ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชพิธีฉัตรมงคล"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 4: บรรทัดที่ 4:
----
----


พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์และพระแสงสำคัญประจำรัชกาล เนื่องในวาระคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี  รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เรียกว่า รัฐพิธีฉัตรมงคล หรือ พระราชพิธีฉัตรมงคล และได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล  
พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์และพระแสงสำคัญประจำรัชกาล เนื่องในวาระคล้ายวันบรมราชาภิเษกของ[[พระมหากษัตริย์]][[ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช]] ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์[[รัชกาลที่ 9]] แห่งราชวงศ์จักรี  [[รัฐบาล]]และพสกนิกรชาวไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เรียกว่า รัฐพิธีฉัตรมงคล หรือ พระราชพิธีฉัตรมงคล และได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล  


==ความหมาย==
==ความหมาย==
บรรทัดที่ 12: บรรทัดที่ 12:
==ความสำคัญ==
==ความสำคัญ==
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย  ราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย  รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493   
วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย  ราชสมบัติ ต่อจาก[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล]] เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย  รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493   


ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี    บรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"  
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี    บรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"  
บรรทัดที่ 18: บรรทัดที่ 18:
==ความเป็นมา==
==ความเป็นมา==
ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ
ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ใน[[พระราชพิธีสิบสองเดือน]] พระราชนิพนธ์ใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ว่า[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 4]] ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ


ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์
ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม  การพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช  
ครั้งรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] [[รัชกาลที่ 6]] การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม  การ[[พระราชกุศลทักษิณานุประทาน]] ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช  


==พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน==
==พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน==


พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม โดยพระราชพิธีจะเริ่มตั้งแต่    พระราชกุศลทักษิณานุประทานในวันที่ 3 พฤษภาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระราชพิธีนี้เป็น        การบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในรัชกาลก่อน ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย
พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม โดยพระราชพิธีจะเริ่มตั้งแต่    พระราชกุศลทักษิณานุประทานในวันที่ 3 พฤษภาคม ณ [[พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย]] พระราชพิธีนี้เป็น        การบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในรัชกาลก่อน ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย


วันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล จบแล้ว เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้วหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
วันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล จบแล้ว เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้วหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
บรรทัดที่ 34: บรรทัดที่ 34:
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้า  พระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีลและถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระสังฆราช นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ ทรงประเคนแด่พระสงฆ์ตามลำดับ จากนั้นทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้า  พระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีลและถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระสังฆราช นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ ทรงประเคนแด่พระสงฆ์ตามลำดับ จากนั้นทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา


เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน    เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์  เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์  เมื่อ    เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย  แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ  
เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน    เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์  เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญ[[พระบรมวงศานุวงศ์]] [[องคมนตรี]] [[นายกรัฐมนตรี]] [[ประธานรัฐสภา]] [[ประธานศาลฎีกา]] ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์  เมื่อ    เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย  แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ  


ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก    พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า    แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี  
ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก    พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า    แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี  
 
 
เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย    พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดยทศพิธราชธรรม โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล  จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น  
เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย    พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดย[[ทศพิธราชธรรม]] โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล  จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น  


==บรรณานุกรม==
==บรรณานุกรม==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:58, 14 กรกฎาคม 2558

ผู้เรียบเรียง : นายณัฐพล ยิ่งกล้า

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง


พระราชพิธีฉัตรมงคล เป็นพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระมหาเศวตฉัตร สิริราชกกุธภัณฑ์และพระแสงสำคัญประจำรัชกาล เนื่องในวาระคล้ายวันบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 เรียกว่า รัฐพิธีฉัตรมงคล หรือ พระราชพิธีฉัตรมงคล และได้ถือเอาวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันฉัตรมงคล

ความหมาย

พระราชพิธีฉัตรมงคล หมายถึง พระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร อันใช้เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินซึ่งตรงกับวันบรมราชาภิเษก ในรัชกาลปัจจุบันตรงกับวันที่ ๕ พฤษภาคม

ความสำคัญ

วันฉัตรมงคล เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรีของประเทศไทย โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลย ราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 และดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" เนื่องจากยังมิได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ จึงได้เสด็จนิวัติประเทศไทย รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย จึงได้น้อมเกล้าฯ จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตร หรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกนั้นว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

