คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity Coordinating Committee: ACCC)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:36, 18 มีนาคม 2559 โดย Suksan (คุย | ส่วนร่วม) (หน้าที่ถูกสร้างด้วย '==ที่มาและความสำคัญ== คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยค...')
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ที่มาและความสำคัญ

คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity Coordinating Committee: คณะกรรมการ ACCC) นั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ประเทศไทยได้นำเสนอแนวคิดในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 ณ ชะอำ-หัวหินซึ่งเป็นการประชุมเกี่ยวกับแนวคิดความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity) โดยผลจากการประชุมครั้งดังกล่าวนี้ ก่อให้เกิดการจัดตั้งคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (High Level Task Force on ASEAN Connectivity : HLTF-AC)ขึ้น ซึ่งคณะทำงานนี้จะทำหน้าที่ในการจัดทำแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน(Master Plan on ASEAN Connectivity)โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียนเพื่อปูทางไปสู่การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ.2015 ในขณะนั้น คณะรัฐมนตรีของประเทศไทย มีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายประดาบ พิบูลสงคราม อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโรม และอดีตรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนในการเข้าร่วมเจรจาดังกล่าว [1]

ภายหลังจากที่ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องดังกล่าวตลอดมา คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity Coordinating Committee: คณะกรรมการ ACCC)นั้น ก็ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการภายใต้การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่17 ในปี ค.ศ.2010 โดยคณะกรรมการ ACCC นั้น จะประกอบไปด้วยตัวแทนถาวรของแต่ละประเทศสมาชิก ซึ่งการดำเนินการแต่ละขั้นตอนนั้นจะใช้หลักฉันทามติหน้าที่หลักของตัวแทนนั้นก็คือการเป็นตัวประสานงานของแต่ละประเทศเพื่อเร่งรัดแผนงานให้เป็นไปตามแผนแม่บท รวมถึงผลักดันโครงการย่อยกว่า 15 โครงการ(15 Priority Projects) ที่จะดำเนินการเสร็จในปี ค.ศ.2015ทั้งนี้ คณะกรรมการ ACCC ได้มีการจัดประชุมไม่น้อยกว่า 7 ครั้ง โดยการประชุมครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อ 15 ตุลาคม ค.ศ.2015 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งในที่ประชุมได้มีการกล่าวถึง Master Plan on ASEAN Connectivity (MPAC) สำหรับแนวทางการจัดนโยบายภายหลังปี ค.ศ. 2015 นั่นเอง [2]

แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (Master Plan on ASEAN Connectivity)

จากการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่17 ณ กรุงฮานอย ปี ค.ศ. 2010 โดยการเสนอของคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (High Level Task Force on ASEAN Connectivity-HLTF-AC) แผนแม่บทนี้จะเปรียบเสมือนเป็นแผนที่นำทางให้อาเซียนไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015 ดำเนินการและรับผิดชอบโดยคณะทำงานสาขาต่างๆ ในอาเซียน (ASEAN Sectoral Bodies) แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนมุ่งที่จะพัฒนาการติดต่อเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน โดยครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ [3]

1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่โครงการต่างๆ[4] เช่นการลงทุน การก่อสร้างด้านคมนาคม เช่น ถนน และระบบรถไฟ ท่าอากาศยาน และท่าเรือนอกจากนี้ยังพัฒนาระบบ Logistics เพื่อรองรับการขนส่งสินค้า อันเป็นพื้นฐานของระบบขนส่งในอาเซียน การเชื่อมโยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเชื่อมโยงด้านพลังงาน เช่น โครงการท่อก๊าซและระบบสายส่งไฟฟ้าของอาเซียน

2.ด้านกฎระเบียบ เป็นความเชื่อมโยงในเรื่องกฎหมาย และข้อตกลงต่างๆตามความตกลงพิธีสาร ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการข้ามแดนให้เป็นไปโดยสะดวกรวดเร็วและโปร่งใส ทั้งนี้ได้แก่ พิธีการด้านศุลกากร พิธีการตรวจคนเข้าเมือง อาชญากรรมข้ามชาติ แรงงานผิดกฎหมาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า อันเป็นการลดต้นทุนในการเคลื่อนย้ายสินค้าแก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

