ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความแตกต่างระหว่างอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาฯ กับคณะกรรมการสภาพัฒน์ฯ"
สร้างหน้าใหม่: '''ผู้เรียบเรียง''' วัชรา ไชยสาร ---- '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทค... |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 4 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
== ความแตกต่างระหว่างอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) == | == ความแตกต่างระหว่างอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) == | ||
ก่อนที่จะกล่าวถึงความแตกต่างของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สป. | ก่อนที่จะกล่าวถึงความแตกต่างของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สป. กับ[[คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ]] หรือ[[สภาพัฒน์ฯ]] จะขอนำเสนอถึงที่มาและบทบาทหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้น | ||
== ที่มาของสภาพัฒน์ฯ == | == ที่มาของสภาพัฒน์ฯ == | ||
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ | คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดตั้งขึ้นโดย[[พระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521]] ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นที่มีความรู้ความชัดเจนหรือมีประสบการณ์ในทางเศรษฐกิจและสังคมอีกไม่เกินเก้าคนซึ่ง[[คณะรัฐมนตรี]]แต่งตั้ง และให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเลขาธิการ ก.พ. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ (มาตรา 5)<ref>พระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521.</ref> | ||
== อำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ == | == อำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ == | ||
บรรทัดที่ 25: | บรรทัดที่ 24: | ||
(3) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่นายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณา | (3) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่นายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณา | ||
(4) | (4) จัดให้มีการประสานงานระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับส่วนราชการและ[[รัฐวิสาหกิจ]]ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการจัดทำแผนงานและโครงการพัฒนา และในด้านการปฏิบัติงานตามแผน | ||
นอกจากนั้น มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 ยังได้กำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งจะนำเสนอในตารางเปรียบเทียบต่อไป | นอกจากนั้น มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 ยังได้กำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งจะนำเสนอในตารางเปรียบเทียบต่อไป | ||
<center>[[ภาพ:การประชุมปรึกษาหารือ.jpg]]</center> | |||
<center>'''การประชุมปรึกษาหารือระหว่างสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ''' | |||
'''เพื่อกำหนดแนวทางการพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10'''</center> | |||
== เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาฯ กับสภาพัฒน์ฯ == | == เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาฯ กับสภาพัฒน์ฯ == | ||
บรรทัดที่ 41: | บรรทัดที่ 44: | ||
(1) ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง | (1) ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง | ||
(2) | (2) ให้ความเห็นเกี่ยวกับ[[แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ]] และแผนอื่นตามที่[[กฎหมาย]]กำหนดให้เสนอแผนนั้นต่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก่อนพิจารณาประกาศใช้ | ||
(3) ให้คำปรึกษาหรือความเห็นในเรื่องใดๆ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี เห็นสมควรและขอรับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย ในเรื่องนั้น ซึ่งอาจกระทบถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นส่วนรวม | (3) ให้คำปรึกษาหรือความเห็นในเรื่องใดๆ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี เห็นสมควรและขอรับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย ในเรื่องนั้น ซึ่งอาจกระทบถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นส่วนรวม | ||
บรรทัดที่ 63: | บรรทัดที่ 66: | ||
== เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ กับสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ == | == เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ กับสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ == | ||
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศ.) | อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศ.) ตาม[[พระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543]] และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตาม[[พระราชบัญญัติ]]พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 เปรียบเทียบได้ดังตารางต่อไปนี้ | ||
{| border="1" align="center" | {| border="1" align="center" | ||
บรรทัดที่ 85: | บรรทัดที่ 88: | ||
(1) สำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเสนอแนะจุดหมายและนโยบายแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ | (1) สำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเสนอแนะจุดหมายและนโยบายแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ | ||
(2) | (2) พิจารณาแผนงานและโครงการพัฒนาของ[[กระทรวง]] ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และของรัฐวิสาหกิจใดร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และรัฐวิสาหกิจนั้น กับจัดประสานแผนงานและโครงการพัฒนาเหล่านั้น เพื่อวางแผนส่วนรวมสำหรับช่วงระยะเวลาหนึ่งตามจุดหมายแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามกำลังทรัพยากรที่มีอยู่ และตามลำดับความสำคัญก่อนหลังในการใช้ทรัพยากรนั้น | ||
