยี่ยมจึงแยกตัวออกจากดัตช์เป็นเอกราชหลังจากนั้นเพียง 15 ปี

          หลังจากแยกตัวออกจากดัตช์ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1830 ได้มีการเลือกตั้งครั้งแรกในประเทศเบลเยี่ยม โดยผู้ชาย 30,000 คน ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดหรือเป็นผู้จ่ายภาษี และในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1831 เบลเยี่ยมมีรัฐธรรมนูญที่มีความก้าวหน้ามากในสมัยนั้น (belgium.be, 2023)

          ชาติมหาอำนาจได้ประชุมที่ลอนดอนเพื่อยอมรับสถานภาพของเบลเยี่ยมในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 หลังจากนั้น เจ้าชายลีโอโปลด์ จอร์จ คริสเตียน เฟรเดอริกแห่งแซ็กซ์-โคบวร์ก (Leopold, George, Christian, Frederick of Saxe-Coburg (ค.ศ. 1824-1884)) จากเยอรมันได้เป็นพระมหากษัตริย์แห่งเบลเยี่ยมด้วยรัฐธรรมนูญที่จำกัดพระราชอำนาจของพระองค์

          ในรัชสมัยของ พระเจ้าเลโอโปลด์ที่ 2 (Leopold II ค.ศ. 1835-1909) ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับถัดมาของเบลเยียมนั้น ทรงส่งคนไปสำรวจดินแดนแอฟริกาและทรงได้ดินแดนขนาดใหญ่ในแอฟริกากลางมาครอบครองเป็นการส่วนตัว (belgium.be, 2023) ในช่วงนั้นได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง จนจนกระทั่งใน ค.ศ. 1908 คองโกได้กลายเป็นอาณานิคมของเบลเยี่ยมทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่ยุติลง  (Embassy of Belgium in Israel, 2023)

          ในช่วงสงครามโลกครั้งที่_1 จักรวรรดิเยอรมันรุกรานความเป็นกลางของเบลเยี่ยมใน ค.ศ. 1914 เพื่อที่จะลงไปบุกฝรั่งเศส กองทัพเบลเยี่ยมได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยยึดที่มั่นทางตอนเหนือของ Ypres ร่วมกับอังกฤษและฝรั่งเศส จนกระทั่งถึงตอนสุดท้ายของสงครามใน ค.ศ. 1918 การต่อสู้อย่างกล้าหาญเช่นนี้ได้ทำให้ พระเจ้าอัลเบิร์ตที่ 1 และเบลเยี่ยมได้รับการยกย่องอย่างยิ่งใหญ่ภายหลังสงคราม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเบลเยี่ยมบอบช้ำมิใช่น้อยจากสงครามครั้งนั้น ทั้งจำนวนผู้คนที่เสียชีวิต โครงสร้างอุตสาหกรรมพื้นฐานทางอุตสาหกรรมที่ถูกทำลายอย่างอย่างย่อยยับ (Embassy of Belgium in Israel, 2023)

          ในช่วงสงครามโลกครั้งที่_2 เบลเยี่ยมถูกบุกรุกความเป็นกลางอีกครั้งจากเยอรมนีใน ค.ศ. 1940 แต่ครั้งนี้สามารถทานไว้ได้เพียง 2 สัปดาห์ และต้องตกเป็นของเยอรมนี รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ย้ายไปอยู่ที่ลอนดอนเพื่อตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใน ค.ศ. 1951 พระเจ้าลีโอโปลด์ที่ 3 (Leopold III ค.ศ.1901 -1983) ทรงสละราชสมบัติให้พระราชโอรสของพระองค์ คือ พระเจ้าโบดวงที่ 1 (Baudouin I ค.ศ. 1951-1993) ซึ่งหลังจากทรงสวรรคตใน ค.ศ. 1993 พระราชบัลลังก์ได้ตกทอดไปสู่พระเจ้าอัลเบิร์ตที่ 2 พระอนุชาของพระองค์ ซึ่งครองราชย์มาจนถึงปัจจุบัน

 

พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย

          กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ของเบลเยี่ยมได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของเบลเยี่ยม ค.ศ. 1931 แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ. 2014 (constituteproject.org, 2023) โดยให้การสืบราชสันตติวงศ์มาจากการสืบเชื้อสายของ พระเจ้าลีโอโปลด์ที่ 1 เท่านั้น หากไม่เช่นนั้นจะต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภา พระมหากษัตริย์ทรงต้องเป็นพระมหากษัตริย์ของเบลเยี่ยมเพียงประเทศเดียว หากไม่เช่นนั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา (มาตรา 85-87)

          พระมหากษัตริย์ทรงถูกละเมิดไม่ได้ คณะรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ (มาตรา 88)       

          หากพระมหากษัตริย์ทรงสวรรคต รัฐสภาต้องประชุมร่วมกันในวันที่ 10 หลังจากที่พระองค์ทรงสวรรคตในช่วงที่พระราชบัลลังก์ว่างลง มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ใช้พระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญในนามของประชาชนชาวเบลเยี่ยม (มาตรา 90)

          พระมหากษัตริย์ทรงบรรลุนิติภาวะเมื่อพระชนม์มายุ 18 พรรษา และจะเสด็จขึ้นครองราชย์ได้เมื่อทรงถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้ารัฐสภาว่า “ข้าพเจ้าสาบานว่าจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของชาวเบลเยียม เพื่อรักษาเอกราชของประเทศและบูรณภาพแห่งดินแดน” (มาตรา 91)

