ผลต่างระหว่างรุ่นของ "8 ธันวาคม พ.ศ. 2484"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุต...'
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่[[นายกรัฐมนตรี]] [[จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] ได้ตกลงใจยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทย โดยมีคำสั่งให้ทหารไทยที่ทำการรบต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นที่บุกเข้าประเทศไทยตั้งแต่คืนวันที่ 7 หยุดยิง ทั้งนี้ ในวันต่อมาคือวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ได้มีการเรียก  [[ประชุมวิสามัญสภาผู้แทนราษฎร]]เป็นกรณีพิเศษ เพื่อ[[รัฐบาล]]จักได้นำเรื่องการตัดสินใจให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยแจ้งให้สภาได้ทราบ การเดินผ่านของกองทัพญี่ปุ่นนี้ เพื่อจะบุกเข้าไปทางพม่า มลายูและสิงคโปร์ ประเสริฐ  ปัทมะสุคนธ์ อดีต[[เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร]]ได้บันทึกถึง[[การประชุมสภา]]ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เอาไว้บางตอนดังนี้
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่[[นายกรัฐมนตรี]] [[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] ได้ตกลงใจยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทย โดยมีคำสั่งให้ทหารไทยที่ทำการรบต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นที่บุกเข้าประเทศไทยตั้งแต่คืนวันที่ 7 หยุดยิง ทั้งนี้ ในวันต่อมาคือวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ได้มีการเรียก  [[ประชุมวิสามัญสภาผู้แทนราษฎร]]เป็นกรณีพิเศษ เพื่อ[[รัฐบาล]]จักได้นำเรื่องการตัดสินใจให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยแจ้งให้สภาได้ทราบ การเดินผ่านของกองทัพญี่ปุ่นนี้ เพื่อจะบุกเข้าไปทางพม่า มลายูและสิงคโปร์ ประเสริฐ  ปัทมะสุคนธ์ อดีต[[เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร]]ได้บันทึกถึง[[การประชุมสภา]]ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เอาไว้บางตอนดังนี้


“มวลสมาชิกได้รับทราบดังนั้นแล้ว เพราะเหตุที่ได้กล่าวแล้วว่าคนไทยทุกคนได้รับการปลุกใจให้รักชาติ ให้ทำการต่อสู้ศัตรู ตามกฎหมายกำหนดหน้าที่ของคนไทยในการรบ เมื่อทราบว่ารัฐบาลยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านไป โดยไม่ได้มีการต่อสู้ตามที่เคยประกาศชักชวนปลุกใจไว้ ยังตรงกันข้ามกับจิตใจของคนไทยในขณะนั้น จึงทำให้การประชุมในครั้งนั้นเป็นการประชุมที่สุดแสนเศร้าที่สุด ทั้งสมาชิกสภา [[รัฐมนตรี]] ได้[[อภิปราย]]ซักถามโต้ตอบกับด้วยน้ำตานองหน้า ความรู้สึกของทุกคนในขณะนั้น คล้ายกับว่าเด็กถูกผู้ใหญ่ที่มีกำลังมหาศาลรังแก จะสู้ก็สู้ไม่ได้ ทั้งมีความวิตกว่าประเทศไทยได้สูญเสียเอกราชอธิปไตย”
“มวลสมาชิกได้รับทราบดังนั้นแล้ว เพราะเหตุที่ได้กล่าวแล้วว่าคนไทยทุกคนได้รับการปลุกใจให้รักชาติ ให้ทำการต่อสู้ศัตรู ตามกฎหมายกำหนดหน้าที่ของคนไทยในการรบ เมื่อทราบว่ารัฐบาลยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านไป โดยไม่ได้มีการต่อสู้ตามที่เคยประกาศชักชวนปลุกใจไว้ ยังตรงกันข้ามกับจิตใจของคนไทยในขณะนั้น จึงทำให้การประชุมในครั้งนั้นเป็นการประชุมที่สุดแสนเศร้าที่สุด ทั้งสมาชิกสภา [[รัฐมนตรี]] ได้[[อภิปราย]]ซักถามโต้ตอบกับด้วยน้ำตานองหน้า ความรู้สึกของทุกคนในขณะนั้น คล้ายกับว่าเด็กถูกผู้ใหญ่ที่มีกำลังมหาศาลรังแก จะสู้ก็สู้ไม่ได้ ทั้งมีความวิตกว่าประเทศไทยได้สูญเสียเอกราชอธิปไตย”

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:28, 15 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่นายกรัฐมนตรี จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ตกลงใจยอมให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทย โดยมีคำสั่งให้ทหารไทยที่ทำการรบต่อสู้กับทหารญี่ปุ่นที่บุกเข้าประเทศไทยตั้งแต่คืนวันที่ 7 หยุดยิง ทั้งนี้ ในวันต่อมาคือวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ได้มีการเรียก ประชุมวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อรัฐบาลจักได้นำเรื่องการตัดสินใจให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพผ่านประเทศไทยแจ้งให้สภาได้ทราบ การเดินผ่านของกองทัพญี่ปุ่นนี้ เพื่อจะบุกเข้าไปทางพม่า มลายูและสิงคโปร์ ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้บันทึกถึงการประชุมสภาในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เอาไว้บางตอนดังนี้

“มวลสมาชิกได้รับทราบดังนั้นแล้ว เพราะเหตุที่ได้กล่าวแล้วว่าคนไทยทุกคนได้รับการปลุกใจให้รักชาติ ให้ทำการต่อสู้ศัตรู ตามกฎหมายกำหนดหน้าที่ของคนไทยในการรบ เมื่อทราบว่ารัฐบาลยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นผ่านไป โดยไม่ได้มีการต่อสู้ตามที่เคยประกาศชักชวนปลุกใจไว้ ยังตรงกันข้ามกับจิตใจของคนไทยในขณะนั้น จึงทำให้การประชุมในครั้งนั้นเป็นการประชุมที่สุดแสนเศร้าที่สุด ทั้งสมาชิกสภา รัฐมนตรี ได้อภิปรายซักถามโต้ตอบกับด้วยน้ำตานองหน้า ความรู้สึกของทุกคนในขณะนั้น คล้ายกับว่าเด็กถูกผู้ใหญ่ที่มีกำลังมหาศาลรังแก จะสู้ก็สู้ไม่ได้ ทั้งมีความวิตกว่าประเทศไทยได้สูญเสียเอกราชอธิปไตย”

นึกย้อนไปเมื่อตอนต้นปี พ.ศ. 2484 ตอนที่ไทยขัดแย้งกับฝรั่งเศส ถึงกับมีสงครามอินโดจีน กองทัพไทยต้องรบกับศัตรูที่ดินแดนอินโดจีนของฝรั่งเศสนั้น ไทยก็ดูจะมีญี่ปุ่นเป็นมิตรเข้าใจไทยดีและสนับสนุนไทย มาถึงปลายปีเท่านั้นคนไทยชักมองญี่ปุ่นด้วยความสงสัยมากขึ้น

การยอมให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไทยไปในประเทศเพื่อนบ้านในตอนนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไทยเข้าไปเกี่ยวพันกับสงครามโลกครั้งที่ 2 มากขึ้นและต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485 รัฐบาลไทยก็ได้ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ในเวลาช่วงเดียวกันก็มีคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นไม่ตรงกับรัฐบาล ได้ร่วมมือกันตั้งขบวนการเสรีไทย ทำการต่อต้านญี่ปุ่นขึ้น ซึ่งมีผลที่ตามมาต่อสถานะของประเทศไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2