3.ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน แผนจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนให้ดีขึ้น ทั้งด้านกายภาพ ให้ประชาชนเดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกขึ้น มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน และด้านความรู้สึกนึกคิดให้ประชาชนมีสำนึกความเป็นอาเซียนว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางการศึกษา สนับสนุนโครงการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ เสริมสร้างความเชื่อมโยงทางสังคม วัฒนธรรม ผ่านการเรียนรู้วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ของกันและกัน [5]

อนุกรรมการในประเทศไทยและบทบาทของประเทศไทย

ประเทศไทยได้มีการจัดตั้งอนุกรรมการว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน โดยมีรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน[6] โดยในการนี้คณะกรรมการได้เร่งรัดให้มีการดำเนินการตามแผนแม่บทที่กำหนดไว้ ด้วยการส่งเสริมโครงการด้านความเชื่อมโยงที่เป็นรูปธรรมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านกายภาพ ด้านกฎระเบียบ และด้านระหว่างประชาชน โดยไทยพร้อมที่จะผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อให้รัฐมนตรีการต่างประเทศอาเซียนได้ใช้เส้นทางที่สำคัญเช่น โครงการ Boat Trip เชื่อม 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย[7] โครงการสำรวจเส้นทางสำหรับรัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อสำรวจเศรษฐกิจในพื้นที่ เส้นทางหมายเลข9 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต-ดานัง)ในปี ค.ศ. 2009 และเส้นทางR3A (เชียงของ-ห้วยทราย-จิ่งหง) ในปี ค.ศ. 2010 นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมต่างๆ [8] เช่น

1. การประชุม “ASEAN Workshop on Cross-Border Management : A Key to Efficient ASEAN Connectivity” เมื่อวันที่ 13-15 มิถุนายน ค.ศ.2012 โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายในอาเซียนเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานอาเซียนในการบริหารงานข้ามพรมแดน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนไหวแรงงาน การคมนาคมระหว่างประเทศ

2. การประชุม “ASEAN+3 Partnership On Connectivityเพื่อผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างกันใน ASEAN+3 อย่างเป็นรูปธรรมและยกระดับไปสู่ความเชื่อมโยงในเอเชียตะวันออกอันเป็นเป้าหมายระยะยาว

บทสรุป

การที่จะเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ย่อมจะต้องมีความสัมพันธ์ติดต่อเชื่อมโยงระหว่างกันโดยสะดวก รวดเร็ว ซึ่งการจัดตั้งอนุกรรมการประสานงานว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ก็เป็นจุดเริ่มต้นหนึ่ง ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ และเร่งรัดให้แผนงานเป็นไปตามที่แผนแม่บทกำหนดไว้ ซึ่งตลอดเวลาที่คณะกรรมการได้ดำเนินงานนั้น ก็ยังผลให้เกิดโครงการต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ก็ด้วยการสนับสนุนของเหล่าหน่วยงานในอาเซียน ประเทศในกลุ่มและประเทศนอกกลุ่มนั่นเอง ซึ่งคณะกรรมการสามารถเชิญคณะกรรมการประสานงานอื่นๆ[9] หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ธนาคารโลก สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสำหรับอาเซียนและเอเชียตะวันออก หน่วยงานเอกชนทั่วไป และอื่นๆ เข้าร่วมการประชุมเมื่อมีความจำเป็นได้อีกด้วย

บรรณานุกรม

Vietnambreakingnews.2015.ASEAN accelerates building post-2015 connectivity master plan. http://www.vietnambreakingnews.com/2015/10/asean-accelerates-building-post-2015-connectivity-master-plan/(Accessed Jan11, 2016)

กองอาเซียน 3 กรมอาเซียน.2555.”บทบาทของไทย.” http://nbr.ac.th/index.php/2014-10-08-04-58-32/item/412-2015-feb-08-13-50-48 (accessed June 28, 2015)

