ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลำดับเหตุการณ์ในพระราชประวัติโดยสังเขป"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 4 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 18: บรรทัดที่ 18:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชสมภพ เป็น[[สมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ]] ใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]กับ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ]]
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชสมภพ เป็น[[สมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ|สมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ]] ใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]กับ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ|สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 55: บรรทัดที่ 55:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยฯ ธรรมราชาทรงศึกษาที่วิทยาลัยอีตัน (Eton College) โรงเรียนมัธยมชั้นเอกอุของประเทศอังกฤษ ประทับที่สำนักของนายแฮร์ (Mr. J. H.M. Hare) จนทรงสำเร็จการศึกษา
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยฯ ธรรมราชาทรงศึกษาที่[[วิทยาลัยอีตัน|วิทยาลัยอีตัน]] (Eton College) โรงเรียนมัธยมชั้นเอกอุของประเทศอังกฤษ ประทับที่สำนักของนายแฮร์ (Mr. J. H.M. Hare) จนทรงสำเร็จการศึกษา


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 113: บรรทัดที่ 113:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ทรงพระผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงพระฉายา “ปชาธิโป” แล้วเสด็จประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างนั้นทรงพระนิพนธ์เรียงความแก้กระทู้ธรรมรวม ๖ เรื่อง ทรงได้รับรางวัล ๓ เรื่อง ทรงลาพระผนวชแล้วทรงรับราชการทหารต่อไป
ทรงพระผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงพระฉายา “[[ปชาธิโป|ปชาธิโป]]” แล้วเสด็จประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างนั้นทรงพระนิพนธ์เรียงความแก้กระทู้ธรรมรวม ๖ เรื่อง ทรงได้รับรางวัล ๓ เรื่อง ทรงลาพระผนวชแล้วทรงรับราชการทหารต่อไป


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 120: บรรทัดที่ 120:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนศุโขไทยธรรมราชา ทรงอภิเษกสมรส กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี สวัสดิวัตน์ ณ พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอินแล้วทั้งสองพระองค์ เสด็จไปประทับที่วังศุโขทัย สามเสน
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนศุโขไทยธรรมราชา ทรงอภิเษกสมรส กับ[[หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี_สวัสดิวัตน์|หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี_สวัสดิวัตน์]] [[พระที่นั่งวโรภาษพิมาน|พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ]][[พระราชวังบางปะอิน|พระราชวังบางปะอิน]]แล้วทั้งสองพระองค์ เสด็จไปประทับที่[[วังศุโขทัย|วังศุโขทัย]] สามเสน


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 162: บรรทัดที่ 162:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ทรงดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท จึงต้องทรงศึกษาราชการแผ่นดิน และทรงปฏิบัติราชการแทนพระองค์เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่นอกพระนคร ทรงสั่งหนังสือราชการแทนพระองค์และประทับเป็นประธานในที่ประชุมเสนาบดีสภาด้วย
ทรงดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท จึงต้องทรงศึกษาราชการแผ่นดิน และทรงปฏิบัติราชการแทนพระองค์เมื่อ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว|พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ประทับอยู่นอกพระนคร ทรงสั่งหนังสือราชการแทนพระองค์และประทับเป็นประธานในที่ประชุมเสนาบดีสภาด้วย


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 169: บรรทัดที่ 169:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนกรมเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา
ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนกรมเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ [[กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา|กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 183: บรรทัดที่ 183:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอภิรัฐมนตรีสภาเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง[[อภิรัฐมนตรีสภา|อภิรัฐมนตรีสภา]]เป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 192: บรรทัดที่ 192:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาพระชายาเป็น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพรรณี พระบรมราชินี เสด็จไปประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาพระชายาเป็น [[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพรรณี_พระบรมราชินี|สมเด็จพระนางเจ้ารำไพรรณี_พระบรมราชินี]] เสด็จไปประทับที่[[พระที่นั่งอัมพรสถาน|พระที่นั่งอัมพรสถาน]] [[พระราชวังดุสิต|พระราชวังดุสิต]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 208: บรรทัดที่ 208:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
พระยากัลยาณไมตรี (Dr. Francis B. Sayre) ทูลเกล้าฯ ถวายตอบพระราชบันทึกเรื่อง “Problems of Siam” (ทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๑)
[[พระยากัลยาณไมตรี|พระยากัลยาณไมตรี]] (Dr. Francis B. Sayre) ทูลเกล้าฯ ถวายตอบพระราชบันทึกเรื่อง “Problems of Siam” (ทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๑)