          สมาชิกพระราชวงศ์จะเป็นคณะรัฐมนตรีไม่ได้ (มาตรา 98)

          พระมหากษัตริย์ไม่มีอำนาจอื่นใดนอกเหนือไปจากรัฐธรรมนูญและโดยกฎหมายเฉพาะที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญเอง (มาตรา 105)

          พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไม่สามารถมีผลได้หากปราศจากการลงนามรับรองของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องนั้น ๆ (มาตรา 106)

          พระมหากษัตริย์พระราชทานตำแหน่งในกองทัพ ทรงแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารทั่วไปและราชการต่างประเทศ แต่สำหรับข้อยกเว้นที่สร้างขึ้นโดยกฎหมาย พระองค์แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอื่นโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเฉพาะเท่านั้น (มาตรา 107)

          พระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการยับยั้งและประกาศใช้กฎหมาย (มาตรา 109)

          พระมหากษัตริย์มีสิทธิที่จะพระราชทานอภัยโทษหรือผ่อนผันโทษที่ได้รับการตัดสินจากผู้พิพากษาได้ ยกเว้นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมือง (มาตรา 110)

          พระมหากษัตริย์จะไม่ทรงอภัยโทษรัฐมนตรีหรือรัฐบาลของชุมชนหรือภูมิภาคที่ถูกตัดสินโดยศาลฎีกา ยกเว้นตามคำร้องขอของสภาผู้แทนราษฎรหรือรัฐสภาที่เกี่ยวข้อง (มาตรา 111)

          พระมหากษัตริย์ใช้เงินตราได้ตามกฎหมาย (มาตรา 112)

          พระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้กับขุนนาง แต่ไม่สามารถมอบสิทธิพิเศษให้กับพวกเขาได้ (มาตรา 113)

          พระมหากษัตริย์ออกคำสั่งทางการทหารภายใต้กฎหมายที่กำหนด (มาตรา 114)

         

          ในส่วนของความสัมพันธ์กับประชาชนนั้น พระมหากษัตริย์แห่งเบลเยี่ยมทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่หลากหลาย ทรงสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับชาวเบลเยี่ยมในทุก ๆ ภาคส่วน เช่น สมาชิกของรัฐบาล ชุมชน และองค์กรในระดับภูมิภาค สมาชิกรัฐสภาและผู้นำ ท่านและสมาชิกราชวงศ์ยังทรงเป็นตัวแทนของชาวเบลเยี่ยมในระดับระหว่างประเทศ ทรงเยือนต่างประเทศในระดับรัฐ ทรงปฏิบัติภารกิจด้านการค้า และทรงมีส่วนร่วมในการประชุมระหว่างประเทศ (The Belgian Monarchy, 2023)

          นายกรัฐมนตรีและผู้นำสูงสุดในระดับภูมิภาคและชุมชนจะมาถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าพระมหากษัตริย์ แต่พระองค์ไม่ทรงแสดงบทบาททางการเมืองโดยปราศจากความร่วมมือของคณะรัฐมนตรี ทรงมีปฏิสัมพันธ์กับนักการเมืองโดย ซักถาม แสดงความคิดเห็น เสนอแนะ ตักเตือน และให้กำลังใจ พระองค์เป็นตัวแทนที่ถาวรของประเทศ พระองค์ทรงใช้อิทธิพลของพระองค์ผ่านการสนทนากับผู้ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจทางการเมือง ซึ่งทำให้พระองค์สามารถพบปะกับผู้นำทางการเมืองและตัวแทนจากหลากหลายภาคส่วนได้สม่ำเสมอ โดยพระองค์ใช้การประสานงานพูดคุยเหล่านี้ในการสร้างอิทธิพลของพระองค์ แต่ความสำคัญและผลกระทบของการดำเนินการทางการเมืองของพระมหากษัตริย์มีคามแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่บทบาทของพระองค์มีอยู่และจะดำรงอยู่ตลอดไป (The Belgian Monarchy, 2023)

          การที่พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศ์ทรงมีพระราชปฏิสันถารและพระปฏิสันถารกับประชาชนในประเทศอย่างสม่ำเสมอและการเสด็จพระราชดำเนินเยือนพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศทำให้พระองค์ได้ทรงมีข้อมูลที่สื่อถึงสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในประเทศ โครงการที่ดำเนินอยู่ตลอดจนข้อร้องเรียนต่าง ๆ และความหวังของประชาชน ซึ่งพระองค์จะรายงานไปที่คณะรัฐมนตรี  

 

อ้างอิง

belgium.be. (2023). Revolution and independence. Retrieved March 20, 2023, from belgium.be: https://www.belgium.be/en/about_belgium/country/history/belgium_from_1830

constituteproject.org. (2023). Belgium's Constitution of 1831 with Amendments through 2014. constituteproject.org. https://www.constituteproject.org/constitution/Belgium_2014.pdf?lang=en. Retrieved March 18, 2023

Embassy of Belgium in Israel. (2023). A short history of Belgium. Retrieved March 16, 2023, from Embassy of Belgium in Israel: https://israel.diplomatie.belgium.be/en/about-belgium/short-history-belgium

The Belgian Monarchy. (2023). Monarchy. Retrieved March 18, 2023, from The Belgian Monarchy: https://www.monarchie.be/en#monarchy

The World Factbook. (2023, April 27). Explore all countries: Belgium. Retrieved March 16, 2023, from The World Factbook: https://www.cia.gov/the-world-factbook/countries/belgium/

Trading Economics. (2023). Spain Exports. Retrieved March 16, 2023, from Trading Economics: https://tradingeconomics.com/spain/exports