ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
สร้างหน้าด้วย " ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ ผู้ทรงคุณว..."
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:


ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์
ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ :  รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ :  รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


----
----
บรรทัดที่ 8: บรรทัดที่ 8:
'''ดิเรก ชัยนาม'''
'''ดิเรก ชัยนาม'''


          ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตคณบดีผู้ก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว กรุงลอนดอน และกรุงบอนน์และเป็นสมาชิกร่วมในคณะผู้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475[[#_ftn1|[1]]]
          ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตคณบดีผู้ก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว กรุงลอนดอน และกรุงบอนน์และเป็นสมาชิกร่วมในคณะผู้ทำ[[การเปลี่ยนแปลงการปกครอง_24_มิถุนายน_2475|การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475]][[#_ftn1|[1]]]


'''ประวัติ'''
'''ประวัติ'''
บรรทัดที่ 20: บรรทัดที่ 20:
'''เหตุการณ์สำคัญ'''
'''เหตุการณ์สำคัญ'''


'''          '''ศาสตราจารย์ดิเรกเริ่มรับราชการเป็นล่ามกฎหมายในกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่ขณะที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนกฎหมายระหว่าง พ.ศ. 2467-2475 และได้เข้ามามีส่วนร่วมในคณะผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ[[#_ftn5|[5]]]
'''          '''ศาสตราจารย์ดิเรกเริ่มรับราชการเป็นล่าม[[กฎหมาย]]ในกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่ขณะที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนกฎหมายระหว่าง พ.ศ. 2467-2475 และได้เข้ามามีส่วนร่วมในคณะผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ [[24_มิถุนายน_พ.ศ._2475]] และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ[[#_ftn5|[5]]]


          ใน พ.ศ. 2482 ขณะอายุได้ 34 ปี ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลซึ่งมีจอมพลป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ทั้งยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย ต่อมาเมื่อจอมพล ป.พิบูลสงครามลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2484[[#_ftn6|[6]]]
          ใน พ.ศ. 2482 ขณะอายุได้ 34 ปี ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศใน[[รัฐบาล]]ซึ่งมี[[ป.พิบูลสงคราม|จอมพลป.พิบูลสงคราม]]เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ทั้งยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย ต่อมาเมื่อจอมพล ป.พิบูลสงครามลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2484[[#_ftn6|[6]]]


          ช่วง พ.ศ.2485-2486 เป็นช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพาซึ่งญี่ปุ่นได้เข้ามายึดครองและบังคับให้ไทยเข้าเป็นพันธมิตร จอมพลป.พิบูลสงครามจึงเสนอให้ศาสตราจารย์ดิเรกพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485 และได้ปฎิบัติหน้าที่นั้นมาจนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2486[[#_ftn7|[7]]]  ในขณะที่ศาสตราจารย์ดิเรก ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นเอกอัครราชฑูตไทยในประเทศญี่ปุ่นนั้น ท่านสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีโดยสร้างความน่าเชื่อถือและความเกรงใจให้กับฝ่ายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งพยายามยับยั้งไม่ให้ประเทศไทยและญี่ปุ่นต้องผูกพันกันมากเกินความจำเป็น[[#_ftn8|[8]]]
          ช่วง พ.ศ.2485-2486 เป็นช่วง[[สงครามมหาเอเชียบูรพา]]ซึ่งญี่ปุ่นได้เข้ามายึดครองและบังคับให้ไทยเข้าเป็นพันธมิตร จอมพลป.พิบูลสงครามจึงเสนอให้ศาสตราจารย์ดิเรกพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485 และได้ปฎิบัติหน้าที่นั้นมาจนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2486[[#_ftn7|[7]]]  ในขณะที่ศาสตราจารย์ดิเรก ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นเอกอัครราชฑูตไทยในประเทศญี่ปุ่นนั้น ท่านสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีโดยสร้างความน่าเชื่อถือและความเกรงใจให้กับฝ่ายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งพยายามยับยั้งไม่ให้ประเทศไทยและญี่ปุ่นต้องผูกพันกันมากเกินความจำเป็น[[#_ftn8|[8]]]


