ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี 2"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย 'หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จพระรา...'
 
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 1 คน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จพระราชดำเนินกลับมาจากประเทศอังกฤษเมื่อพุทธศักราช.๒๔๙๒ แล้ว ในช่วงแรกพระองค์ประทับอยู่ที่วังสระปทุม แต่ด้วยทรงเกรงพระทัยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประกอบกับต้องพระราชประสงค์ประทับอยู่อย่างเงียบๆท่ามกลางพระประยูรญาติ จึงทรงซื้อที่ดินบริเวณตำบลบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี เพื่อสร้างที่ประทับซึ่งพระราชทานนามว่า “สวนบ้านแก้ว”
หลังจากที่[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี]] เสด็จพระราชดำเนินกลับมาจากประเทศอังกฤษเมื่อพุทธศักราช.๒๔๙๒ แล้ว ในช่วงแรกพระองค์ประทับอยู่ที่[[วังสระปทุม]] แต่ด้วยทรงเกรงพระทัยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประกอบกับต้องพระราชประสงค์ประทับอยู่อย่างเงียบๆท่ามกลางพระประยูรญาติ จึงทรงซื้อที่ดินบริเวณตำบลบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี เพื่อสร้างที่ประทับซึ่งพระราชทานนามว่า “[[สวนบ้านแก้ว]]”


ในชนบทห่างไกลนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงดำเนินกิจการด้านการเกษตรประเภทเลี้ยงตนเอง ปลูกพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงวัวและไก่ เป็นต้น  นอกจากนี้ พระองค์ยังได้เผยแพร่ผลการทดลอง และพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชและพันธ์สัตว์แก่ประชาชนในท้องถิ่น  ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูร หัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจังหวัดจันทบุรี โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงงานทอเสื่อกกจันทบูร โดยนำเสื่อที่ทอมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย เป็นตัวอย่างให้แพร่หลายออกไป พระองค์ประทับอยู่ที่สวนบ้านแก้วเป็นเวลา ๑๘ ปี จนถึงพุทธศักราช ๒๕๑๑ ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่วังศุโขทัยเป็นการถาวร และทรงขายวังสวนบ้านแก้วแก่กระทรวงศึกษาธิการในราคาย่อมเยาเพื่อเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยครูจันทบุรี
ในชนบทห่างไกลนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงดำเนินกิจการด้านการเกษตรประเภทเลี้ยงตนเอง ปลูกพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงวัวและไก่ เป็นต้น  นอกจากนี้ พระองค์ยังได้เผยแพร่ผลการทดลอง และพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชและพันธ์สัตว์แก่ประชาชนในท้องถิ่น  ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูร หัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจังหวัดจันทบุรี โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงงานทอเสื่อกกจันทบูร โดยนำเสื่อที่ทอมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย เป็นตัวอย่างให้แพร่หลายออกไป พระองค์ประทับอยู่ที่สวนบ้านแก้วเป็นเวลา ๑๘ ปี จนถึงพุทธศักราช ๒๕๑๑ ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่วังศุโขทัยเป็นการถาวร และทรงขายวังสวนบ้านแก้วแก่กระทรวงศึกษาธิการในราคาย่อมเยาเพื่อเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยครูจันทบุรี


อย่างไรก็ตามยังทรงสานต่อกิจการทอเสื่อ ที่ตำหนักน้ำ วังศุโขทัย ได้เสด็จลงทอดพระเนตรและทรงแนะนำช่างทอแทบทุกวัน   
อย่างไรก็ตามยังทรงสานต่อกิจการทอเสื่อ ที่ตำหนักน้ำ [[วังศุโขทัย]] ได้เสด็จลงทอดพระเนตรและทรงแนะนำช่างทอแทบทุกวัน   


ปัจจุบันวิทยาลัยครูจันทบุรีได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี” และได้ซ่อมแซมอนุรักษ์พระตำหนักเทาที่ประทับเดิมไว้ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงประกอบเพื่อความกินดีอยู่ดีของชาวจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง
ปัจจุบัน[[วิทยาลัยครูจันทบุรี]]ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “[[มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี]]” และได้ซ่อมแซมอนุรักษ์พระตำหนักเทาที่ประทับเดิมไว้ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงประกอบเพื่อความกินดีอยู่ดีของชาวจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง


'''ที่มา '''
'''ที่มา '''
   
   
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖
*[https://www.youtube.com/watch?v=Qr3-10xhxHU&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo&index=117 YOU TUBE :เสด็จสู่สวรรคาลัยและหลังรัชสมัย : สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี 2]


[[หมวดหมู่:พระราชประวัติหลังสละราชสมบัติ]]
[[หมวดหมู่:พระราชประวัติหลังสละราชสมบัติ]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 11:53, 10 กุมภาพันธ์ 2559

หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เสด็จพระราชดำเนินกลับมาจากประเทศอังกฤษเมื่อพุทธศักราช.๒๔๙๒ แล้ว ในช่วงแรกพระองค์ประทับอยู่ที่วังสระปทุม แต่ด้วยทรงเกรงพระทัยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประกอบกับต้องพระราชประสงค์ประทับอยู่อย่างเงียบๆท่ามกลางพระประยูรญาติ จึงทรงซื้อที่ดินบริเวณตำบลบ้านแก้ว จังหวัดจันทบุรี เพื่อสร้างที่ประทับซึ่งพระราชทานนามว่า “สวนบ้านแก้ว

ในชนบทห่างไกลนั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ทรงดำเนินกิจการด้านการเกษตรประเภทเลี้ยงตนเอง ปลูกพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงวัวและไก่ เป็นต้น นอกจากนี้ พระองค์ยังได้เผยแพร่ผลการทดลอง และพระราชทานเมล็ดพันธุ์พืชและพันธ์สัตว์แก่ประชาชนในท้องถิ่น ทรงพัฒนาการทอเสื่อจันทบูร หัตถกรรมพื้นบ้านของชาวจังหวัดจันทบุรี โดยโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงงานทอเสื่อกกจันทบูร โดยนำเสื่อที่ทอมาประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย เป็นตัวอย่างให้แพร่หลายออกไป พระองค์ประทับอยู่ที่สวนบ้านแก้วเป็นเวลา ๑๘ ปี จนถึงพุทธศักราช ๒๕๑๑ ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับที่วังศุโขทัยเป็นการถาวร และทรงขายวังสวนบ้านแก้วแก่กระทรวงศึกษาธิการในราคาย่อมเยาเพื่อเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยครูจันทบุรี

อย่างไรก็ตามยังทรงสานต่อกิจการทอเสื่อ ที่ตำหนักน้ำ วังศุโขทัย ได้เสด็จลงทอดพระเนตรและทรงแนะนำช่างทอแทบทุกวัน

ปัจจุบันวิทยาลัยครูจันทบุรีได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี” และได้ซ่อมแซมอนุรักษ์พระตำหนักเทาที่ประทับเดิมไว้ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงประกอบเพื่อความกินดีอยู่ดีของชาวจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียง

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