ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทรงสละราชสมบัติ"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย 'จากความเห็นขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพระบาทสมเด...' |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 10: | บรรทัดที่ 10: | ||
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | ||
*[https://www.youtube.com/watch?v=nNTHxQn6O5A&index=110&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo YOU TUBE :หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง : ทรงสละราชสมบัติ] | |||
[[หมวดหมู่:สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับ "ประชาธิปไตย"]] | [[หมวดหมู่:สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับ "ประชาธิปไตย"]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:43, 10 กันยายน 2558
จากความเห็นขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับรัฐบาลที่ดูเหมือนจะไม่มีทางประนีประนอมกันได้ ในที่สุดระหว่างประทับรักษาพระเนตรที่อังกฤษ ทรงมีพระราชหัตถเลขาทรงสละราชสมบัติเมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ โดยมิได้ทรงแต่งตั้งผู้สืบราชสันตติวงศ์ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแต่งตั้งพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ตามวิถีทางรัฐธรรมนูญ
ในพระราชหัตถเลขา ทรงหยิบยกปัญหาอันเนื่องจากความเห็นแตกต่างกันทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยมาแสดงไว้หลายประการ
ข่าวการสละราชสมบัติ เป็นที่สนใจของหนังสือพิมพ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทรงสละสิทธิในพระราชฐานะพระมหากษัตริย์ แต่ทรงสงวนสิทธิซึ่งได้ทรงดำรงมานับแต่ก่อนเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ รวมทั้งโปรดให้ใช้พระนามเดิม ว่า “สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา” และประทับในประเทศอังกฤษต่อไป พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิดไม่มากนัก
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในระบอบรัฐสภาของประเทศไทย
ที่มา
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