การประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:47, 5 เมษายน 2565 โดย Trikao (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าด้วย " '''ผู้เรียบเรียง :''' ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนารัตน์ มาศฉม...")
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนารัตน์ มาศฉมาดล

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ

 

ผู้ใดมีหน้าที่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

          การรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทยก่อนที่จะมีคณะกรรมการการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร_พ.ศ._2522 กำหนดให้นายอำเภอ มีหน้าที่ส่งรายงานการเลือกตั้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดโดยด่วน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรวมยอดคะแนนการเลือกตั้งและประกาศผลการเลือกตั้งโดยเร็วและให้รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อแจ้งต่อไปยังรัฐสภา[1]

          องค์กรที่ทำหน้าที่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้เป็นหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้มีหน้าที่และอำนาจในการจัดหรือดำเนินการให้มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกสมาชิกวุฒิสภา การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และการออกเสียงประชามติ พร้อมทั้งมีหน้าที่ควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และควบคุมดูแลการออกเสียงประชามติให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อการนี้ ให้มีอำนาจสืบสวน หรือไต่สวนได้ตามที่จําเป็นหรือที่เห็นสมควร ผลการสืบสวนหรือไต่สวนหรือเมื่อพบเห็นการกระทําที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการออกเสียงประชามติ เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้มีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั้ง หรือการเลือก หรือการออกเสียงประชามติ และสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้ง เลือก หรือออกเสียงประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วย หรือทุกหน่วย[2] ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการเพื่อการประกาศผลการเลือกตั้งให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร[3]

 

หลักการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

          เกณฑ์ทั่วไปในการพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีดังนี้[4]

          1) คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ในการตรวจสอบคณะกรรมการต้องรับฟังรายงานของผู้ตรวจการเลือกตั้งและข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากแหล่งต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย  

          2) มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละเก้าสิบห้าของเขตเลือกตั้งทั้งหมด

          3) ระยะเวลาประกาศผลการเลือกตั้งต้องไม่ช้ากว่า 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง

          4) ผู้ได้รับเลือกตั้ง คือ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนสูงกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดในเขตเลือกตั้งนั้น หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งนั้น ให้จัดการเลือกตั้งใหม่[5] 

          ในกรณีที่มีผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเท่ากันหลายคน ให้ใช้วิธีการจับสลาก ซึ่งต้องกระทําต่อหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง[6]

          5) เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจพบหลักฐานการทุจริตในการเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคําร้องต่อ “ศาลฎีกา” เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น[7]

 

บรรณานุกรม

ราชกิจจานุเบกษา/เล่ม 134/ตอนที่ 40 ก/ 6 เมษายน 2560. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

ราชกิจจานุเบกษา/เล่ม 135/ตอนที่ 68 ก/หน้า 89/12 กันยายน 2561. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

 

อ้างอิง

[1] มาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522

[2] มาตรา 224 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

[3] มาตรา 85 วรรคสาม แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

[4] มาตรา 85 วรรคสี่ แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 127 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

[5] มาตรา 126 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

[6] มาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561

[7] มาตรา 226 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560