          ใน พ.ศ. 2488 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2จะสิ้นสุด ศาสตราจารย์ดิเรก ได้รับมอบหมายจากนายปรีดี พนมยงค์ ในสถานะหัวหน้าขบวนการเสรีไทย ให้เป็นหัวหน้าคณะตัวแทนจากประเทศไทยไปเจรจากับทางฝ่ายอังกฤษที่เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา โดยได้พบปะสนทนากับนาย เอ็ม ดี เดนิ่ง ที่ปรึกษาด้านการเมืองของลอร์ด เมาต์ แบตเตน เพื่อปรับความสัมพันธ์กับประเทศอังกฤษที่เคยมีปัญหากันในระหว่างสวครามโลกครั้งที่ 2[[#_ftn9|[9]]]
          ใน พ.ศ. 2488 ก่อนที่[[สงครามโลกครั้งที่_2]]จะสิ้นสุด ศาสตราจารย์ดิเรก ได้รับมอบหมายจากนาย[[ปรีดี_พนมยงค์]] ในสถานะหัวหน้า[[ขบวนการเสรีไทย]] ให้เป็นหัวหน้าคณะตัวแทนจากประเทศไทยไปเจรจากับทางฝ่ายอังกฤษที่เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา โดยได้พบปะสนทนากับนาย เอ็ม ดี เดนิ่ง ที่ปรึกษาด้านการเมืองของลอร์ด เมาต์ แบตเตน เพื่อปรับความสัมพันธ์กับประเทศอังกฤษที่เคยมีปัญหากันในระหว่างสวครามโลกครั้งที่ 2[[#_ftn9|[9]]]


          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ศาสตราจารย์ดิเรก ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เมื่อหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ได้มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายปรีดี พนมยงค์ ศาสตราจารย์ดิเรกได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 พลโทผิน ชุณหะวัณได้ทำการรัฐประหาร ศาสตราจารย์ดิเรกจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชฑูตไทยไปประจำที่ราชสำนักเซนต์เจมส์ ณ กรุงลอนดอน จนถึงพ.ศ. 2491[[#_ftn10|[10]]]
          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ศาสตราจารย์ดิเรก ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของ ม.ร.ว.[[เสนีย์_ปราโมช]] เมื่อ[[หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์]]ได้มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายปรีดี พนมยงค์ ศาสตราจารย์ดิเรกได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 พลโท[[ผิน_ชุณหะวัณ]]ได้ทำการ[[รัฐประหาร]] ศาสตราจารย์ดิเรกจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชฑูตไทยไปประจำที่ราชสำนักเซนต์เจมส์ ณ กรุงลอนดอน จนถึงพ.ศ. 2491[[#_ftn10|[10]]]


          พ.ศ. 2492 ศาสตราจารย์ดิเรกได้เดินทางกลับประเทศไทย และได้เข้าร่วมในคณะกรรมการจัดร่างหลักสูตรของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ภายหลังที่ได้มีการแบ่งคณะในมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองออกเป็น 4 คณะ คือ คณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ศาสตราจารย์ดิเรกได้เข้ารับตำแหน่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์เป็นท่านแรก[[#_ftn11|[11]]] โดยในขณะที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งคณบดีนั้น ได้ร่วมมือกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน เช่น ศาสตราจารย์กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ พระองค์เจ้าเปรม ปุรฉัตร พระยาสุนทรพิพิธ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์  ช่วยกันนำหลักสูตรทางด้านรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เช่น Harvard, London School of Economics และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาประกอบในหลักสูตรปริญญาตรีและโทของคณะรัฐศาสตร์[[#_ftn12|[12]]] ศาสตราจารย์ดิเรกดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์เวลา 4 ปี แล้วจึงขอลาออกเมื่อ พ.ศ. 2496
          พ.ศ. 2492 ศาสตราจารย์ดิเรกได้เดินทางกลับประเทศไทย และได้เข้าร่วมในคณะกรรมการจัดร่างหลักสูตรของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ภายหลังที่ได้มีการแบ่งคณะในมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองออกเป็น 4 คณะ คือ คณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ศาสตราจารย์ดิเรกได้เข้ารับตำแหน่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์เป็นท่านแรก[[#_ftn11|[11]]] โดยในขณะที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งคณบดีนั้น ได้ร่วมมือกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน เช่น ศาสตราจารย์กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ พระองค์เจ้าเปรม ปุรฉัตร พระยาสุนทรพิพิธ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์  ช่วยกันนำหลักสูตรทางด้านรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เช่น Harvard, London School of Economics และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาประกอบในหลักสูตรปริญญาตรีและโทของคณะรัฐศาสตร์[[#_ftn12|[12]]] ศาสตราจารย์ดิเรกดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์เวลา 4 ปี แล้วจึงขอลาออกเมื่อ พ.ศ. 2496
บรรทัดที่ 34: บรรทัดที่ 34:
                  