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 215: บรรทัดที่ 215:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ทรงพระราชดำริเรื่องเทศบาล (Municipality) เพื่อส่งเสริมการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น และได้โปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาเรื่องนี้ต่อเนื่องมาจนสำเร็จเป็นร่างพระราชบัญญัติเทศบาล ส่งให้กรมร่างกฎหมาย เมื่อ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๓ แต่ได้ค้างอยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนกระทั่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. ๒๔๗๖
ทรงพระราชดำริเรื่อง[[เทศบาล|เทศบาล]] (Municipality) เพื่อส่งเสริมการ[[ปกครองตนเอง|ปกครองตนเอง]]ในระดับท้องถิ่น และได้โปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาเรื่องนี้ต่อเนื่องมาจนสำเร็จเป็นร่าง[[พระราชบัญญัติเทศบาล|พระราชบัญญัติเทศบาล]] ส่งให้กรมร่างกฎหมาย เมื่อ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๓ แต่ได้ค้างอยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนกระทั่งหลัง[[การเปลี่ยนแปลงการปกครอง|การเปลี่ยนแปลงการปกครอง]] เมื่อ [[24_มิถุนายน_พ.ศ._2475|๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕]] จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. ๒๔๗๖


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 229: บรรทัดที่ 229:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ตราพระราชบัญญัติองคมนตรี พุทธศักราช ๒๔๗๐ จัดตั้งสภากรรมการองคมนตรีฝึกหัดการนิติบัญญัติ
ตรา[[พระราชบัญญัติองคมนตรี|พระราชบัญญัติองคมนตรี]] พุทธศักราช ๒๔๗๐ จัดตั้ง[[สภากรรมการองคมนตรีฝึกหัดการนิติบัญญัติ|สภากรรมการองคมนตรีฝึกหัดการนิติบัญญัติ]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 250: บรรทัดที่ 250:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
ตราพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พุทธศักราช ๒๔๗๑
ตรา[[พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน_พุทธศักราช_๒๔๗๑|พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน_พุทธศักราช_๒๔๗๑]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 257: บรรทัดที่ 257:
|-
|-
| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
พระราชพิธีราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักเปี่ยมสุข สวนไกลกังวล หัวหิน
พระราชพิธีราชคฤหมงคลขึ้น[[พระตำหนักเปี่ยมสุข_สวนไกลกังวล_หัวหิน|พระตำหนักเปี่ยมสุข_สวนไกลกังวล_หัวหิน]]


| style="width:308px;" |  
| style="width:308px;" |  
บรรทัดที่ 473: บรรทัดที่ 473:


ตัดทอนและปรับปรุงแก้ไขจาก ลำดับเหตุการณ์ในพระชนมชีพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗. ใน''ประชาธิปก-รำไพพรรณีรชสดุดี (เอกสารประกอบสื่อโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗)''. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการประสานงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ. ๒๕๔๙. หน้า ๔๓-๕๗ ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้จัดทำขึ้นในโอกาสนั้นในฐาน''ะ''รองประธานกรรมการฯ
ตัดทอนและปรับปรุงแก้ไขจาก ลำดับเหตุการณ์ในพระชนมชีพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗. ใน''ประชาธิปก-รำไพพรรณีรชสดุดี (เอกสารประกอบสื่อโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗)''. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการประสานงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ. ๒๕๔๙. หน้า ๔๓-๕๗ ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้จัดทำขึ้นในโอกาสนั้นในฐาน''ะ''รองประธานกรรมการฯ
[[Category:พระปกเกล้าศึกษา]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 11:32, 19 กรกฎาคม 2560

เรียบเรียง : รองศาสตราจารย์ ม.ร.ว. พฤทธิสาณ ชุมพล

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.สนธิ เตชานันท์

 

เหตุการณ์

ปี พ.ศ. เมษายน = ต้นปี

(นับ ๑ เมษายนเป็นต้นปี พ.ศ.)

