ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดำรงไทย (พ.ศ.2549)"
สร้างหน้าใหม่: '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐ... |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 6: | บรรทัดที่ 6: | ||
'''พรรคดำรงไทย (2549)''' | '''พรรคดำรงไทย (2549)''' | ||
พรรคดำรงไทยได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2549<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 32ง หน้า 109</ref> โดยมีนายณัฐวัฒน์ นุชนารถ<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 32ง หน้า 147</ref> | พรรคดำรงไทยได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2549<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 32ง หน้า 109</ref> โดยมีนายณัฐวัฒน์ นุชนารถ<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123 ตอนที่ 32ง หน้า 147</ref> ดำรงตำแหน่งเป็น[[หัวหน้าพรรค]] ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2549<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่ 60ง หน้า 140</ref> นายณัฐวัฒน์ นุชนารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคดำรงไทยทำให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคดำรงไทย ทำให้ต้องมีการสรรหาตำแหน่งหัวหน้าพรรคขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ที่ประชุมพรรคได้มีมติเลือกนายนายโชติพัฒน์ สกุลดีเชิดชู<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนที่ 92ง หน้า 120</ref> ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค | ||
ในส่วนการดำเนิน[[กิจกรรมทางการเมือง]]อย่างเป็นทางการของพรรคนั้น เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรรคดำรงไทยได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ทั้ง[[แบบสัดส่วน]]และ[[แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง]]โดยแบ่งเป็นแบบสัดส่วนจำนวน 10 คน และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 11 คน ซึ่งทั้งหมดมิได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด | |||
รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ | รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ | ||
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 14: | ||
'''นโยบายด้านการเมืองการปกครอง''' | '''นโยบายด้านการเมืองการปกครอง''' | ||
1. | 1.สนับสนุนและส่งเสริมการปกครองภายใต้[[ระบอบประชาธิปไตย]] อันมี[[พระมหากษัตริย์]]ทรงเป็นประมุขของชาติ | ||
2. | 2.มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ[[อำนาจอธิปไตย]] โดยปราศจากการแทรกแซงด้วยอำนาจแฝงอื่นๆ | ||
3.เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นลำดับแรก | 3.เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นลำดับแรก | ||
บรรทัดที่ 36: | บรรทัดที่ 36: | ||
'''ด้านการพัฒนาสังคม''' | '''ด้านการพัฒนาสังคม''' | ||
1. | 1.ยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่าง[[เท่าเทียม]]ทุกสาขาอาชีพ | ||
2.สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาการศึกษาแห่งชาติ | 2.สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาการศึกษาแห่งชาติ | ||
บรรทัดที่ 71: | บรรทัดที่ 71: | ||
3.กระจายสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานให้ครบทุกจังหวัด | 3.กระจายสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานให้ครบทุกจังหวัด | ||
4. | 4.จัดตั้งสถาบันประกันมาตรฐานแรงงานเพื่อรับรองคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญให้เป็นที่ยอมรับ | ||
5.ส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและไตรภาคี | 5.ส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและไตรภาคี | ||
บรรทัดที่ 102: | บรรทัดที่ 102: | ||
'''นโยบายด้านความมั่นคง''' | '''นโยบายด้านความมั่นคง''' | ||
1. | 1.เร่งขจัดปัญหาการ[[คอรัปชั่น]]ทุกองค์กร | ||
2.ลดระยะเวลาประจำการของทหารเกณฑ์ลงเหลือ 1 ปี แต่เพิ่มจำนวนการเกณฑ์ทหารประจำการให้มากขึ้นเป็นสองเท่า | 2.ลดระยะเวลาประจำการของทหารเกณฑ์ลงเหลือ 1 ปี แต่เพิ่มจำนวนการเกณฑ์ทหารประจำการให้มากขึ้นเป็นสองเท่า |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 22:09, 23 มิถุนายน 2553
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคดำรงไทย (2549)
พรรคดำรงไทยได้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2549[1] โดยมีนายณัฐวัฒน์ นุชนารถ[2] ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2549[3] นายณัฐวัฒน์ นุชนารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคดำรงไทยทำให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคดำรงไทย ทำให้ต้องมีการสรรหาตำแหน่งหัวหน้าพรรคขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ที่ประชุมพรรคได้มีมติเลือกนายนายโชติพัฒน์ สกุลดีเชิดชู[4] ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ในส่วนการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคนั้น เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรรคดำรงไทยได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบสัดส่วนและแบบแบ่งเขตเลือกตั้งโดยแบ่งเป็นแบบสัดส่วนจำนวน 10 คน และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 11 คน ซึ่งทั้งหมดมิได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ
