ผลต่างระหว่างรุ่นของ "20 มิถุนายน พ.ศ. 2476"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 เป็นวันที่มีคณะทหารเข้ายึดอำนาจซ้ำขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยมี พ.อ. พระยาพหลพยุหเสนา เป็นหัวหน้า ที่เรียกตำแหน่งในตอนยึดอำนาจว่า “ผู้รักษาพระนคร” และมีนายทหารบกและทหารเรือคนสำคัญในคณะราษฎร อีก 2 ท่านร่วม คือ พ.ท.หลวงพิบูลสงคราม เป็นเลขานุการฝ่ายทหารบก และ น.ต. หลวงศุภชลาศัย เป็นเลขานุการฝ่ายทหารเรือ ขณะนั้นพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นนายกรัฐมนตรี
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 เป็นวันที่มีคณะทหารเข้ายึดอำนาจซ้ำขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยมี [[พ.อ. พระยาพหลพยุหเสนา]] เป็นหัวหน้า ที่เรียกตำแหน่งในตอนยึดอำนาจว่า “[[ผู้รักษาพระนคร]]” และมีนายทหารบกและทหารเรือคนสำคัญใน[[คณะราษฎร]] อีก 2 ท่านร่วม คือ [[พ.ท.หลวงพิบูลสงคราม]] เป็นเลขานุการฝ่ายทหารบก และ [[น.ต. หลวงศุภชลาศัย]] เป็นเลขานุการฝ่ายทหารเรือ ขณะนั้น[[พระยามโนปกรณ์นิติธาดา]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]


การยึดอำนาจในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 นี้น่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายในคณะราษฎรหรือคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองระดับผู้นำสำคัญเอง เพราะโดยตัวนายกรัฐมนตรี คือ พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเองนั้นไม่ได้มีอำนาจในตัวท่านเองมากนัก และการขัดแย้งที่ปรากฏก็เป็นเรื่องเค้าโครงเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มอบให้หลวงประดิษฐ์มนูธรรมไปจัดทำมาเสนอ เมื่อจัดทำมาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก็มีความเห็นแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รัฐบาลยังไม่นำเสนอต่อสภา จนมีสมาชิกสภาซักถามและตำหนิรัฐบาล ทางเสียงข้างมากในคณะรัฐมนตรีมองว่าแนวทางในเค้าโครงเศรษฐกิจเป็นไปทางสังคมนิยมมาก ถึงขนาดกล่าวอ้างไปในทางเสียหาย
การยึดอำนาจในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 นี้น่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายในคณะราษฎรหรือคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองระดับผู้นำสำคัญเอง เพราะโดยตัว[[นายกรัฐมนตรี]] คือ พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเองนั้นไม่ได้มีอำนาจในตัวท่านเองมากนัก และการขัดแย้งที่ปรากฏก็เป็นเรื่องเค้าโครงเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มอบให้[[หลวงประดิษฐ์มนูธรรม]]ไปจัดทำมาเสนอ เมื่อจัดทำมาเสนอให้[[คณะรัฐมนตรี]]พิจารณาก็มีความเห็นแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รัฐบาลยังไม่นำเสนอต่อสภา จนมีสมาชิกสภาซักถามและตำหนิรัฐบาล ทางเสียงข้างมากในคณะรัฐมนตรีมองว่าแนวทางใน[[เค้าโครงเศรษฐกิจ]]เป็นไปทางสังคมนิยมมาก ถึงขนาดกล่าวอ้างไปในทางเสียหาย


เมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามในสภาโดยไม่เกรงใจรัฐบาลเช่นนั้น  ทางนายกรัฐมนตรีและพวกซึ่งน่าจะมีฝ่ายทหารบก  กลุ่มสนับสนุนจึงออกพระราชกฤษฎีกาปิดสภา และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 และมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ให้รัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยออกไป และออกกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ฉบับแรกออกมาใช้ขณะที่ปิดสภา
เมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามในสภาโดยไม่เกรงใจรัฐบาลเช่นนั้น  ทางนายกรัฐมนตรีและพวกซึ่งน่าจะมีฝ่ายทหารบก  กลุ่มสนับสนุนจึงออก[[พระราชกฤษฎีกาปิดสภา]] และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 และมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ให้รัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยออกไป และออกกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ฉบับแรกออกมาใช้ขณะที่ปิดสภา
แต่ความตึงเครียดทางการเมืองอันเนื่องมาจากปิดสภาก็ได้มีอยู่ประมาณ 80 วัน ถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2476 คณะทหารที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดสภาจึงยึดอำนาจ ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก และขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการเปิดสภา จากนั้นพระยาพหลพยุหเสนา หัวหน้าคณะทหารจึงเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพระยามโนปกรณ์นิติธาดา อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นเมื่อลาออกจากหัวหน้ารัฐบาลแล้วก็เดินทางไปลี้ภัยอยู่ที่เมืองปีนัง  ประเทศมลายู และอยู่นานต่อมาจนเสียชีวิตที่นั่น
แต่ความตึงเครียดทางการเมืองอันเนื่องมาจากปิดสภาก็ได้มีอยู่ประมาณ 80 วัน ถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2476 คณะทหารที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดสภาจึงยึดอำนาจ ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก และขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการเปิดสภา จากนั้นพระยาพหลพยุหเสนา หัวหน้าคณะทหารจึงเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพระยามโนปกรณ์นิติธาดา อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นเมื่อลาออกจากหัวหน้ารัฐบาลแล้วก็เดินทางไปลี้ภัยอยู่ที่เมืองปีนัง  ประเทศมลายู และอยู่นานต่อมาจนเสียชีวิตที่นั่น


[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:35, 16 กันยายน 2556

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 เป็นวันที่มีคณะทหารเข้ายึดอำนาจซ้ำขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 โดยมี พ.อ. พระยาพหลพยุหเสนา เป็นหัวหน้า ที่เรียกตำแหน่งในตอนยึดอำนาจว่า “ผู้รักษาพระนคร” และมีนายทหารบกและทหารเรือคนสำคัญในคณะราษฎร อีก 2 ท่านร่วม คือ พ.ท.หลวงพิบูลสงคราม เป็นเลขานุการฝ่ายทหารบก และ น.ต. หลวงศุภชลาศัย เป็นเลขานุการฝ่ายทหารเรือ ขณะนั้นพระยามโนปกรณ์นิติธาดา เป็นนายกรัฐมนตรี

การยึดอำนาจในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 นี้น่าจะมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายในคณะราษฎรหรือคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองระดับผู้นำสำคัญเอง เพราะโดยตัวนายกรัฐมนตรี คือ พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเองนั้นไม่ได้มีอำนาจในตัวท่านเองมากนัก และการขัดแย้งที่ปรากฏก็เป็นเรื่องเค้าโครงเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มอบให้หลวงประดิษฐ์มนูธรรมไปจัดทำมาเสนอ เมื่อจัดทำมาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก็มีความเห็นแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รัฐบาลยังไม่นำเสนอต่อสภา จนมีสมาชิกสภาซักถามและตำหนิรัฐบาล ทางเสียงข้างมากในคณะรัฐมนตรีมองว่าแนวทางในเค้าโครงเศรษฐกิจเป็นไปทางสังคมนิยมมาก ถึงขนาดกล่าวอ้างไปในทางเสียหาย

เมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามในสภาโดยไม่เกรงใจรัฐบาลเช่นนั้น ทางนายกรัฐมนตรีและพวกซึ่งน่าจะมีฝ่ายทหารบก กลุ่มสนับสนุนจึงออกพระราชกฤษฎีกาปิดสภา และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 และมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ให้รัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยออกไป และออกกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ฉบับแรกออกมาใช้ขณะที่ปิดสภา

แต่ความตึงเครียดทางการเมืองอันเนื่องมาจากปิดสภาก็ได้มีอยู่ประมาณ 80 วัน ถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2476 คณะทหารที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดสภาจึงยึดอำนาจ ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก และขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการเปิดสภา จากนั้นพระยาพหลพยุหเสนา หัวหน้าคณะทหารจึงเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพระยามโนปกรณ์นิติธาดา อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นเมื่อลาออกจากหัวหน้ารัฐบาลแล้วก็เดินทางไปลี้ภัยอยู่ที่เมืองปีนัง ประเทศมลายู และอยู่นานต่อมาจนเสียชีวิตที่นั่น