ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เพลงไทยพระราชนิพนธ์ : โหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ผู้ที่ทรงอุปการะมาตั้งแต่ยังเยาว์ชันษา กล่าวถึงพระอัจฉริยภาพทางดนตรีไทยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ว่า
[[หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์]] ผู้ที่ทรงอุปการะมาตั้งแต่ยังเยาว์ชันษา กล่าวถึงพระอัจฉริยภาพทางดนตรีไทยของ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ไว้ว่า


“...ท่านทรงมีพรสวรรค์และทรงฟังเสียงดนตรีไทยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ท่านทรงเดี่ยวซออู้ได้ เดี่ยวนกขมิ้น พญาโศก ซึ่งยากมาก เรื่องทรงพระราชนิพนธ์นั้น ส่วนมากที่วังไกลกังวลจะทรงรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า ทรงมีซออู้เล็กๆ สูงประมาณ ๒ คืบ ได้ประทับเหยียดไปทางจอหนังแล้วก็ทรงอี๋อ่อ ตามพระอารมณ์และจินตนาการ...”
“...ท่านทรงมีพรสวรรค์และทรงฟังเสียงดนตรีไทยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ท่านทรงเดี่ยวซออู้ได้ เดี่ยวนกขมิ้น พญาโศก ซึ่งยากมาก เรื่องทรงพระราชนิพนธ์นั้น ส่วนมากที่[[วังไกลกังวล]]จะทรงรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า ทรงมีซออู้เล็กๆ สูงประมาณ ๒ คืบ ได้ประทับเหยียดไปทางจอหนังแล้วก็ทรงอี๋อ่อ ตามพระอารมณ์และจินตนาการ...”
แสดงว่าโปรดที่จะทรงซอขณะทอดพระเนตรภาพยนตร์เงียบนั่นเอง
แสดงว่าโปรดที่จะทรงซอขณะทอดพระเนตรภาพยนตร์เงียบนั่นเอง


พุทธศักราช ๒๔๗๔ ในระหว่างเสด็จประพาสสัตหีบทางชลมารค และได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงคลื่นกระทบฝั่งขึ้นโดย นำเพลงคลื่นกระทบฝั่ง ๒ ชั้น ของเก่า มาทรงแต่งใหม่ขยายให้เป็นเพลง๓ ชั้น พร้อมทั้งยังได้ทรงนำเอาแนวในการประพันธ์เพลงแบบสากล โดยใช้เทคนิคลูกล้อ ลูกขัด เข้ามาผสมประสานด้วย จึงทำให้เพลงพระราชนิพนธ์ คลื่นกระทบฝั่ง มีความไพเราะเป็นพิเศษ ผู้ฟังเกิดมโนภาพ นึกถึงระลอกคลื่นในท้องทะเลที่หนุนเนื่องกัน มากระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่าได้อย่างน่าประหลาด  
พุทธศักราช ๒๔๗๔ ในระหว่างเสด็จประพาสสัตหีบทางชลมารค และได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงคลื่นกระทบฝั่งขึ้นโดย นำเพลงคลื่นกระทบฝั่ง ๒ ชั้น ของเก่า มาทรงแต่งใหม่ขยายให้เป็นเพลง๓ ชั้น พร้อมทั้งยังได้ทรงนำเอาแนวในการประพันธ์เพลงแบบสากล โดยใช้เทคนิคลูกล้อ ลูกขัด เข้ามาผสมประสานด้วย จึงทำให้เพลงพระราชนิพนธ์ [[คลื่นกระทบฝั่ง]] มีความไพเราะเป็นพิเศษ ผู้ฟังเกิดมโนภาพ นึกถึงระลอกคลื่นในท้องทะเลที่หนุนเนื่องกัน มากระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่าได้อย่างน่าประหลาด  


ยังมิทันจะได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อง และทำนองชั้นเดียวให้ครบเป็นเพลงเถา เพลงคลื่นกระทบฝั่งจึงบรรเลงแต่เพียงทำนอง ๓ ชั้น และ๒ ชั้น ไม่มีบทร้องประจำเหมือนเพลงอื่นๆ ที่พระราชนิพนธ์
ยังมิทันจะได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อง และทำนองชั้นเดียวให้ครบเป็นเพลงเถา เพลงคลื่นกระทบฝั่งจึงบรรเลงแต่เพียงทำนอง ๓ ชั้น และ๒ ชั้น ไม่มีบทร้องประจำเหมือนเพลงอื่นๆ ที่พระราชนิพนธ์

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:38, 9 กุมภาพันธ์ 2559

หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ผู้ที่ทรงอุปการะมาตั้งแต่ยังเยาว์ชันษา กล่าวถึงพระอัจฉริยภาพทางดนตรีไทยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ว่า

“...ท่านทรงมีพรสวรรค์และทรงฟังเสียงดนตรีไทยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ท่านทรงเดี่ยวซออู้ได้ เดี่ยวนกขมิ้น พญาโศก ซึ่งยากมาก เรื่องทรงพระราชนิพนธ์นั้น ส่วนมากที่วังไกลกังวลจะทรงรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า ทรงมีซออู้เล็กๆ สูงประมาณ ๒ คืบ ได้ประทับเหยียดไปทางจอหนังแล้วก็ทรงอี๋อ่อ ตามพระอารมณ์และจินตนาการ...” แสดงว่าโปรดที่จะทรงซอขณะทอดพระเนตรภาพยนตร์เงียบนั่นเอง

พุทธศักราช ๒๔๗๔ ในระหว่างเสด็จประพาสสัตหีบทางชลมารค และได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงคลื่นกระทบฝั่งขึ้นโดย นำเพลงคลื่นกระทบฝั่ง ๒ ชั้น ของเก่า มาทรงแต่งใหม่ขยายให้เป็นเพลง๓ ชั้น พร้อมทั้งยังได้ทรงนำเอาแนวในการประพันธ์เพลงแบบสากล โดยใช้เทคนิคลูกล้อ ลูกขัด เข้ามาผสมประสานด้วย จึงทำให้เพลงพระราชนิพนธ์ คลื่นกระทบฝั่ง มีความไพเราะเป็นพิเศษ ผู้ฟังเกิดมโนภาพ นึกถึงระลอกคลื่นในท้องทะเลที่หนุนเนื่องกัน มากระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่าได้อย่างน่าประหลาด

ยังมิทันจะได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อง และทำนองชั้นเดียวให้ครบเป็นเพลงเถา เพลงคลื่นกระทบฝั่งจึงบรรเลงแต่เพียงทำนอง ๓ ชั้น และ๒ ชั้น ไม่มีบทร้องประจำเหมือนเพลงอื่นๆ ที่พระราชนิพนธ์

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