(3) ศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับกำลังเงิน กำลังคน และทรัพยากรอื่นที่มีอยู่และที่อาจหามาได้ และวางแผนการใช้และการจัดหาทรัพยากรดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของรัฐ | (3) ศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับกำลังเงิน กำลังคน และทรัพยากรอื่นที่มีอยู่และที่อาจหามาได้ และวางแผนการใช้และการจัดหาทรัพยากรดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของรัฐ | ||
บรรทัดที่ 109: | บรรทัดที่ 112: | ||
จะเห็นได้ว่า อำนาจหน้าที่ของ สศ. กับอำนาจหน้าที่ของ สศช. ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก สภาพัฒน์ฯ โดยอำนาจหน้าที่ของ สศ. เน้นการสนับสนุนการดำเนินงานของ สป. แต่อำนาจหน้าที่ของสศช. ค่อนข้างจะมีเนื้อหาและขอบเขตงานที่กว้าง มีความสัมพันธ์กับทุกส่วนราชการที่มีการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ และที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ และเน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และสังคมที่นำเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป | จะเห็นได้ว่า อำนาจหน้าที่ของ สศ. กับอำนาจหน้าที่ของ สศช. ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก สภาพัฒน์ฯ โดยอำนาจหน้าที่ของ สศ. เน้นการสนับสนุนการดำเนินงานของ สป. แต่อำนาจหน้าที่ของสศช. ค่อนข้างจะมีเนื้อหาและขอบเขตงานที่กว้าง มีความสัมพันธ์กับทุกส่วนราชการที่มีการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ และที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ และเน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และสังคมที่นำเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป | ||
== ที่มา == | == ที่มา == | ||
บรรทัดที่ 128: | บรรทัดที่ 128: | ||
http://www.nesac.go.th/ | http://www.nesac.go.th/ | ||
==อ้างอิง== | |||
<references/> | |||
[[หมวดหมู่:ความเป็นมาของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ]] | |||
[[หมวดหมู่:วัชรา ไชยสาร]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 11:34, 7 ตุลาคม 2554
ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ
ความแตกต่างระหว่างอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ)
ก่อนที่จะกล่าวถึงความแตกต่างของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สป. กับคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ฯ จะขอนำเสนอถึงที่มาและบทบาทหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้น
ที่มาของสภาพัฒน์ฯ
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นที่มีความรู้ความชัดเจนหรือมีประสบการณ์ในทางเศรษฐกิจและสังคมอีกไม่เกินเก้าคนซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง และให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเลขาธิการ ก.พ. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ (มาตรา 5)[1]
อำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ
ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 กำหนดให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ฯ มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) เสนอแนะและให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อคณะรัฐมนตรี
(2) พิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับข้อเสนออื่นๆ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วทำความเห็นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
(3) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่นายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณา
(4) จัดให้มีการประสานงานระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการจัดทำแผนงานและโครงการพัฒนา และในด้านการปฏิบัติงานตามแผน
นอกจากนั้น มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 ยังได้กำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งจะนำเสนอในตารางเปรียบเทียบต่อไป

เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาฯ กับสภาพัฒน์ฯ
อำนาจหน้าที่ของ สป. ตามพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 และอำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ ตามพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 เปรียบเทียบได้ดังตารางต่อไปนี้[2]
อำนาจหน้าที่ของ สป. | อำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ |
---|---|
(1) ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (2) ให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนอื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เสนอแผนนั้นต่อสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก่อนพิจารณาประกาศใช้ (3) ให้คำปรึกษาหรือความเห็นในเรื่องใดๆ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรี เห็นสมควรและขอรับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย ในเรื่องนั้น ซึ่งอาจกระทบถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นส่วนรวม (4) พิจารณาศึกษาและจัดทำรายงานเป็นข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องที่เห็นสมควรกำหนด เป็นแนวทาง ในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ |
(1) เสนอแนะและให้ความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่อคณะรัฐมนตรี (2) พิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับข้อเสนออื่นๆ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วทำความเห็นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (3) เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในกิจการเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่นายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณา (4) จัดให้มีการประสานงานระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการจัดทำแผนงานและโครงการพัฒนา และในด้านการปฏิบัติงานตามแผน |