ความเป็นมา

ความเป็นมาของพระราชพิธีฉัตรมงคลนั้น มีพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชพิธีสิบสองเดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีพระราชดำริว่า วันที่พระองค์ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้น เป็นมหามงคลสมัยซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินย่อมนับถือวันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาล แต่ในกรุงสยามมิได้มีการนักขัตฤกษ์อันใด ครั้งนี้วันบรมราชาภิเษกของพระองค์ ตรงกับสมัยที่เจ้าพนักงานได้สมโภชเครื่องราชูโภคแต่เดิมมา ควรที่จะมีการสมโภชพระมหาเศวตฉัตรให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ จึงได้ทรงพระราชดำริจัดการพระราชกุศล พระราชทานชื่อว่า ฉัตรมงคล นี้ขึ้น การพระราชพิธีฉัตรมงคลเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มนั้น มีสวดมนต์เลี้ยงพระ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตรที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งไพศาลทักษิณ

ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีเพิ่มการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า อาลักษณ์อ่านคำประกาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ชุมนุมถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวียนเทียนสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์

ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การพระราชพิธีฉัตรมงคลได้เพิ่ม การพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ซึ่งเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช

พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน

พระราชพิธีฉัตรมงคลในรัชกาลปัจจุบัน ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม โดยพระราชพิธีจะเริ่มตั้งแต่ พระราชกุศลทักษิณานุประทานในวันที่ 3 พฤษภาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระราชพิธีนี้เป็น การบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชในรัชกาลก่อน ซึ่งในวันนี้ได้เพิ่มพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ที่จะพระราชทานแก่หน่วยทหารบางหน่วยเข้าไว้ด้วย

วันที่ 4 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีล จบแล้ว เสด็จไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ แล้วหัวหน้าพราหมณ์อ่านประกาศพระราชพิธีฉัตรมงคล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันที่ 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคลเป็นวันคล้ายวันที่ได้ทรงรับนพปฎลมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ อันมีพระมหามงกุฎเป็นปฐมแห่งการบรมราชาภิเษก จึงตั้งโต๊ะเครื่องบายศรีสำรับใหญ่ สำหรับ เวียนเทียนสมโภชพระมหาเศวตฉัตร เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และองค์สมเด็จพระมหากษัตริย์ที่ได้เสวย ราชสมบัติมาบรรจบในมงคลดิถีวันบรมราชาภิเษก

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้า พระแท่นมุก เจ้าหน้าที่กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา อาราธนาศีล สมเด็จพระสังฆราชถวายศีลและถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนภัตตาหารแด่สมเด็จพระสังฆราช นอกนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ ทรงประเคนแด่พระสงฆ์ตามลำดับ จากนั้นทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

เจ้าพนักงานปูลาดผ้าแดงเตรียมการเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร บูชาเทพยดารักษาพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เจ้าหน้าที่กรมวังกราบทูลเชิญพระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายทหารและพลเรือนไปยืนเฝ้ารายล้อมตามแนวผ้าแดง พร้อมแล้วหัวหน้าพราหมณ์เบิกแว่น โหรหลวงรับแว่นส่งให้ข้าราชการที่ยืนเรียงตามลำดับรับแว่นเวียนเทียนสมโภช ขณะนั้นพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์แตร ปี่พาทย์ พราหมณ์เป่าสังข์ ภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ เมื่อ เวียนเทียนครบสามรอบแล้ว หัวหน้าพราหมณ์รวมเทียนโบกควันถวาย แล้วถวายความเคารพไปเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตรพร้อมกับโหรหลวงผูกผ้าสีชมพูที่คันองค์นพปฎลมหาเศวตฉัตร เรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรงสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่พระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ที่หน้าพระแท่นมุก แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ตอนเย็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จออก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า แก่ผู้ที่มีความดีความชอบ แล้วเสด็จนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่ปราสาทพระเทพบิดร เป็นเสร็จพระราชพิธี

เมื่อถึงวันฉัตรมงคล พสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศควรร่วมใจกันจัดกิจกรรมประกอบพิธีถวาย พระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเกษมสำราญ ทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนานและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจโดยทศพิธราชธรรม โดยร่วมใจกันประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีฉัตรมงคล ประดับธงชาติตามสถานที่ราชการและอาคารบ้านเรือน เป็นต้น

บรรณานุกรม

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ, พระราชพิธีสิบสองเดือน, (กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552)

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ, วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม, (กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540)

ศูนย์ประชาสัมพันธ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ กองทัพภาคที่ 3, วันฉัตรมงคล, (ข้อมูลออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.3armyarea-rta.com/chuct/indexmain.php สืบค้นวันที่ 14 กรกฎาคม 2557.

ดูเพิ่มเติม

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระบาทสมเด็จพระ. พระราชพิธีสิบสองเดือน. กรุงเทพฯ: หอรัตนชัยการพิมพ์. ครั้งที่ 21, 2552.

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. วันสำคัญ โครงการปีรณรงค์วัฒนธรรมไทยและแนวทางในการจัดกิจกรรม. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว, 2540.