ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พ.ศ. 2470"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 12: | บรรทัดที่ 12: | ||
== ประวัติความเป็นมา == | == ประวัติความเป็นมา == | ||
เหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 เนื่องในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต (กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร) เป็นเหรียญที่พระราชทานแก่ลูกเสือผู้มาสังเกตการณ์ มี 2 ชนิด คือ เหรียญเงินสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือผู้แทนมณฑล และเหรียญทองแดงสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือที่มาสังเกตการณ์ | เหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 เนื่องในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต (กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร) เป็นเหรียญที่พระราชทานแก่ลูกเสือผู้มาสังเกตการณ์ มี 2 ชนิด คือ เหรียญเงินสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือผู้แทนมณฑล และเหรียญทองแดงสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือที่มาสังเกตการณ์ | ||
พระราชพิธีฉัตรมงคลเป็นพระราชพิธีที่กำหนดให้มีขึ้น | |||
พระราชพิธีฉัตรมงคลเป็นพระราชพิธีที่กำหนดให้มีขึ้น โดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของ[[พระมหากษัตริย์]]แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในแต่ละรัชกาล ถือว่าเป็นวันมหามงคลสมัย การพระราชพิธีคือ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นการฉลองครบรอบปีที่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก เพื่อให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติด้วย ในโอกาสนี้ทรงบำเพ็ญ[[พระราชกุศลทักษิณานุปทาน]] เพื่อทรงอุทิศกุศลสนองพระเดชพระคุณให้เป็นการเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ และพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไปด้วย | |||
พระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ เดิมเป็นเพียงการสมโภชเครื่องราชูปโภคและเครื่องราชกกุธภัณฑ์อันเป็นส่วนของเจ้าพนักงานทำกันเอง กล่าวคือ เมื่อเปลี่ยนปีใหม่ถึงเดือนหก เจ้าพนักงานฝ่ายหน้าและฝ่ายในซึ่งมีหน้าที่รักษาเครื่องราชูปโภคและรักษาตำแหน่งหน้าที่ มีพระทวารและประตูวัง เป็นต้น ต้องทำการสมโภชเครื่องราชูปโภคและตำแหน่งที่ตนรักษาครั้งหนึ่ง | พระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ เดิมเป็นเพียงการสมโภชเครื่องราชูปโภคและเครื่องราชกกุธภัณฑ์อันเป็นส่วนของเจ้าพนักงานทำกันเอง กล่าวคือ เมื่อเปลี่ยนปีใหม่ถึงเดือนหก เจ้าพนักงานฝ่ายหน้าและฝ่ายในซึ่งมีหน้าที่รักษาเครื่องราชูปโภคและรักษาตำแหน่งหน้าที่ มีพระทวารและประตูวัง เป็นต้น ต้องทำการสมโภชเครื่องราชูปโภคและตำแหน่งที่ตนรักษาครั้งหนึ่ง | ||
ครั้นมาในแผ่นดิน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ซึ่งเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกในวันพฤหัสบดี เดือน 6 ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุน ตรีศก จุลศักราช 1213 ( พ.ศ. 2394 ) ตรงกับเวลาที่เจ้าพนักงานเคยสมโภชเครื่องสิริราชูปโภคแต่เดิมมา ทรงพระราชดำริว่า วันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้นเป็นวันมงคล ซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินปกครองย่อมถือเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคล และจัดให้มีการฉลองขึ้นให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ แต่เมืองไทยยังหาได้มีการสมโภชหรือได้ฉลองอันใดขึ้นไม่ จึงทรงพระราชดำริให้บำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2395 พระราชทานชื่อว่า “พระราชพิธีฉัตรมงคล”<ref>สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่มที่ 9, (ปราณบุรี : โรงพิมพ์ศูนย์กลางทหารราบ, 2516-2517).</ref> | |||
เมื่อรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 การพระราชพิธีฉัตรมงคลจึงกำหนดขึ้นโดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระองค์เป็นวันมงคลสมัย | เมื่อรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 การพระราชพิธีฉัตรมงคลจึงกำหนดขึ้นโดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระองค์เป็นวันมงคลสมัย | ||
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล | วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วย[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี]] พระบรมราชินี เสด็จเปิดการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ณ พระราชอุทยานวังสราญรมย์ ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม พ.ศ. 2470 มีผู้แทนลูกเสือมาร่วมชุมนุม 14 มณฑลๆ ละ 23 คน รวม 322 คน และมีลูกเสือประเภทผู้สังเกตการณ์จำนวน 1,114 คน รวมลูกเสือที่เข้าชุมนุม 1,836 คน<ref>สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, จดหมายเหตุพระราชกิจรายวัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ภาคต้น วันที่ 26 พฤศจิกายน 2468 ถึง 31 ธันวาคม 2471.</ref> | ||
การชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งนี้ | การชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพระราชดำริของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระผู้พระราชทานกำเนิด[[ลูกเสือสยาม]] โดยมีพระราชดำริให้มีการชุมนุมลูกเสือครั้งแรกในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ที่สวนลุมพินีใน พ.ศ. 2468 แต่พระองค์สวรรคตเสียก่อน | ||
==อ้างอิง== | ==อ้างอิง== | ||
<references/> | <references/> | ||
[[หมวดหมู่:วัตถุชิ้นเอก|หหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พ.ศ. 2470]] | [[หมวดหมู่:วัตถุชิ้นเอก|หหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ เนื่องในการพระราชพิธีฉัตรมงคล พ.ศ. 2470]] | ||
[[หมวดหมู่:พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว|ห]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:44, 6 ตุลาคม 2554
ผู้เรียบเรียง พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลักษณะ
ทองแดง
เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 เซนติเมตร
เป็นเหรียญกลม แบน มีห่วงด้านบน ตรงกลางเหรียญมีอักษรเป็นพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร.(ย่อมาจาก ประชาธิปก ปรมราชาธิราช หรือประชาธิปก บรมราชาธิราช) ขอบเหรียญด้านบนเขียนข้อความ การชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ขอบเหรียญด้านล่างเขียนข้อความ เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล ๒๔๗๐
ประวัติความเป็นมา
เหรียญที่ระลึกการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 เนื่องในงานพระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ ออกแบบโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต (กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร) เป็นเหรียญที่พระราชทานแก่ลูกเสือผู้มาสังเกตการณ์ มี 2 ชนิด คือ เหรียญเงินสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือผู้แทนมณฑล และเหรียญทองแดงสำหรับพระราชทานแก่ลูกเสือที่มาสังเกตการณ์
พระราชพิธีฉัตรมงคลเป็นพระราชพิธีที่กำหนดให้มีขึ้น โดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในแต่ละรัชกาล ถือว่าเป็นวันมหามงคลสมัย การพระราชพิธีคือ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นการฉลองครบรอบปีที่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษก เพื่อให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติด้วย ในโอกาสนี้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เพื่อทรงอุทิศกุศลสนองพระเดชพระคุณให้เป็นการเชิดชูพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ และพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยโดยทั่วไปด้วย
พระราชพิธีฉัตรมงคลนี้ เดิมเป็นเพียงการสมโภชเครื่องราชูปโภคและเครื่องราชกกุธภัณฑ์อันเป็นส่วนของเจ้าพนักงานทำกันเอง กล่าวคือ เมื่อเปลี่ยนปีใหม่ถึงเดือนหก เจ้าพนักงานฝ่ายหน้าและฝ่ายในซึ่งมีหน้าที่รักษาเครื่องราชูปโภคและรักษาตำแหน่งหน้าที่ มีพระทวารและประตูวัง เป็นต้น ต้องทำการสมโภชเครื่องราชูปโภคและตำแหน่งที่ตนรักษาครั้งหนึ่ง
ครั้นมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกในวันพฤหัสบดี เดือน 6 ขึ้น 15 ค่ำ ปีกุน ตรีศก จุลศักราช 1213 ( พ.ศ. 2394 ) ตรงกับเวลาที่เจ้าพนักงานเคยสมโภชเครื่องสิริราชูปโภคแต่เดิมมา ทรงพระราชดำริว่า วันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกนั้นเป็นวันมงคล ซึ่งประเทศทั้งปวงที่มีพระเจ้าแผ่นดินปกครองย่อมถือเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคล และจัดให้มีการฉลองขึ้นให้เป็นสวัสดิมงคลแก่ราชสมบัติ แต่เมืองไทยยังหาได้มีการสมโภชหรือได้ฉลองอันใดขึ้นไม่ จึงทรงพระราชดำริให้บำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2395 พระราชทานชื่อว่า “พระราชพิธีฉัตรมงคล”[1]
เมื่อรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 การพระราชพิธีฉัตรมงคลจึงกำหนดขึ้นโดยถือวันครบรอบปีแห่งการเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติของพระองค์เป็นวันมงคลสมัย
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จเปิดการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ณ พระราชอุทยานวังสราญรมย์ ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม พ.ศ. 2470 มีผู้แทนลูกเสือมาร่วมชุมนุม 14 มณฑลๆ ละ 23 คน รวม 322 คน และมีลูกเสือประเภทผู้สังเกตการณ์จำนวน 1,114 คน รวมลูกเสือที่เข้าชุมนุม 1,836 คน[2]
การชุมนุมลูกเสือแห่งชาติครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือสยาม โดยมีพระราชดำริให้มีการชุมนุมลูกเสือครั้งแรกในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ที่สวนลุมพินีใน พ.ศ. 2468 แต่พระองค์สวรรคตเสียก่อน