ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสด็จฯ เยือนอินโดจีน (เวียดนาม) 1"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย 'เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ พระบาทสมเด็จพระปกเกล...' |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 1 คน) | |||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว | เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ [[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]] ได้เสด็จเยือนอินโดจีน ซึ่งอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส เมืองแรกที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนนั้น คือ เมืองไซ่ง่อน ศูนย์กลางการปกครองของอินโดจีนฝรั่งเศสบนดินแดนเวียดนามตอนใต้ [[เรือพระที่นั่งมหาจักรี]]เข้าเทียบท่าในแม่น้ำหน้าเมืองไซ่ง่อน ในวันที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ มองสิเออร์ปาสกิเอ ข้าหลวงใหญ่[[ผู้สำเร็จราชการ]]แห่งอินโดจีนฝรั่งเศส พร้อมด้วยบรรดาข้าราชการฝรั่งเศสจัดพิธีรับเสด็จอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ และได้อัญเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่สำคัญหลายแห่งในเมืองไซ่ง่อน ท่ามกลางชาวเมืองที่มารับเสด็จอย่างเนืองแน่น | ||
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว | พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังอนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตใน[[สงครามโลกครั้งที่ ๑]] เพื่อทรงวางพวงมาลาเป็นเกียรติแก่ทหารผู้เสียชีวิตในมหาสงครามโลกครั้งแรก นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรยังสถานที่ต่างๆ เช่น ทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลระหว่างนักกีฬาสยามกับนักกีฬาชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นการกระชับสัมพันธ์ระหว่างผู้คนสองประเทศผ่านกีฬา | ||
กาลเวลาผ่านไป ร่องรอยของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองไซ่ง่อนในครั้งนั้น ดูเหมือนจะลางเลือนไปจากความทรงจำ อันเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเวียดนามทั้งในด้านการเมือง และสงครามที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม สถานที่สำคัญๆ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือน ยังคงได้รับการรักษาอย่างดี รวมถึงอนุสาวรีย์ช้างสำริดที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ให้แก่ข้าหลวงใหญ่แห่งอินโดจีนฝรั่งเศสเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพระหว่างไทยกับเวียดนามมาจนถึงปัจจุบัน | กาลเวลาผ่านไป ร่องรอยของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองไซ่ง่อนในครั้งนั้น ดูเหมือนจะลางเลือนไปจากความทรงจำ อันเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเวียดนามทั้งในด้านการเมือง และสงครามที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม สถานที่สำคัญๆ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือน ยังคงได้รับการรักษาอย่างดี รวมถึงอนุสาวรีย์ช้างสำริดที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ให้แก่ข้าหลวงใหญ่แห่งอินโดจีนฝรั่งเศสเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพระหว่างไทยกับเวียดนามมาจนถึงปัจจุบัน | ||
บรรทัดที่ 9: | บรรทัดที่ 9: | ||
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖ | ||
[[หมวดหมู่:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ]] | *[https://www.youtube.com/watch?v=A1MSMpZ9nus&index=73&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo YOU TUBE : ทางสายพระราชไมตรี : เสด็จฯ เยือนอินโดจีน (เวียดนาม) 1] | ||
[[หมวดหมู่:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ|ส]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:31, 10 กุมภาพันธ์ 2559
เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จเยือนอินโดจีน ซึ่งอยู่ในความปกครองของฝรั่งเศส เมืองแรกที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนนั้น คือ เมืองไซ่ง่อน ศูนย์กลางการปกครองของอินโดจีนฝรั่งเศสบนดินแดนเวียดนามตอนใต้ เรือพระที่นั่งมหาจักรีเข้าเทียบท่าในแม่น้ำหน้าเมืองไซ่ง่อน ในวันที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๓ มองสิเออร์ปาสกิเอ ข้าหลวงใหญ่ผู้สำเร็จราชการแห่งอินโดจีนฝรั่งเศส พร้อมด้วยบรรดาข้าราชการฝรั่งเศสจัดพิธีรับเสด็จอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ และได้อัญเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่สำคัญหลายแห่งในเมืองไซ่ง่อน ท่ามกลางชาวเมืองที่มารับเสด็จอย่างเนืองแน่น
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังอนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ ๑ เพื่อทรงวางพวงมาลาเป็นเกียรติแก่ทหารผู้เสียชีวิตในมหาสงครามโลกครั้งแรก นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรยังสถานที่ต่างๆ เช่น ทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลระหว่างนักกีฬาสยามกับนักกีฬาชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นการกระชับสัมพันธ์ระหว่างผู้คนสองประเทศผ่านกีฬา
กาลเวลาผ่านไป ร่องรอยของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองไซ่ง่อนในครั้งนั้น ดูเหมือนจะลางเลือนไปจากความทรงจำ อันเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเวียดนามทั้งในด้านการเมือง และสงครามที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม สถานที่สำคัญๆ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือน ยังคงได้รับการรักษาอย่างดี รวมถึงอนุสาวรีย์ช้างสำริดที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานไว้ให้แก่ข้าหลวงใหญ่แห่งอินโดจีนฝรั่งเศสเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพระหว่างไทยกับเวียดนามมาจนถึงปัจจุบัน
ที่มา
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