จะเห็นได้ว่า อำนาจหน้าที่ของ สป. กับอำนาจหน้าที่ของสภาพัฒน์ฯ มีความสัมพันธ์และใกล้เคียงกันมาก หรืออาจจะเรียกได้ว่าซ้ำซ้อนกันอยู่หลายประการ แต่หากพิจารณาในเจตนารมณ์ของการมีสภาที่ปรึกษาฯ ก็จะเข้าใจถึงที่มาของข้อมูลและกระบวนการจัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีของทั้งองค์กรมีความแตกต่างกัน โดยสภาที่ปรึกษาฯ จะให้ความสำคัญกับข้อมูลจากประชาชนทุกภาคส่วนโดยจะเห็นได้ว่า องค์ประกอบของสภาที่ปรึกษาฯ นั้นมาจากผู้แทนองค์กรกลุ่มอาชีพและกิจกรรมทุกภาคส่วนของสังคมไทย แต่การดำเนินงานของสภาพัฒน์ฯ จะเน้นข้อมูลจากภาครัฐมากกว่า (แม้ว่าสภาพัฒน์ฯ จะได้ให้ความสำคัญต่อภาคประชาชนมากขึ้น แต่ก็แตกต่างจากสภาที่ปรึกษาฯ ที่กฎหมายกำหนดแนวคิดไว้ชัดเจน นับตั้งแต่องค์ประกอบของสภาที่ปรึกษาฯ)
เปรียบเทียบอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ กับสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศ.) ตามพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามพระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 เปรียบเทียบได้ดังตารางต่อไปนี้
อำนาจหน้าที่ของ สศ. | อำนาจหน้าที่ของ สศช. |
---|---|
(1) สำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์เรื่องที่จะต้องเสนอให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา (2) รับผิดชอบในงานธุรการของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (3) จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลงานและอุปสรรคในการดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (4) เป็นหน่วยงานทางวิชาการให้แก่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (5) ดำเนินการต่างๆ ในการเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (6) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย |
(1) สำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเสนอแนะจุดหมายและนโยบายแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ (2) พิจารณาแผนงานและโครงการพัฒนาของกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และของรัฐวิสาหกิจใดร่วมกับกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และรัฐวิสาหกิจนั้น กับจัดประสานแผนงานและโครงการพัฒนาเหล่านั้น เพื่อวางแผนส่วนรวมสำหรับช่วงระยะเวลาหนึ่งตามจุดหมายแห่งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามกำลังทรัพยากรที่มีอยู่ และตามลำดับความสำคัญก่อนหลังในการใช้ทรัพยากรนั้น (3) ศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับกำลังเงิน กำลังคน และทรัพยากรอื่นที่มีอยู่และที่อาจหามาได้ และวางแผนการใช้และการจัดหาทรัพยากรดังกล่าวเพื่อประโยชน์ของรัฐ (4) จัดทำข้อเสนอ โดยหารือกับกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรมที่มีหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินในเรื่องที่เกี่ยวกับรายจ่ายประจำปีของกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และรัฐวิสาหกิจ สำหรับสินทรัพย์ถาวรหลักที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งจำนวนเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการนี้ ไม่ว่าจ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ยืม เงินกำไรที่ได้สะสมไว้หรือเงินอื่นใดก็ตาม (5) ศึกษาและวิเคราะห์รายจ่ายที่จ่ายจริงสำหรับการสร้างและการบำรุงรักษาสินทรัพย์ถาวรหลักที่ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขรายจ่ายเหล่านั้นเท่าที่จำเป็น ให้เกิดประสิทธิภาพในการสร้างและการบำรุงรักษาสินทรัพย์ถาวรหลักนั้นๆ (6) ศึกษาและวิเคราะห์รายจ่ายที่จ่ายจริงสำหรับการจัดบริการทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขรายจ่ายเหล่านั้นเท่าที่จำเป็น (7) พิจารณาให้คำแนะนำและกำหนดหลักการให้กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และรัฐวิสาหกิจเพื่อจัดทำแผนงานและโครงการพัฒนาที่จะขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในทางวิชาการ การเงิน การกู้ยืม และการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (8) ติดตามและประเมินผลเกี่ยวกับผลงานตามโครงการพัฒนาของกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง หรือกรม และรัฐวิสาหกิจ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเร่งรัดปรับปรุง หรือเลิกล้มโครงการพัฒนาอันหนึ่งอันใดเมื่อเห็นสมควร (9) ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาและภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเพื่อเสนอนโยบายและมาตรการในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมระยะสั้น ในอันที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ (10) ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาและภาวะเศรษฐกิจและสังคมของต่างประเทศที่จะมีผลกระทบกระเทือนต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอและคำแนะนำต่างๆ (11) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ |
จะเห็นได้ว่า อำนาจหน้าที่ของ สศ. กับอำนาจหน้าที่ของ สศช. ค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก สภาพัฒน์ฯ โดยอำนาจหน้าที่ของ สศ. เน้นการสนับสนุนการดำเนินงานของ สป. แต่อำนาจหน้าที่ของสศช. ค่อนข้างจะมีเนื้อหาและขอบเขตงานที่กว้าง มีความสัมพันธ์กับทุกส่วนราชการที่มีการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการ และที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ และเน้นการศึกษาวิเคราะห์ทั้งในเชิงเศรษฐศาสตร์และสังคมที่นำเสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ที่มา
พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548
พระราชบัญญัติพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521.
พระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543.
ดูเพิ่มเติม
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : แนวคิด โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ การดำเนินงาน ปัญหา และแนวทางการพัฒนา. จุลนิติ ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 มี.ค. – เม.ย. 2548 หน้า 29 – 46.