นโยบายด้านการเมืองการปกครอง
1.สนับสนุนและส่งเสริมการปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ
2.มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนไทยทุกคนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย โดยปราศจากการแทรกแซงด้วยอำนาจแฝงอื่นๆ
3.เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นลำดับแรก
นโยบายด้านเศรษฐกิจ
1.ดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจแบบเสรี โดยยึดหลักผลประโยชน์ของปวงชนเป็นเป้าหมาย ปรับปรุงโครงสร้างสถาบันการเงินให้มีศักยภาพ
2.กระจายรายได้ด้วยมาตรการกระจายการลงทุนไปสู่ส่วนภูมิภาคอย่างทั่วถึง
3.ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตให้สอดรับกับการลงทุนทุกภาคส่วนของประเทศ
4.ใช้มาตรการการเงินและการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทให้คงที่
5.ส่งเสริมให้มีการลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้านการพัฒนาสังคม
1.ยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเท่าเทียมทุกสาขาอาชีพ
2.สนับสนุนให้มีการจัดตั้งสภาการศึกษาแห่งชาติ
3.ยกเลิกการจัดเก็บค่าเล่าเรียนของบุตรผู้มีรายได้น้อยโดยส่งเสริมให้ทุนเล่าเรียนถึงระดับปริญญาตรี
4.สนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา โดยจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการศึกษาระดับชุมชน
นโยบายด้านการต่างประเทศ
1.พัฒนาและกระชับความสัมพันธ์กับต่างชาติ โดยอาศัยเวทีการเมืองระหว่างประเทศเป็นหลัก
2.แก้ปัญหาผู้อพยพและแรงงานต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านให้ยุติอย่างมีขอบเขต
3.ใช้มาตรการการค้าระหว่างประเทศนำร่องเชื่อมมิตรสัมพันธไมตรี
นโยบายด้านการเกษตร
1.แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน โดยจัดตั้งกองทุนซื้อที่ดินกลับคืนจากเอกชน ออกพระราชบัญญัติเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ใช้มาตรการทางภาษีกับผู้ที่ครอบครองที่ดินผืนใหญ่มิให้ถือครองเกินระยะเวลา 2 ปี
2.แก้ไขปัญหาความแห้งแล้ง โดยการปฏิรูปพัฒนาลุ่มน้ำ จัดตั้งกรมฝนหลวงเพื่อทำฝนเทียมในฤดูแล้ง พัฒนาระบบน้ำจากทุกเขื่อน เพื่อผันน้ำสู่พื้นที่ทางการเกษตร
3.แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร โดยการยกเลิกการจำนำผลผลิตทางการเกษตรทุกประเภท ส่งเสริมให้องค์กรภาคการเกษตรรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรโดยตรง และสร้างคลังสินค้ากลางให้ครบทุกภูมิภาคของประเทศ
นโยบายด้านอุตสาหกรรม
1.รัฐร่วมลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตในชนิดที่ขาดแคลนเพื่อนำร่อง
2.พัฒนาและส่งเสริมสภาพคล่องแกบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม
3.กระจายสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานให้ครบทุกจังหวัด
4.จัดตั้งสถาบันประกันมาตรฐานแรงงานเพื่อรับรองคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญให้เป็นที่ยอมรับ
5.ส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและไตรภาคี
6.จัดตั้งศูนย์แรงงานเพื่อบริการจัดหางานและจัดระบบแรงงานที่เป็นธรรม
7.พัฒนาระบบการจัดสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานอย่างทั่วถึง
นโยบายด้านสาธารณสุข
1.จัดระบบการประกันสุขภาพของประชาชน ให้มีโอกาสรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมในทุกภูมิภาค
2.พัฒนาและยกระดับสถานีอาณามัย
3.จัดระบบบริการรักษาพยาบาลแบบไม่เก็บค่าใช้จ่ายแก่ผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
นโยบายด้านการศึกษาและศาสนา
1.การศึกษาภาคบังคับไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนทุกระดับ
2.การศึกษานอกโรงเรียนบริการฟรีถึงระดับครัวเรือนทุกชุมชน
3.ส่งเสริมให้มีสภาการศึกษาและวิชาการระดับชาติ
4.ส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากที่สุด
นโยบายด้านความมั่นคง
1.เร่งขจัดปัญหาการคอรัปชั่นทุกองค์กร
2.ลดระยะเวลาประจำการของทหารเกณฑ์ลงเหลือ 1 ปี แต่เพิ่มจำนวนการเกณฑ์ทหารประจำการให้มากขึ้นเป็นสองเท่า
นโยบายด้านการต่างประเทศ
1.ยึดมั่นในทุกพันธกรณีที่ได้ให้สัตยาบันไว้ทุกประเทศ
2.แสวงหาแนวร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศในการขจัดปัญหาการก่อการร้าย
3.ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมทุกชาติ
4.กำหนดบทบาทและทิศทางความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน
5.ผ่อนปรนเงื่อนไขทางการค้า การเข้าเมืองและการส่งผ่านสินค้าเข้าออกกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