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชสมภพ เป็นสมเด็จเจ้าฟ้าชายประชาธิปกศักดิเดชน์ฯ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ

วันพุธที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๓๖ ปีมะเส็ง (ร.ศ. ๑๑๒)

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ เข้าพระราชพิธีโสกันต์ เฉลิมพระนามเป็น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยธรรมราชา

๔ มีนาคม ๒๔๔๙ (พระชันษา ๑๒ ปี)

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยธรรมราชาเสด็จออกไปทรงศึกษาต่อ ณ ทวีปยุโรป

๑๘ กรกฎาคม ๒๔๔๙

เสด็จถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประทับทรงศึกษาอยู่ ๔ เดือน

๑๗ สิงหาคม ๒๔๔๙

เสด็จถึงประเทศอังกฤษ ประทับศึกษาอยู่กับครอบครัวชาวอังกฤษของนาย เบล (Mr. C.W. Bell) ใกล้เมืองเลดเบอรี่ (Ledbury) มีนายโคลแมน (Mr. Coleman) เป็นพระอาจารย์

๗ มกราคม ๒๔๔๙

 

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศุโขไทยฯ ธรรมราชาทรงศึกษาที่วิทยาลัยอีตัน (Eton College) โรงเรียนมัธยมชั้นเอกอุของประเทศอังกฤษ ประทับที่สำนักของนายแฮร์ (Mr. J. H.M. Hare) จนทรงสำเร็จการศึกษา

พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๑ ถึง พ.ศ. ๒๔๕๓

เสด็จกลับมาทรงร่วมในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

มีนาคม ๒๔๕๓

เสด็จกลับไปประเทศอังกฤษ ทางประเทศญี่ปุ่นและรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย

กันยายน ๒๔๕๓

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงศึกษา ณ โรงเรียนนายร้อยทหารเมืองวูลลิช (Royal Military Academy, Woolwich) จนทรงสำเร็ขการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๕๔ ถึง ธันวาคม ๒๔๕๖ (พระชันษา ๒๐ปี)

เสด็จเข้าประจำการ เป็นนายร้อยตรีกิติมศักดิ์ในกองทหารปืนใหญ่ม้าของอังกฤษที่เมืองออลเดอร์ชอต (Aldershot)

กุมภาพันธ์ ๒๔๕๖ ถึง กันยายน ๒๔๕๗

สงครามโลกครั้งที่ ๑ อุบัติขึ้น ต้องพระราชประสงค์ที่จะเสด็จไปร่วมรบเยี่ยงทหารอังกฤษ แต่สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ ๕ (King George V) ไม่อาจสนองพระประสงค์ได้ เพราะทรงเป็นพลเมืองของประเทศที่เป็นกลางในสงครามอยู่ในขณะนั้น

พ.ศ. ๒๔๕๗

 

เสด็จไปทูลลาสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ ๕ ที่พระราชวังบัคคิงแฮม เพื่อเสด็จกลับสยาม รวมประทับที่อังกฤษ ๘ ปี

๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๗

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ นิวัติถึงพระนครจากอังกฤษ ทรงเข้ารับราชการทหารบก พระยศร้อยโท นายทหารคนสนิทของ จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ องค์เสนาธิการทหารบก ต่อมาทรงเป็นผู้บังคับการกองร้อยทหารปืนใหญ่รักษาพระองค์ พระยศนายร้อยเอก แล้วทรงเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการ กรมบัญชาการ กองทัพน้อยที่ ๒ พระยศนายพันตรีและผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยชั้นประถม ในช่วงนี้ประทับที่วังท่าเตียนของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ

๒๐ เมษายน ๒๔๕๘ ถึง มิถุนายน ๒๔๖๐

ทรงพระผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงพระฉายา “ปชาธิโป” แล้วเสด็จประทับจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ระหว่างนั้นทรงพระนิพนธ์เรียงความแก้กระทู้ธรรมรวม ๖ เรื่อง ทรงได้รับรางวัล ๓ เรื่อง ทรงลาพระผนวชแล้วทรงรับราชการทหารต่อไป

๒๗ มิถุนายน ๒๔๖๐ ถึง ตุลาคม ๒๔๖๐

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนศุโขไทยธรรมราชา ทรงอภิเษกสมรส กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี_สวัสดิวัตน์พระที่นั่งวโรภาษพิมาน พระราชวังบางปะอินแล้วทั้งสองพระองค์ เสด็จไปประทับที่วังศุโขทัย สามเสน

