ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พัฒนาโทรคมนาคม : โทรศัพท์"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กิจการด้านโทรศัพท์มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่เดิม การติดต่อทางโทรศัพท์ต้องให้พนักงานต่อสายจากโทรศัพท์กลางไปยังปลายทางจึงจะสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ อีกทั้งขณะนั้นมีสำนักงานโทรศัพท์กลางอยู่เพียงแห่งเดียว คือ ที่วัดเลียบถนนจักรเพ็ชร  
รัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] กิจการด้านโทรศัพท์มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่เดิม การติดต่อทางโทรศัพท์ต้องให้พนักงานต่อสายจากโทรศัพท์กลางไปยังปลายทางจึงจะสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ อีกทั้งขณะนั้นมีสำนักงานโทรศัพท์กลางอยู่เพียงแห่งเดียว คือ ที่วัดเลียบถนนจักรเพ็ชร  


เมื่อกิจการโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้เช่าโทรศัพท์ขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งเครื่องชุมสายโทรศัพท์ที่โทรศัพท์กลางวัดเลียบก็รับการติดต่อเพิ่มขึ้นอีกได้ไม่มาก ในปี ๒๔๗๐ รัฐบาลโดยกรมไปรษณีย์โทรเลข จึงสร้างโทรศัพท์กลางขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่ตำบลบางรัก บริเวณการสื่อสารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน มีขนาด ๙๐๐ เลขหมาย  ปีเดียวกันนี้ ทางการได้วางสายเคเบิลใต้ดินเชื่อมโทรศัพท์กลางวัดเลียบกับโทรศัพท์กลางบางรัก  ส่งผลให้กิจการโทรศัพท์แพร่หลายไปทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี และนครปฐมได้ด้วย  
เมื่อกิจการโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้เช่าโทรศัพท์ขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งเครื่องชุมสายโทรศัพท์ที่โทรศัพท์กลางวัดเลียบก็รับการติดต่อเพิ่มขึ้นอีกได้ไม่มาก ในปี ๒๔๗๐ [[รัฐบาล]]โดยกรมไปรษณีย์โทรเลข จึงสร้างโทรศัพท์กลางขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่ตำบลบางรัก บริเวณการสื่อสารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน มีขนาด ๙๐๐ เลขหมาย  ปีเดียวกันนี้ ทางการได้วางสายเคเบิลใต้ดินเชื่อมโทรศัพท์กลางวัดเลียบกับโทรศัพท์กลางบางรัก  ส่งผลให้กิจการโทรศัพท์แพร่หลายไปทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี และนครปฐมได้ด้วย  


ขณะนั้นพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมทรงดำริให้ริเริ่มใช้โทรศัพท์แบบต่อสายเอง เพราะมีประสิทธิภาพดีกว่าโทรศัพท์แบบพนักงานต่อจากโทรศัพท์กลาง  ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถติดต่อกับปลายทางได้โดยตรงจึงรวดเร็วกว่าตัดปัญหาความผิดพลาดในการต่อสาย อีกทั้งการใช้ตัวเลขอารบิคทำให้ทุกชาติทุกภาษาเข้าใจง่าย การเก็บเงินโดยใช้เครื่องวัดมีความเที่ยงตรง และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่อง  
ขณะนั้น[[พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน]] เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมทรงดำริให้ริเริ่มใช้โทรศัพท์แบบต่อสายเอง เพราะมีประสิทธิภาพดีกว่าโทรศัพท์แบบพนักงานต่อจากโทรศัพท์กลาง  ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถติดต่อกับปลายทางได้โดยตรงจึงรวดเร็วกว่าตัดปัญหาความผิดพลาดในการต่อสาย อีกทั้งการใช้ตัวเลขอารบิคทำให้ทุกชาติทุกภาษาเข้าใจง่าย การเก็บเงินโดยใช้เครื่องวัดมีความเที่ยงตรง และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่อง  


กล่าวได้ว่าเวลานั้นไทยเป็นประเทศที่มีกิจการโทรศัพท์ก้าวหน้าในภูมิภาค และเป็นก้าวสำคัญของการนำเทคโนโลยี วิทยาการต่างๆเข้ามาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ  จนสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
กล่าวได้ว่าเวลานั้นไทยเป็นประเทศที่มีกิจการโทรศัพท์ก้าวหน้าในภูมิภาค และเป็นก้าวสำคัญของการนำเทคโนโลยี วิทยาการต่างๆเข้ามาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ  จนสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:06, 11 กุมภาพันธ์ 2559

รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว กิจการด้านโทรศัพท์มีพัฒนาการที่ก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่เดิม การติดต่อทางโทรศัพท์ต้องให้พนักงานต่อสายจากโทรศัพท์กลางไปยังปลายทางจึงจะสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ อีกทั้งขณะนั้นมีสำนักงานโทรศัพท์กลางอยู่เพียงแห่งเดียว คือ ที่วัดเลียบถนนจักรเพ็ชร

เมื่อกิจการโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้เช่าโทรศัพท์ขยายตัวมากขึ้น อีกทั้งเครื่องชุมสายโทรศัพท์ที่โทรศัพท์กลางวัดเลียบก็รับการติดต่อเพิ่มขึ้นอีกได้ไม่มาก ในปี ๒๔๗๐ รัฐบาลโดยกรมไปรษณีย์โทรเลข จึงสร้างโทรศัพท์กลางขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่ตำบลบางรัก บริเวณการสื่อสารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน มีขนาด ๙๐๐ เลขหมาย ปีเดียวกันนี้ ทางการได้วางสายเคเบิลใต้ดินเชื่อมโทรศัพท์กลางวัดเลียบกับโทรศัพท์กลางบางรัก ส่งผลให้กิจการโทรศัพท์แพร่หลายไปทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสมุทรปราการ นนทบุรี และนครปฐมได้ด้วย

ขณะนั้นพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมทรงดำริให้ริเริ่มใช้โทรศัพท์แบบต่อสายเอง เพราะมีประสิทธิภาพดีกว่าโทรศัพท์แบบพนักงานต่อจากโทรศัพท์กลาง ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถติดต่อกับปลายทางได้โดยตรงจึงรวดเร็วกว่าตัดปัญหาความผิดพลาดในการต่อสาย อีกทั้งการใช้ตัวเลขอารบิคทำให้ทุกชาติทุกภาษาเข้าใจง่าย การเก็บเงินโดยใช้เครื่องวัดมีความเที่ยงตรง และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่อง

กล่าวได้ว่าเวลานั้นไทยเป็นประเทศที่มีกิจการโทรศัพท์ก้าวหน้าในภูมิภาค และเป็นก้าวสำคัญของการนำเทคโนโลยี วิทยาการต่างๆเข้ามาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ จนสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึงและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