ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชพิธีฉัตรมงคล"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
==ความหมาย== | ==ความหมาย== | ||
พระราชพิธีฉัตรมงคล หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร อันใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับวันที่ ๕ พฤษภาคม | พระราชพิธีฉัตรมงคล หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร อันใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับวันที่ ๕ พฤษภาคม<ref>พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์, 2546. หน้า 334. </ref> | ||
==ความสำคัญ== | ==ความสำคัญ== | ||
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย ราชสมบัติ ต่อจาก[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล]] เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 | วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย ราชสมบัติ ต่อจาก[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล]] เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก<ref>พระราชพิธีบรมราชาภิเษก หมายถึง พระราชพิธีในการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์</ref> ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 | ||
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" | ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกนั้นว่า''' "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"'''<ref>ศูนย์ประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 3, วันฉัตรมงคล, (ข้อมูลออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.3armyarea-rta.com/chuct/indexmain.php สืบค้นวันที่ 14 กรกฎาคม 2557. </ref> | ||
==ความเป็นมา== | ==ความเป็นมา== | ||
ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ใน[[พระราชพิธีสิบสองเดือน]] พระราชนิพนธ์ใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ว่า[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 4]] ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ | ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ใน[[พระราชพิธีสิบสองเดือน]] พระราชนิพนธ์ใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]<ref>จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, พระราชพิธีสิบสองเดือน, (กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552), หน้า 31-35. </ref> ว่า[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 4]] ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ | ||
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์ | ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์ | ||
ครั้งรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 6]] การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม การ[[พระราชกุศลทักษิณานุประทาน]] ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช | ครั้งรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 6]] การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม การ[[พระราชกุศลทักษิณานุประทาน]] ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช <ref>สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540), หน้า 77-78. </ref> | ||
==พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน== | ==พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน== | ||
บรรทัดที่ 36: | บรรทัดที่ 36: | ||
เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญ[[พระบรมวงศานุวงศ์]] [[องคมนตรี]] [[นายกรัฐมนตรี]] [[ประธานรัฐสภา]] [[ประธานศาลฎีกา]] ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เมื่อ เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ | เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญ[[พระบรมวงศานุวงศ์]] [[องคมนตรี]] [[นายกรัฐมนตรี]] [[ประธานรัฐสภา]] [[ประธานศาลฎีกา]] ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เมื่อ เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ | ||
ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี | ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี<ref>สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540), หน้า 78-81. </ref> | ||
เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดย[[ทศพิธราชธรรม]] โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น | เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดย[[ทศพิธราชธรรม]] โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น | ||
==อ้างอิง== | |||
<references/> | |||
==บรรณานุกรม== | ==บรรณานุกรม== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:22, 14 กรกฎาคม 2558
ผู้เรียบเรียง : นายณัฐพล ยิ่งกล้า
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง
พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์และพระแสงสำคัญประจำรัชกาล เนื่องในวาระคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เรียกว่า รัฐพิธีฉัตรมงคล หรือ พระราชพิธีฉัตรมงคล และได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล
ความหมาย
พระราชพิธีฉัตรมงคล หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร อันใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับวันที่ ๕ พฤษภาคม[1]
ความสำคัญ
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย ราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก[2] ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"[3]
ความเป็นมา
ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว[4] ว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์
ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม การพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช [5]
พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน
พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม โดยพระราชพิธีจะเริ่มตั้งแต่ พระราชกุศลทักษิณานุประทานในวันที่ 3 พฤษภาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระราชพิธีนี้เป็น การบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในรัชกาลก่อน ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย
วันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล จบแล้ว เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้วหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันที่ 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคลเป็นวันคล้ายวันที่ได้ทรงรับนพปฎลมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อันมีพระมหามงกุฎเป็นปฐมแห่งการบรมราชาภิเษก จึงตั้งโต๊ะเครื่องบายศรีสำรับใหญ่ สำหรับ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และองค์สมเด็จพระมหากษัตริย์ที่ได้เสวย ราชสมบัติมาบรรจบในมงคลดิถีวันบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้า พระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีลและถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระสังฆราช นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ ทรงประเคนแด่พระสงฆ์ตามลำดับ จากนั้นทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เมื่อ เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี[6]
เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดยทศพิธราชธรรม โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น
อ้างอิง
- ↑ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์, 2546. หน้า 334.
- ↑ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก หมายถึง พระราชพิธีในการสถาปนาขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์
- ↑ ศูนย์ประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 3, วันฉัตรมงคล, (ข้อมูลออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.3armyarea-rta.com/chuct/indexmain.php สืบค้นวันที่ 14 กรกฎาคม 2557.
- ↑ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, พระราชพิธีสิบสองเดือน, (กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552), หน้า 31-35.
- ↑ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540), หน้า 77-78.
- ↑ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540), หน้า 78-81.
บรรณานุกรม
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, พระราชพิธีสิบสองเดือน, (กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552)
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540)
ศูนย์ประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 3, วันฉัตรมงคล, (ข้อมูลออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.3armyarea-rta.com/chuct/indexmain.php สืบค้นวันที่ 14 กรกฎาคม 2557.
ดูเพิ่มเติม
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระบาทสมเด็จพระ. พระราชพิธีสิบสองเดือน. กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552.
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540.