                  


          จนกระทั่ง พ.ศ.2502 ศาสตรจารย์ดิเรก ได้กลับเข้าสู่วงการฑูตอีกครั้งหนึ่งจากการเสนอของ ดร.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตชั้น 1 เป็นกรณีพิเศษ ณ กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี จนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2508[[#_ftn13|[13]]]
          จนกระทั่ง พ.ศ.2502 ศาสตรจารย์ดิเรก ได้กลับเข้าสู่วงการฑูตอีกครั้งหนึ่งจากการเสนอของ ดร.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลของ จอมพล[[สฤษดิ์_ธนะรัชต์]] ให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตชั้น 1 เป็นกรณีพิเศษ ณ กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี จนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2508[[#_ftn13|[13]]]


'''ผลงานอื่นๆ'''
'''ผลงานอื่นๆ'''
บรรทัดที่ 50: บรรทัดที่ 50:
'''บรรณานุกรม'''
'''บรรณานุกรม'''


เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ :, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543).
เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ :, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543).


เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).
เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).


'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).
'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).


วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).
วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).


ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
บรรทัดที่ 62: บรรทัดที่ 62:
----
----
<div id="ftn1">
<div id="ftn1">
[[#_ftnref1|[1]]] เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ :, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543), หน้า 79
[[#_ftnref1|[1]]] เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.'''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;:, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543), หน้า 79
</div> <div id="ftn2">
</div> <div id="ftn2">
[[#_ftnref2|[2]]] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]&nbsp; เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
[[#_ftnref2|[2]]] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]&nbsp; เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
</div> <div id="ftn3">
</div> <div id="ftn3">
[[#_ftnref3|[3]]] เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32
[[#_ftnref3|[3]]] เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32
</div> <div id="ftn4">
</div> <div id="ftn4">
[[#_ftnref4|[4]]] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]&nbsp; เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
[[#_ftnref4|[4]]] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, '''ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม''' เข้าถึงจาก [http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html]&nbsp; เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.
</div> <div id="ftn5">
</div> <div id="ftn5">
[[#_ftnref5|[5]]] เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32
[[#_ftnref5|[5]]] เชาว์ สายเชื้อ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32
</div> <div id="ftn6">
</div> <div id="ftn6">
[[#_ftnref6|[6]]] วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 46
[[#_ftnref6|[6]]] วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 46
</div> <div id="ftn7">
</div> <div id="ftn7">
[[#_ftnref7|[7]]] &nbsp;เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 33
[[#_ftnref7|[7]]] &nbsp;เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 33
บรรทัดที่ 86: บรรทัดที่ 86:
[[#_ftnref12|[12]]] เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 34
[[#_ftnref12|[12]]] เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 34
</div> <div id="ftn13">
</div> <div id="ftn13">
[[#_ftnref13|[13]]] วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 53
[[#_ftnref13|[13]]] วิเชียร วัฒนคุณ, '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 53
</div> <div id="ftn14">
</div> <div id="ftn14">
[[#_ftnref14|[14]]] '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 74-78
[[#_ftnref14|[14]]] '''ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์''', (กรุงเทพ&nbsp;: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 74-78
</div> </div>  
</div> </div>  
[[Category:บุคคลสำคัญทางการเมือง]]
[[Category:บุคคลสำคัญทางการเมือง]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:36, 6 พฤษภาคม 2563

ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ :  รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


ดิเรก ชัยนาม

          ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตคณบดีผู้ก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว กรุงลอนดอน และกรุงบอนน์และเป็นสมาชิกร่วมในคณะผู้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475[1]

ประวัติ

          ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2447 ที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นบุตรคนที่ 6 ของพระยาอภัยพิพากษา (เกลื่อน ชัยนาม) กับคุณหญิงจันทน์ ชัยนาม

          ด้านการศึกษา ศาสตราจารย์ดิเรกเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก แผนกภาษาอังกฤษ จนสำเร็จการศึกษามัธยมปีที่ 6 และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนราชวิทยาลัยอีก 2 ปี ต่อมา พ.ศ. 2468 ได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม สำเร็จการศึกษาได้เป็นเนติบัณฑิตใน พ.ศ.2471[2]

          ด้านครอบครัวศาสตราจารย์ ดิเรก ได้สมรสกับ ม.ล.ปุ๋ย นพวงศ์ บุตรีของพระยารามราชเดช (ม.ร.ว.ปาล นพวงศ์) กับคุณหญิงเนย รามราชเดช เมื่อ พ.ศ. 2468[3] มีบุตรชายด้วยกัน 4 คน คือ นายวัฒนา ชัยนาม นายชูศักดิ์ ชัยนาม นายเจษฎา ชัยนาม นายวรพุทธิ์ ชัยนาม[4]

เหตุการณ์สำคัญ

          ศาสตราจารย์ดิเรกเริ่มรับราชการเป็นล่ามกฎหมายในกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่ขณะที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนกฎหมายระหว่าง พ.ศ. 2467-2475 และได้เข้ามามีส่วนร่วมในคณะผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24_มิถุนายน_พ.ศ._2475 และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ[5]

          ใน พ.ศ. 2482 ขณะอายุได้ 34 ปี ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลซึ่งมีจอมพลป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ทั้งยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วย ต่อมาเมื่อจอมพล ป.พิบูลสงครามลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศาสตราจารย์ดิเรกได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2484[6]

          ช่วง พ.ศ.2485-2486 เป็นช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพาซึ่งญี่ปุ่นได้เข้ามายึดครองและบังคับให้ไทยเข้าเป็นพันธมิตร จอมพลป.พิบูลสงครามจึงเสนอให้ศาสตราจารย์ดิเรกพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485 และได้ปฎิบัติหน้าที่นั้นมาจนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2486[7]  ในขณะที่ศาสตราจารย์ดิเรก ได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นเอกอัครราชฑูตไทยในประเทศญี่ปุ่นนั้น ท่านสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีโดยสร้างความน่าเชื่อถือและความเกรงใจให้กับฝ่ายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งพยายามยับยั้งไม่ให้ประเทศไทยและญี่ปุ่นต้องผูกพันกันมากเกินความจำเป็น[8]

          ใน พ.ศ. 2488 ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่_2จะสิ้นสุด ศาสตราจารย์ดิเรก ได้รับมอบหมายจากนายปรีดี_พนมยงค์ ในสถานะหัวหน้าขบวนการเสรีไทย ให้เป็นหัวหน้าคณะตัวแทนจากประเทศไทยไปเจรจากับทางฝ่ายอังกฤษที่เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา โดยได้พบปะสนทนากับนาย เอ็ม ดี เดนิ่ง ที่ปรึกษาด้านการเมืองของลอร์ด เมาต์ แบตเตน เพื่อปรับความสัมพันธ์กับประเทศอังกฤษที่เคยมีปัญหากันในระหว่างสวครามโลกครั้งที่ 2[9]