๒๖ สิงหาคม ๒๔๖๑ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ พระชันษา ๒๕ ปี หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี พระชันษา ๑๔ ปี

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ เสด็จไปประเทศฝรั่งเศสพร้อมด้วยหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี พระชายา ไปทรงรับการรักษาพระองค์ที่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสผ่านประเทศอียิปต์

๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๓ เสด็จถึงยุโรป พฤษภาคม ๒๔๖๔ ประทับรักษาอาการพระประชวรพระโรคไข้ส่า (Dengue fever) และโรคบิด ประมาณ ๖ สัปดาห์

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงศึกษาวิชาการทหารเพิ่มเติมในประเทศฝรั่งเศส โดยได้เสด็จไปประจำกองพันน้อยที่ ๒๐ (20 Corps d’ Armie) ณ เมืองนังซี (Nancy) กรมทหารราบที่ ๒๖ กองพันทหารปืนใหญ่ กองพันทหารม้า และทอดพระเนตรกองทหารอื่นๆ จนถึงเดือนพฤษภาคม ๒๔๖๕ จึงเสด็จทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก (Ecole de Guerre) ที่กรุงปารีส โดยประทับอยู่ที่ตำบลแซงต์ คลูด์ (St. Cloud) นอกกรุงปารีสรวมทั้งเสด็จทรงซ้อมรบ ที่แคว้นนอร์มังดี (Normandy) ด้วย ทรงสำเร็จการศึกษาเป็นทหารชั้นนายพัน ในการนี้พระชายาได้ตามเสด็จไปโดยตลอด ซึ่งบางครั้งที่ประทับอยู่ในถิ่นทุรกันดาร

๓ พฤศจิกายน ๒๔๖๕ ถึง ๑๖ กันยายน ๒๔๖๗

ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ กลับสยามประเทศผ่านสหรัฐอเมริกา เช่น นิวยอร์ค และซานฟรานซิสโก และญี่ปุ่น

๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๖๗ (สหรัฐอเมริกา) ๒๒ พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๔๖๗

ทั้งสองพระองค์เสด็จถึงพระนคร ประทับที่วังศุโขทัยตามเดิม สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงรับราชการในตำแหน่งปลัดกรมเสนาธิการทหารบก พระยศนายพันเอก

ธันวาคม ๒๔๖๗

ทรงรับตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารที่ ๒ และผู้บังคับการพิเศษ กรมทหารปืนใหญ่ที่ ๒

๒๔๖๘

ทรงดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท จึงต้องทรงศึกษาราชการแผ่นดิน และทรงปฏิบัติราชการแทนพระองค์เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับอยู่นอกพระนคร ทรงสั่งหนังสือราชการแทนพระองค์และประทับเป็นประธานในที่ประชุมเสนาบดีสภาด้วย

ต้น ๒๔๖๘ ถึง พฤศจิกายน ๒๔๖๘

ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนกรมเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา

๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๖๘

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชาเสด็จขึ้นครองราชย์ สืบราชสันตติวงศ์ต่อจากพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ (พระชนมพรรษา ๓๒ พรรษา)

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอภิรัฐมนตรีสภาเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์

๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๖๘

 

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงสถาปนาพระชายาเป็น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพรรณี_พระบรมราชินี เสด็จไปประทับที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๘ (ร.๗ พระชนมพรรษา ๓๒ พรรษา. สมเด็จฯ พระชนมายุ ๒๑ พรรษา)

เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลพายัพ

๖ มกราคม – ๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๙

 

พระยากัลยาณไมตรี (Dr. Francis B. Sayre) ทูลเกล้าฯ ถวายตอบพระราชบันทึกเรื่อง “Problems of Siam” (ทูลเกล้าฯ ถวายร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๑)

๒๗ กรกฎาคม ๒๔๖๙

ทรงพระราชดำริเรื่องเทศบาล (Municipality) เพื่อส่งเสริมการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่น และได้โปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาเรื่องนี้ต่อเนื่องมาจนสำเร็จเป็นร่างพระราชบัญญัติเทศบาล ส่งให้กรมร่างกฎหมาย เมื่อ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๓ แต่ได้ค้างอยู่ที่นั่นเรื่อยมาจนกระทั่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบเทศบาล พ.ศ. ๒๔๗๖

