พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์
ผู้เรียบเรียง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ : รัฐมนตรีที่เจอโทษขบถ
การเมืองในช่วงแรกหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินปี 2475 นั้นเป็นการเมืองที่ร้อนและรุนแรงอยู่พอควร ขนาดอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่คุมทั้งตำรวจและคุกมาก่อน เคยมีอำนาจมากกลับต้องมาเจอข้อหากบฏในเวลาต่อมายามที่ไร้อำนาจ ดังกรณีของพระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์( ประยูร) นักการเมืองรุ่นแรกๆ ยุคพยายามสร้างประชาธิปไตยไทยท่านเจอมาแล้ว
พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ ท่านนี้เมื่อแรกเกิดคือ ม.ร.ว.ประยูร อิศรศักดิ์ บิดาของท่านได้แก่หม่อมเจ้าเขม อิศรศักดิ์และมารดา คือ ม.ร.ว.แฉล้ม อาภรณ์กุล ท่านเกิดที่พระนครเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2416 การเรียนในระดับต้นนั้นเรียนที่โรงเรียนนวลนรดิศ ส่วนการทำงานในสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 นั้น เจ้าคุณอุดมพงศ์ฯได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชการ เคยเป็นข้าหลวงพิเศษจัดการคลังประจำภาคเหนือ สมัยนั้นเกิดมีกบฏเงี้ยว ท่านเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญระดมคนต่อสู้พวกเงี้ยวอย่างเต็มความสามารถ ประวิงเวลาจนทัพกรุงของเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรียกขึ้นไปช่วยทันและปราบกบฏได้ นอกจากนี้ท่านยังเคยเป็นสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลปัตตานี และเคยเป็นปลัดทูลฉลองกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ นับว่ามีประสบการณ์ในการทำงานมากทีเดียว
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ พ.ศ.2475 แล้ว มหาอำมาตย์ตรี พระยาอุดมพงศ์ฯผู้ซึ่งมิได้เป็นผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงฯแต่อย่างใด ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดแรก ในจำนวน 70 คน ในวันที่ 28 มิถุนายน ปีนั้น ขณะที่มีอายุ 59 ปี ในบรรดาสมาชิกสภาฯจำนวน 70 คนนี้มีผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อการฯอยู่กว่า 30 คน จึงนับว่าท่านเป็นบุคคลที่โดดเด่นในสมัยนั้นและเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากคณะผู้ก่อการฯให้เข้ามาร่วมงานด้านนิติบัญญัติ ต่อมาเมื่อนายกรัฐมนตรี พระยามโนปกรณ์นิติธาดา ดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาปิดสภาฯในวันที่ 1 เมษายน ปี 2476 และได้ปรับคณะรัฐมนตรี เจ้าคุณอุดมพงศ์ฯได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นรัฐมนตรี “ลอย” พร้อมกับพระยามานวราชเสวี และพลเรือตรี พระยาปรีชาชลยุทธ ครั้นเกิดการยึดอำนาจซ้ำโดยพระยาพหลพลพยุหเสนากับหลวงพิบูลสงคราม และหลวงศุภชลาศัย ท่านก็ต้องพ้นจากคณะรัฐบาลพร้อมกับพระยามโนฯ นายกรัฐมนตรี แต่ท่านพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีได้เพียงวันเดียว เพราะว่าในวันต่อมาเมื่อพระยาพหลฯเป็นนายกรัฐมนตรีชุดใหม่ พระยาอุดมพงศ์ฯก็ได้ร่วมรัฐบาลใหม่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญ แต่ท่านก็ร่วมรัฐบาลพระยาพหลฯได้ถึงวันที่ 16 ธันวาคม ปีเดียวกันเท่านั้น และผู้ที่เข้ามาเป็นแทนท่านก็คือตัวนายกฯเอง