          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ศาสตราจารย์ดิเรก ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของ ม.ร.ว.เสนีย์_ปราโมช เมื่อหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ได้มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากนายปรีดี พนมยงค์ ศาสตราจารย์ดิเรกได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2490 พลโทผิน_ชุณหะวัณได้ทำการรัฐประหาร ศาสตราจารย์ดิเรกจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชฑูตไทยไปประจำที่ราชสำนักเซนต์เจมส์ ณ กรุงลอนดอน จนถึงพ.ศ. 2491[10]

          พ.ศ. 2492 ศาสตราจารย์ดิเรกได้เดินทางกลับประเทศไทย และได้เข้าร่วมในคณะกรรมการจัดร่างหลักสูตรของคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ภายหลังที่ได้มีการแบ่งคณะในมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองออกเป็น 4 คณะ คือ คณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ศาสตราจารย์ดิเรกได้เข้ารับตำแหน่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์เป็นท่านแรก[11] โดยในขณะที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งคณบดีนั้น ได้ร่วมมือกับผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่าน เช่น ศาสตราจารย์กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ พระองค์เจ้าเปรม ปุรฉัตร พระยาสุนทรพิพิธ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์  ช่วยกันนำหลักสูตรทางด้านรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ เช่น Harvard, London School of Economics และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาประกอบในหลักสูตรปริญญาตรีและโทของคณะรัฐศาสตร์[12] ศาสตราจารย์ดิเรกดำรงตำแหน่งเป็นคณบดีคณะรัฐศาสตร์เวลา 4 ปี แล้วจึงขอลาออกเมื่อ พ.ศ. 2496

                  

          จนกระทั่ง พ.ศ.2502 ศาสตรจารย์ดิเรก ได้กลับเข้าสู่วงการฑูตอีกครั้งหนึ่งจากการเสนอของ ดร.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลของ จอมพลสฤษดิ์_ธนะรัชต์ ให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตชั้น 1 เป็นกรณีพิเศษ ณ กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี จนเกษียณอายุราชการใน พ.ศ. 2508[13]

ผลงานอื่นๆ

               ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม มีผลงานทางวิชาการที่ตีพิมพ์เผยแพร่รวม 29 เรื่อง และการแสดงปาฐกถาอีก 46 เรื่อง[14]

          ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางการทูตจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2497

          ศาสตราจารย์ดิเรก ชัยนาม ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 สิริอายุได้ 62 ปี 3 เดือนเศษ

หนังสือแนะนำ

           เอนก เหล่าธรรมทัศน์ และคนอื่นๆ, (2543), ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ: คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

บรรณานุกรม

เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ :, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543).

เชาว์ สายเชื้อ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).

ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).

วิเชียร วัฒนคุณ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543).

ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม เข้าถึงจาก http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.

อ้างอิง

[1] เอนก เหล่าธรรมทัศน์, บรรณาธิการ.ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ :, สำนักพิมพ์วิภาษา 2543), หน้า 79

[2] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม เข้าถึงจาก http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.

[3] เชาว์ สายเชื้อ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32

[4] ห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ประวัติของศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม เข้าถึงจาก http://library.tu.ac.th/oldbranches/direklib/about%20us/direk-person-history.html  เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559.

[5] เชาว์ สายเชื้อ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 32

[6] วิเชียร วัฒนคุณ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 46

[7]  เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 33

[8] วิเชียร วัฒนคุณ, หน้า 48

[9] วิเชียร วัฒนคุณ, หน้า 50

[10] เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 33

[11] วิเชียร วัฒนคุณ, หน้า 51-52

[12] เชาว์ สายเชื้อ, หน้า 34

[13] วิเชียร วัฒนคุณ, ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 53

[14] ศาสตราจารย์ ดิเรก ชัยนาม กับ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, (กรุงเทพ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2543), หน้า 74-78