๑๒ สิงหาคม ๒๔๖๙

เสด็จพระราชดำเนินหัวเมืองชายฝั่งตะวันออก

๑๖ เมษายน – ๖ พฤษภาคม ๒๔๗๐

ตราพระราชบัญญัติองคมนตรี พุทธศักราช ๒๔๗๐ จัดตั้งสภากรรมการองคมนตรีฝึกหัดการนิติบัญญัติ

๒ กันยายน ๒๔๗๐

เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลปัตตานี ครั้งที่ ๑

๑๔ เมษายน – ๑ พฤษภาคม ๒๔๗๑

เสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลภูเก็ต

๒๔ มกราคม – ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๑

ตราพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน_พุทธศักราช_๒๔๗๑

๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๑ (บังคับใช้ ๑ เมษายน ๒๔๗๒)

พระราชพิธีราชคฤหมงคลขึ้นพระตำหนักเปี่ยมสุข_สวนไกลกังวล_หัวหิน

๑๐-๑๒ เมษายน ๒๔๗๒

เสด็จพระราชดำเนินเยือนมณฑลปัตตานี ครั้งที่ ๒ (ทอดพระเนตรสุริยคราส)

๕-๑๓ พฤษภาคม ๒๔๗๒

เสด็จพระราชดำเนินเยือนสิงคโปร์ ชวา บาหลี

๓๑ กรกฎาคม – ๑๑ ตุลาคม ๒๔๗๒

เสด็จพระราชดำเนินเยือนอินโดจีนของฝรั่งเศส (เวียดนามและกัมพูชา)

๖ เมษายน – ๘ พฤษภาคม ๒๔๗๓

ในคราวเสด็จฯ ไปเยือนสหรัฐอเมริกา เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่น ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ในระหว่างทาง

๖-๙ เมษายน ๒๔๗๔

เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา และแคนาดา

๒๘ เมษายน-๑๒ กันยายน ๒๔๗๔

มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

๓๐ เมษายน ๒๔๗๔

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงเข้ารับการผ่าตัดพระเนตรซ้ายครั้งแรกที่ Ophir Hall, White Plains มลรัฐนิวยอร์ค

๑๐ พฤษภาคม ๒๔๗๔

Raymond B. Stevens และพระยาศรีวิสารวาจา (เทียนเลี้ยง ฮุนตระกูล) ทูลเกล้าฯ ถวาย “ร่างรัฐธรรมนูญ” (ฉบับที่ ๒)

๙ มีนาคม ๒๔๗๔

เสด็จฯ กลับผ่านญี่ปุ่น

๒๖-๒๘ กันยายน ๒๔๗๔

พระราชพิธีเฉลิมพระนคร ๑๕๐ ปี เปิดพระปฐมบรมราชานุสรณ์ และสะพานพุทธยอดฟ้า

๖ เมษายน ๒๔๗๕

คณะราษฎรยึดอำนาจการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ ขณะประทับอยู่ที่สวนไกลกังวล หัวหิน

๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕

๒๕ มิถุนายน ๒๔๗๕

เสด็จฯ กลับถึงพระนคร ทรงตราพระราชบัญญัติกำหนดนิรโทษกรรมในคราวเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พุทธศักราช ๒๔๗๕

๒๖ มิถุนายน ๒๔๗๕

ตราพระราชบัญญัติการปกครองแผ่นดินสยาม ชั่วคราว พุทธศักราช ๒๔๗๕

๒๗ มิถุนายน ๒๔๗๕

พระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ (ฉบับถาวร) ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม

๑๐ ธันวาคม ๒๔๗๕

พิธีเปิดโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง

๒ กรกฎาคม ๒๔๗๖

“กบฏบวรเดช” (ทหารหัวเมือง กับทหารกรุงเทพฯ สู้รบกัน)

๑๑-๒๔ ตุลาคม ๒๔๗๖

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ และสมเด็จฯ เสด็จฯ จากสวนไกลกังวลด้วยเรือเล็ก “ศรวรุณ”กลางทะเลลึกไปทางใต้สู่สงขลาเป็นเวลา ๒ วันครึ่ง เพื่อทรงหลีกเลี่ยงการที่พระมหากษัตริย์ จะทรงตกเป็น “องค์ประกัน”

