ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสด็จฯ มณฑลปัตตานี 2471"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | ||
*[https://www.youtube.com/watch?v=RM3mVlL-ti0&index=34&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo YOU TUBE : เสด็จฯ พระราชดำเนินทั่วถิ่นแดนสยาม : เสด็จฯ มณฑลปัตตานี 2471] | |||
[[หมวดหมู่:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ|ส]] | [[หมวดหมู่:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ|ส]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:38, 8 กันยายน 2558
แม้ปัตตานีจะเป็นพื้นที่ที่ห่างไกลพระนคร แต่ทว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเพื่อทรงแผ่พระปรีชาคุณแก่ราษฎรในดินแดนใต้สุดแห่งสยามนี้
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลปัตตานีถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรกในปี พุทธศักราช ๒๔๗๑ เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรที่เมืองปัตตานี ยะลา สายบุรี และนราธิวาส
ทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรกิจการด้านการศึกษาทั้งโรงเรียนกสิกรรม โรงเรียนสอนภาษามลายู และการศาสนาที่มัสยิด รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น และวิถีความเป็นอยู่ของราษฎร เช่นการเก็บเกี่ยวข้าวแบบพื้นเมือง ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงแวะที่เมืองสงขลาในมณฑลนครศรีธรรมราช เกาะสมุย และหมู่เกาะอ่างทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพระองค์เคยเสด็จมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ในปี พุทธศักราช ๒๔๖๙ และ พุทธศักราช ๒๔๗๐ ครั้งนี้ทรงจารึกพระบรมนามาภิไธยไว้ที่ธารน้ำตกบนเกาะสมุยตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และใน พุทธศักราช ๒๔๗๒ ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จไปยังปัตตานีอีกครั้งเพื่อทอดเนตรปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง
ที่มา
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