พิจารณาจากเหตุการณ์การเมืองในช่วงนั้นจะเห็นได้ว่าพระยาอุดมพงศ์ฯอาจทำอะไรไม่ตรงกับแนวทางของรัฐบาลก็ได้ ดังปรากฏว่าเวลานั้นมีเรื่องที่กระทบกระเทือนใจคนและกระทบรัฐบาล คือผู้นำกรรมกรรถราง นาย ถวัติ ฤทธิเดช จะยื่นฟ้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวต่อสภาผู้แทนฯ จนทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พระยาอุดมพงศ์ฯได้เขียนจดหมายถึงนายกฯในวันที่ 18 กันยายน ปี 2476 มีความว่า
“ด้วยมีหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ลงข่าวเรื่องนาย ถวัติ ฤทธิเดช ฟ้องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อสภาผู้แทนราษฎร ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในบัดนี้ น่าจะเป็นทางเพาะภัยให้แก่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนบ้านเมืองได้อย่างไม่เคยพบเห็น ระวาง(น่าจะเป็น "ระหว่าง" )นี้ได้ให้กรมอัยการตรวจอยู่แล้ว ข้าพเจ้าขอโอกาสที่จะได้นำมากราบเรียนในวันนี้เวลาบ่าย”
ต่อมาเกิดความวุ่นวายทางการเมือง มีการนำทหารหัวเมืองเข้ามาล้มรัฐบาลที่เรียกกันภายหลังว่า “กบฏบวรเดช” เมื่อรัฐบาลปราบปรามได้เรียบร้อย ก็ได้มีการจับกุมคุมขังผู้คนเป็นผู้ต้องหามาก เหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหมือนสงครามกลางเมืองกระทบผู้คนมาก มีการเล่ากันว่าพระยาอุดมพงศ์ฯ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ปฏิบัติงานดูแลผู้ต้องหากบฏดีมากไป
“เขาสั่งการอนุญาตให้ผู้ต้องหาบางคนได้รับการผ่อนปรนนอน(เตียง-ผู้เขียน)ผ้าใบในคุกได้ โดยเขาเป็นคนซื้อเตียงผ้าใบไปให้ด้วยตนเอง รวมทั้งใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวสั่งทำปินโตอาหาร ไปแจกจ่ายส่งส่วยผู้ต้องหาเหล่านั้นถึงในคุก ซึ่งทำให้รัฐบาลคณะของเขาไม่พอใจเขาเป็นอย่างยิ่ง”
เวลาผ่านมาประมาณ 6 ปีหลังจากออกมาจากรัฐบาล พระยาอุดมพงศ์ฯ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องเผชิญวิบากกรรม เพราะท่านถูกจับกุมคุมตัวตกเป็นผู้ต้องหาคดีกบฏเสียเอง กบฏนี้เรียกกันว่ากบฏปี 2481 บ้าง หรือกบฏพระยาทรงสุรเดชบ้าง เจ้าคุณอุดมพงศ์ฯถูกนำตัวขึ้นศาลพิเศษและถูกพิจารณาพิพากษาในปี 2482 ดังที่เล่ากัน
“...ในคราวเกิดกบฏเดือนตุลาคม พ.ศ.2476 และต่อๆมา พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์...จำเลยได้สะสมกำลังเพื่อช่วยเหลือทำการกบฏในครั้งนั้นด้วย... และพระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ ซึ่งได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจมาเช่นเดียวกัน จะกระทำการล้มล้างรัฐบาลและเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่”
เจ้าคุณอุดมพงศ์ฯถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการกบฏทั้งสองครั้ง ถูกลงโทษตลอดชีวิต มาได้รับการนิรโทษกรรมในปี 2487 สมัยนายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกฯ และหลังการรัฐประหาร ปี 2490 ชีวิตการเมืองของท่านฟื้นกลับมาใหม่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาชุดแรก ทำหน้าที่สำคัญสืบมาจนมีการยึดอำนาจในปี 2494 ท่านจึงพ้นจากวงการเมือง แต่ก็ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองต่อมา จนถึงอนิจกรรมในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501