๑๔ ตุลาคม ๒๔๗๖

๑๗ ตุลาคม ๒๔๗๖

เสด็จฯ จากสงขลาคืนสู่พระนคร

๙ ธันวาคม ๒๔๗๖

เสด็จฯ รัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งทางอ้อมและการแต่งตั้ง เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป คือฝรั่งเศส อิตาลี นครรัฐวาติกัน อังกฤษ ทรงรับการผ่าตัดพระเนตรซ้ายขั้นที่สองที่ลอนดอนคลินิก แล้วเสด็จฯ เดนมาร์ก เยอรมนี เบลเยี่ยม เชโกสโลวาเกีย ฮังการี สวิตเซอร์แลนด์ เสด็จฯ จากปารีสไปยังอังกฤษอีกครั้งเมื่อปลายเดือนกันยายน ๒๔๗๗ ทรงเปิดฉากเจรจากับรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ถึงเงื่อนไขหากรัฐบาลไม่ต้องการให้ทรงสละราชสมบัติ

๑๐ ธันวาคม ๒๔๗๖

๑๒ มกราคม ๒๔๗๖

ทรงสละราชสมบัติขณะประทับ ณ พระตำหนักโนล (Knowle) ตำบลแครนลีย์ (Cranleigh) จังหวัดเซอเร่ย์ (Surrey) ประเทศอังกฤษ

๒ มีนาคม ๒๔๗๗ (ร.๗ พระชนมพรรษา ๔๑ พรรษา; สมเด็จฯ พระชนมายุ ๓๐ พรรษา)

ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ต่อไปที่ พระตำหนัก Knowle, Cranleigh, Surrey

๒๔๗๗ (ทรงเช่า)

ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนัก Glen Pammant, Virginia Water (ทรงเช่าห้องชุดที่ Eaton House ไว้ประทับแรมเป็นครั้งคราวในกรุงลอนดอน)

๒๔๗๘-๒๔๘๐ (ทรงซื้อ)

(๒๔๘๐-๒๔๘๒)

ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนัก Vane Court, Biddenden, Kent

๒๔๘๐-๒๔๘๒ (ทรงซื้อ)

ทรงย้ายไปประทับที่ตำหนัก Compton House, Wentworth Estate, Virginia Water, Surrey

๒๔๘๒-๒๔๙๒ (ทรงเช่า)

ระหว่างนั้น: มีนาคม ๒๔๘๑ สงครามโลกครั้งที่สองตั้งเค้า และทวีความรุนแรงขึ้นคือมีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินในปี ๒๔๘๓ จึงทรงแปรที่ประทับไปยังตอนเหนือของเดวอน (Devon) ที่เมือง Bideford หรือ Appledore เข้าใจว่าพระตำหนักชื่อว่า Staddon และต่อมาที่ Lake Vyrwny Hotel, Northe Wales แล้วจึงเสด็จคืนสู่ Compton House

๒๔๘๓-๒๔๘๔

เสด็จสวรรคตด้วยอาการพระหทัยวาย ที่พระตำหนัก Compton House สมเด็จฯ ประทับอยู่ที่พระตำหนักที่ทรงเช่าระยะยาวนี้ต่อไป

๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๔ (ร.๗ พระชนมพรรษา ๔๘ พรรษา; สมเด็จฯ พระชนมายุ ๓๗ พรรษา)

ถวายพระเพลิงพระบรมศพอย่างเรียบง่ายที่ฌาปนสถาน Golders Green กรุงลอนดอน ในระหว่างสงคราม

๓ มิถุนายน ๒๔๘๔

ภายหลังจากที่สงครามสงบลงทั่วโลกแล้ว สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีรัชกาลที่ ๗ ทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิโดยเรือเดินสมุทรจากประเทศอังกฤษ เสด็จถึงพระนคร มีกระบวนพยุหยาตราใหญ่อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ หอพระบรมอัฐิ ที่ชั้นบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

๒๔ พฤษภาคม ๒๔๙๒ (นับวันที่ ๑ มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่)

 

บรรณานุกรม

ตัดทอนและปรับปรุงแก้ไขจาก ลำดับเหตุการณ์ในพระชนมชีพพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗. ในประชาธิปก-รำไพพรรณีรชสดุดี (เอกสารประกอบสื่อโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗). กรุงเทพฯ: คณะกรรมการประสานงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ. ๒๕๔๙. หน้า ๔๓-๕๗ ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้จัดทำขึ้นในโอกาสนั้นในฐานรองประธานกรรมการฯ