กองเศรษฐกิจ กรมอาเซียน.2558. “การเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน(ASEAN Connectivity).“ https://lovebasandtakkycom.wordpress.com/เกี่ยวกับasean/การเชื่อมโยงระหว่างกัน/ (accessed July 2, 2015)

กลุ่มงานนโยบาย.กรมอาเซียน.2554.’สถานะล่าสุดของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558.”< http://www.nakhonratchasima.go.th/download/AEC/AC/AC10.pdf >(accessed June 25, 2015)

ประดาป พิบูลสงคราม.2011. “ASEAN Highlights:สร้างความเชื่อมโยงในอาเซียนเพื่อ ประโยชน์ของประชาชนชาวไทย.” <http://www.mfa.go.th/asean/contents/files/asean-media-center-20121204-122503-499440.pdf.> (accessed July 1, 2015)

ศูนย์ข้อมูลอาเซียนของกรุงเทพมหานคร.2014”การเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน(ASEAN Connectivity).” http://asean.bangkok.go.th/index.php/2014-02-15-14-02-16/asean-connectivity (accessed July 1, 2015)

ASEAN Coordinating Council.2011“Terms of reference for the ASEAN connecticity Coordinating committee.” http://www.thaiembassy.org/permanent.jakarta/contents/filemanager/Terms%20of%20Reference%20of%20the%20ASEAN%20Connectivity%20Coordiinating%20Committee(Adopted%20by%20ACC-17Jan2011).pdf(accessed June 25, 2015)

อ้างอิง

  1. ↑ กองเศรษฐกิจ กรมอาเซียน.2558. “การเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน(ASEAN Connectivity).“https://lovebasandtakkycom.wordpress.com/เกี่ยวกับasean/การเชื่อมโยงระหว่างกัน/(accessed July 2, 2015)
  2. ↑ Vietnambreakingnews.2015.”ASEAN accelerates building post-2015 connectivity master plan.” http://www.vietnambreakingnews.com/2015/10/asean-accelerates-building-post-2015-connectivity-master-plan/(Accessed Jan11, 2016)
  3. ↑ เพิ่งอ้าง.
  4. ↑ ศูนย์ข้อมูลอาเซียนของกรุงเทพมหานคร.2014”การเชื่อมโยงในภูมิภาคอาเซียน(ASEAN Connectivity).”http://asean.bangkok.go.th/index.php/2014-02-15-14-02-16/asean-connectivity (accessed July 1, 2015)
  5. ↑ ประดาป พิบูลสงคราม.2011. “ASEAN Highlights:สร้างความเชื่อมโยงในอาเซียนเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทย.” <http://www.mfa.go.th/asean/contents/files/asean-media-center-20121204-122503-499440.pdf.> (accessed July 1, 2015)
  6. ↑ กองเศรษฐกิจ กรมอาเซียน.2558.อ้างแล้ว.
  7. ↑ กลุ่มงานนโยบาย.กรมอาเซียน.2554.’สถานะล่าสุดของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558.”< http://www.nakhonratchasima.go.th/download/AEC/AC/AC10.pdf >(accessed June 25, 2015)
  8. ↑ กองอาเซียน 3 กรมอาเซียน.2555.”บทบาทของไทย.” http://nbr.ac.th/index.php/2014-10-08-04-58-32/item/412-2015-feb-08-13-50-48 (accessed June 28, 2015)
  9. ↑ ASEAN Coordinating Council.2011“Terms of reference for the ASEAN connecticity coordinating committee.”http://www.thaiembassy.org/permanent.jakarta/contents/filemanager/Terms%20of%20Reference%20of%20the%20ASEAN%20Connectivity%20Coordiinating%20Committee(Adopted%20by%20ACC-17Jan2011).pdf(accessed June 25, 2015)
เข้าถึงจาก "https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน_(ASEAN_Connectivity_Coordinating_Committee:_ACCC)&oldid=12377"