ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 10: บรรทัดที่ 10:
== ความเป็นมาของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==
== ความเป็นมาของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==


สภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC) เป็นองค์กรระดับชาติที่เกิดจากกลุ่มความร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง ตลอดจนชาติและวิชาชีพต่างๆ ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่สำคัญในการพัฒนาระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบสังคมนิยมรูปแบบหนึ่งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองก่อตั้งขึ้นครั้งแรก ก่อนวันสถาปนาประเทศสาธารณรัฐ
สภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC) เป็นองค์กรระดับชาติที่เกิดจากกลุ่มความร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง ตลอดจนชาติและวิชาชีพต่างๆ ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่สำคัญในการพัฒนาระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบสังคมนิยมรูปแบบหนึ่ง
 
ประชาชนจีนใหม่ โดยระหว่างวันที่ 21 - 30 กันยายน 1949 ได้มีการจัดการประชุมเต็มคณะครั้งแรก การประชุมครั้งนั้น จัดขึ้นแทนอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนประชาชนจีน และเป็นตัวแทนของความมุ่งหมายแห่งประชาชน ในการประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีมติผ่านข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ พร้อมนี้ได้ประกาศให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวง และกำหนดให้ธงดาวแดงเป็นธงชาติ และให้เพลงมาร์ช “กองกำลังทหารอาสา” เป็นเพลงชาติ รวมถึงกำหนดรูปแบบการบันทึกปีศักราช ตามลำดับปีของคริสศักราช และยังได้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองทั่วประเทศในเขตที่สำคัญ และในเมืองที่เป็นศูนย์กลางชนชาติส่วนน้อย  
สภาที่ปรึกษาทางการเมืองก่อตั้งขึ้นครั้งแรก ก่อนวันสถาปนาประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีนใหม่ โดยระหว่างวันที่ 21 - 30 กันยายน 1949 ได้มีการจัดการประชุมเต็มคณะครั้งแรก การประชุมครั้งนั้น จัดขึ้นแทนอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนประชาชนจีน และเป็นตัวแทนของความมุ่งหมายแห่งประชาชน ในการประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีมติผ่านข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ พร้อมนี้ได้ประกาศให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวง และกำหนดให้ธงดาวแดงเป็นธงชาติ และให้เพลงมาร์ช “กองกำลังทหารอาสา” เป็นเพลงชาติ รวมถึงกำหนดรูปแบบการบันทึกปีศักราช ตามลำดับปีของคริสศักราช และยังได้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองทั่วประเทศในเขตที่สำคัญ และในเมืองที่เป็นศูนย์กลางชนชาติส่วนน้อย 5 ปีแรกหลังก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนใหม่ สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจประชาชาติ ปฏิรูปสังคม ประสานแนวรบ ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นปึกแผ่นและสามัคคีระหว่างชนชาติต่างๆ ในประเทศ
 
5 ปีแรกหลังก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนใหม่ สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจประชาชาติ ปฏิรูปสังคม ประสานแนวรบ ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็น
ปึกแผ่นและสามัคคีระหว่างชนชาติต่างๆ ในประเทศ
 
<center>[[ไฟล์:การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน.jpg]]</center>
<center>[[ไฟล์:การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน.jpg]]</center>
<center>'''การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC)'''</center>
<center>'''การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC)'''</center>
ภายหลังการกำหนด “ระเบียบข้อบังคับของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง” ในปี ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา หน่วยจัดตั้งของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ได้เกิดขึ้น จาก 100 เป็น 1,000 กว่าแห่ง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1982 ที่มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับสภาฯใหม่ ทั่วประเทศมีหน่วยจัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองรวมกว่า 3,000 แห่ง มีสมาชิกในระดับต่างๆ กว่า 500,000 คน <ref>http://www.china.com.cn/english/chuangye/55437.htm, กันยายน 2553.</ref> ในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสภาที่ปรึกษาฯ มีคณะกรรมการกลางมาทั้งสิ้น 9 ชุด โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกลางของสภาฯ เรียงลำดับดังนี้ เหมาเจ๋อตง โจวเอินไหล (3 สมัย) เติ้งเสี่ยวผิง เติ้งอิ่งเชา (หญิง) หลี่เซียนเนี่ยน หลี่รุ่ยหวน (2 สมัย) ชุดปัจจุบัน (มีนาคม 2008 – ปัจจุบัน) เป็นชุดที่ 11 มี เจี่ยชิ่งหลิน (Mr. Jia Qinglin) เป็นประธานสภาฯ (2 สมัย) ทั้งนี้ คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี <ref>http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_People's_Political_Consultative_Conference, กันยายน 2553.</ref>
ภายหลังการกำหนด “ระเบียบข้อบังคับของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง” ในปี ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา หน่วยจัดตั้งของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ได้เกิดขึ้น จาก 100 เป็น 1,000 กว่าแห่ง  
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1982 ที่มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับสภาฯใหม่ ทั่วประเทศมีหน่วยจัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองรวมกว่า 3,000 แห่ง มีสมาชิกในระดับต่างๆ กว่า 500,000 คน <ref>http://www.china.com.cn/english/chuangye/55437.htm, กันยายน 2553.</ref>
 
ในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสภาที่ปรึกษาฯ มีคณะกรรมการกลางมาทั้งสิ้น 9 ชุด โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกลางของสภาฯ เรียงลำดับดังนี้ เหมาเจ๋อตง โจวเอินไหล
(3 สมัย) เติ้งเสี่ยวผิง เติ้งอิ่งเชา (หญิง) หลี่เซียนเนี่ยน หลี่รุ่ยหวน (2 สมัย) ชุดปัจจุบัน (มีนาคม 2008 – ปัจจุบัน) เป็นชุดที่ 11 มี เจี่ยชิ่งหลิน (Mr. Jia Qinglin) เป็นประธานสภาฯ (2 สมัย) ทั้งนี้ คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี<ref>http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_People's_Political_Consultative_Conference, กันยายน 2553.</ref>


<center>[[ไฟล์:คณะสภาที่ปรึกษาฯ_ไทยเข้าร่วมประชุมหารือกับ_Mr._Jia_Qinglin,_ประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมือง.jpg]]</center>
<center>[[ไฟล์:คณะสภาที่ปรึกษาฯ_ไทยเข้าร่วมประชุมหารือกับ_Mr._Jia_Qinglin,_ประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมือง.jpg]]</center>
บรรทัดที่ 26: บรรทัดที่ 32:
== องค์ประกอบของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==
== องค์ประกอบของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==


สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้จัดตั้งคณะกรรมการ 2 ระดับ คือ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ และคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ประจำท้องถิ่น
สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้จัดตั้งคณะกรรมการ 2 ระดับ คือ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ และคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ประจำท้องถิ่น
 
คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ ประกอบด้วย คณะบุคคลจากพรรคการเมืองและกลุ่มต่างๆ ดังนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย คณะบุคคลที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง กลุ่มสมาคมฝ่ายมวลชน ผู้แทนจากชนส่วนน้อยเชื้อสายต่างๆ รวมทั้ง ตัวแทนจากไต้หวัน ฮ่องกง และชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้รับเชิญมาเป็นกรณีพิเศษ
คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ ประกอบด้วย คณะบุคคลจากพรรคการเมืองและกลุ่มต่างๆ ดังนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย คณะบุคคลที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง กลุ่มสมาคมฝ่ายมวลชน ผู้แทนจากชนส่วนน้อยเชื้อสายต่างๆ รวมทั้ง ตัวแทนจากไต้หวัน ฮ่องกง และชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้รับเชิญมาเป็นกรณีพิเศษ
บรรทัดที่ 35: บรรทัดที่ 41:
ในแต่ละปี คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ระดับชาติ จะมีการจัดประชุมเต็มคณะ 1 ครั้ง ยกเว้นที่มีกรณีพิเศษที่คณะกรรมการฯ มีความเห็นพ้องกันว่าจำเป็น จึงจะจัดประชุมวิสามัญขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ จะจัดตั้งคณะกรรมการประจำขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อบริหารงาน
ในแต่ละปี คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ระดับชาติ จะมีการจัดประชุมเต็มคณะ 1 ครั้ง ยกเว้นที่มีกรณีพิเศษที่คณะกรรมการฯ มีความเห็นพ้องกันว่าจำเป็น จึงจะจัดประชุมวิสามัญขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ จะจัดตั้งคณะกรรมการประจำขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อบริหารงาน
 
คณะกรรมการประจำประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขาธิการ และกรรมการประจำ โดยผู้สมัครที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้างต้น มาจากการเสนอชื่อของคณะผู้แทนพรรคการเมือง สมาคม ชนส่วนน้อยกลุ่มต่างๆ และตัวแทนคณะบุคคลต่างๆ และผ่านการคัดสรรจากที่ประชุม คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติเต็มคณะ ในลำดับสุดท้าย<ref> รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.</ref>
คณะกรรมการประจำประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขาธิการ และกรรมการประจำ โดยผู้สมัครที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้างต้น มาจากการเสนอชื่อของคณะผู้แทนพรรคการเมือง สมาคม ชนส่วนน้อยกลุ่มต่างๆ และตัวแทนคณะบุคคลต่างๆ และผ่านการคัดสรรจากที่ประชุม คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติเต็มคณะ ในลำดับสุดท้าย<ref> รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.</ref>
    
    
== บทบาททางการเมืองการปกครองของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==
== บทบาททางการเมืองการปกครองของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน ==


ภาระหน้าที่ที่สำคัญของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ มี 3 ด้านคือ เป็นที่ปรึกษาทางการเมือง ควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย และเข้าร่วมในกิจกรรมด้านการเมืองในขอบข่ายของพรรคการเมือง สมาคมและกลุ่มชนส่วนน้อยต่างๆ
ภาระหน้าที่ที่สำคัญของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ มี 3 ด้านคือ เป็นที่ปรึกษาทางการเมือง ควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย และเข้าร่วมในกิจกรรมด้านการเมือง
ในขอบข่ายของพรรคการเมือง สมาคมและกลุ่มชนส่วนน้อยต่างๆ
หน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเมือง หมายถึง ให้คำปรึกษาในนโยบายหลักๆ ก่อนและระหว่างการกำหนดหรือวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารงาน ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาเกี่ยวข้องกับปัญหาสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งนี้ มีกลุ่มตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำของสภา ผู้แทนประชาชนแห่งชาติ รัฐบาลประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และกลุ่มมวลชนต่างๆ จะร่วมกันเสนอให้สภาที่ปรึกษาฯจัดตั้งคณะทำงานจากตัวแทนต่างๆ ดำเนินการประชุมหารือพร้อมทั้งเสนอแนะความคิดเห็น ต่อกรณีปัญหาสำคัญของประเทศ
'''หน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเมือง''' หมายถึง ให้คำปรึกษาในนโยบายหลักๆ ก่อนและระหว่างการกำหนดหรือวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารงาน ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาเกี่ยวข้องกับปัญหาสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งนี้ มีกลุ่มตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำของสภา ผู้แทนประชาชนแห่งชาติ รัฐบาลประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และกลุ่มมวลชนต่างๆ จะร่วมกันเสนอให้สภาที่ปรึกษาฯจัดตั้งคณะทำงานจากตัวแทนต่างๆ ดำเนินการประชุมหารือพร้อมทั้งเสนอแนะความคิดเห็น ต่อกรณีปัญหาสำคัญของประเทศ
 
หน้าที่ในการควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย หมายถึง ควบคุมตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานทางการเมือง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งชาติจีน และสอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ตรวจสอบควบคุมนโยบายชี้นำที่กำหนดโดยผู้นำประเทศและโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน นอกจากนี้ ยังควบคุมดูแลการดำเนินนโยบายให้เป็นผลจนถึงที่สุด อีกทั้งควบคุมตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บริหารประเทศ หน่วยงานของรัฐ ให้อยู่ในหน้าที่โดยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเคารพกฎเกณฑ์ของหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ สภาที่ปรึกษาฯ อาศัยการวิพากษ์วิจารณ์และการเสนอแนะความคิดเห็น เป็นหนทางในการควบคุมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานทางการเมืองเหล่านี้
'''หน้าที่ในการควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย''' หมายถึง ควบคุมตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานทางการเมือง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งชาติจีน และสอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ตรวจสอบควบคุมนโยบายชี้นำที่กำหนดโดยผู้นำประเทศและโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน นอกจากนี้ ยังควบคุมดูแลการดำเนินนโยบายให้เป็นผลจนถึงที่สุด อีกทั้งควบคุมตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บริหารประเทศ หน่วยงานของรัฐ ให้อยู่ในหน้าที่โดย
 
ความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเคารพกฎเกณฑ์ของหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ สภาที่ปรึกษาฯ อาศัยการวิพากษ์วิจารณ์และการเสนอแนะความคิดเห็น เป็นหนทางในการควบคุมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานทางการเมืองเหล่านี้
หน้าที่ในการเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง อาทิ จุดประกายความคิดเห็นและความสนใจของมวลชน และเจ้าหน้าที่ทำงานของรัฐและพรรคฯ ในประเด็นทางการเมือง ด้วยการทำการสำรวจหรือศึกษาวิจัยว่าด้วยประเด็นปัญหาที่สำคัญ และริเริ่มเสนอแนะความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ต่อรัฐบาล ผู้นำประเทศ และต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน
'''หน้าที่ในการเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง''' อาทิ จุดประกายความคิดเห็นและความสนใจของมวลชน และเจ้าหน้าที่ทำงานของรัฐและพรรคฯ ในประเด็นทางการเมือง ด้วยการทำการสำรวจหรือศึกษาวิจัยว่าด้วยประเด็นปัญหาที่สำคัญ และริเริ่มเสนอแนะความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ต่อรัฐบาล ผู้นำประเทศ และต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน


== ที่มา ==
== ที่มา ==


สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศ
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. '''รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.'''


สัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.


== ดูเพิ่มเติม ==
== ดูเพิ่มเติม ==
บรรทัดที่ 66: บรรทัดที่ 73:


[[หมวดหมู่:จีน]]
[[หมวดหมู่:จีน]]
[[หมวดหมู่:วัชรา ไชยสาร]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:07, 5 ตุลาคม 2554

ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ


สภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC)

ความเป็นมาของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน

สภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC) เป็นองค์กรระดับชาติที่เกิดจากกลุ่มความร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง ตลอดจนชาติและวิชาชีพต่างๆ ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่สำคัญในการพัฒนาระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบสังคมนิยมรูปแบบหนึ่งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองก่อตั้งขึ้นครั้งแรก ก่อนวันสถาปนาประเทศสาธารณรัฐ

ประชาชนจีนใหม่ โดยระหว่างวันที่ 21 - 30 กันยายน 1949 ได้มีการจัดการประชุมเต็มคณะครั้งแรก การประชุมครั้งนั้น จัดขึ้นแทนอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนประชาชนจีน และเป็นตัวแทนของความมุ่งหมายแห่งประชาชน ในการประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีมติผ่านข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ พร้อมนี้ได้ประกาศให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวง และกำหนดให้ธงดาวแดงเป็นธงชาติ และให้เพลงมาร์ช “กองกำลังทหารอาสา” เป็นเพลงชาติ รวมถึงกำหนดรูปแบบการบันทึกปีศักราช ตามลำดับปีของคริสศักราช และยังได้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองทั่วประเทศในเขตที่สำคัญ และในเมืองที่เป็นศูนย์กลางชนชาติส่วนน้อย

5 ปีแรกหลังก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนใหม่ สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจประชาชาติ ปฏิรูปสังคม ประสานแนวรบ ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็น ปึกแผ่นและสามัคคีระหว่างชนชาติต่างๆ ในประเทศ

การประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC)

ภายหลังการกำหนด “ระเบียบข้อบังคับของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง” ในปี ค.ศ. 1954 เป็นต้นมา หน่วยจัดตั้งของสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ได้เกิดขึ้น จาก 100 เป็น 1,000 กว่าแห่ง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1982 ที่มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับสภาฯใหม่ ทั่วประเทศมีหน่วยจัดตั้งสภาที่ปรึกษาทางการเมืองรวมกว่า 3,000 แห่ง มีสมาชิกในระดับต่างๆ กว่า 500,000 คน [1]

ในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสภาที่ปรึกษาฯ มีคณะกรรมการกลางมาทั้งสิ้น 9 ชุด โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกลางของสภาฯ เรียงลำดับดังนี้ เหมาเจ๋อตง โจวเอินไหล (3 สมัย) เติ้งเสี่ยวผิง เติ้งอิ่งเชา (หญิง) หลี่เซียนเนี่ยน หลี่รุ่ยหวน (2 สมัย) ชุดปัจจุบัน (มีนาคม 2008 – ปัจจุบัน) เป็นชุดที่ 11 มี เจี่ยชิ่งหลิน (Mr. Jia Qinglin) เป็นประธานสภาฯ (2 สมัย) ทั้งนี้ คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี[2]

คณะสภาที่ปรึกษาฯ ไทยเข้าร่วมประชุมหารือกับ Mr. Jia Qinglin, ประธานสภาที่ปรึกษาทางการเมือง
(Chinese People's Political Consultative Conference : CPPCC) กรุงปักกิ่ง

องค์ประกอบของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน

สภาที่ปรึกษาทางการเมืองได้จัดตั้งคณะกรรมการ 2 ระดับ คือ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ และคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ประจำท้องถิ่น

คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ระดับชาติ ประกอบด้วย คณะบุคคลจากพรรคการเมืองและกลุ่มต่างๆ ดังนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย คณะบุคคลที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง กลุ่มสมาคมฝ่ายมวลชน ผู้แทนจากชนส่วนน้อยเชื้อสายต่างๆ รวมทั้ง ตัวแทนจากไต้หวัน ฮ่องกง และชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้รับเชิญมาเป็นกรณีพิเศษ

ในส่วนของคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ ประจำท้องถิ่น จะจัดตั้งขึ้นตามแต่สภาพการณ์ของแต่ละท้องถิ่น และทำการสรรหาคณะบุคคลมาร่วมงานตามแบบการจัดตั้งของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติ

การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญในสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน อาทิ ประธาน รองประธาน และเลขาธิการ จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติ

ในแต่ละปี คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมือง ระดับชาติ จะมีการจัดประชุมเต็มคณะ 1 ครั้ง ยกเว้นที่มีกรณีพิเศษที่คณะกรรมการฯ มีความเห็นพ้องกันว่าจำเป็น จึงจะจัดประชุมวิสามัญขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาฯ จะจัดตั้งคณะกรรมการประจำขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อบริหารงาน

คณะกรรมการประจำประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขาธิการ และกรรมการประจำ โดยผู้สมัครที่จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวข้างต้น มาจากการเสนอชื่อของคณะผู้แทนพรรคการเมือง สมาคม ชนส่วนน้อยกลุ่มต่างๆ และตัวแทนคณะบุคคลต่างๆ และผ่านการคัดสรรจากที่ประชุม คณะกรรมการสภาที่ปรึกษาทางการเมืองระดับชาติเต็มคณะ ในลำดับสุดท้าย[3]

บทบาททางการเมืองการปกครองของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน

ภาระหน้าที่ที่สำคัญของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ มี 3 ด้านคือ เป็นที่ปรึกษาทางการเมือง ควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย และเข้าร่วมในกิจกรรมด้านการเมือง ในขอบข่ายของพรรคการเมือง สมาคมและกลุ่มชนส่วนน้อยต่างๆ

หน้าที่ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเมือง หมายถึง ให้คำปรึกษาในนโยบายหลักๆ ก่อนและระหว่างการกำหนดหรือวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารงาน ทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาเกี่ยวข้องกับปัญหาสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง ทั้งนี้ มีกลุ่มตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน คณะกรรมการประจำของสภา ผู้แทนประชาชนแห่งชาติ รัฐบาลประชาชน พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และกลุ่มมวลชนต่างๆ จะร่วมกันเสนอให้สภาที่ปรึกษาฯจัดตั้งคณะทำงานจากตัวแทนต่างๆ ดำเนินการประชุมหารือพร้อมทั้งเสนอแนะความคิดเห็น ต่อกรณีปัญหาสำคัญของประเทศ

หน้าที่ในการควบคุมดูแลตามหลักการประชาธิปไตย หมายถึง ควบคุมตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานทางการเมือง ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งชาติจีน และสอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ตรวจสอบควบคุมนโยบายชี้นำที่กำหนดโดยผู้นำประเทศและโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน นอกจากนี้ ยังควบคุมดูแลการดำเนินนโยบายให้เป็นผลจนถึงที่สุด อีกทั้งควบคุมตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่บริหารประเทศ หน่วยงานของรัฐ ให้อยู่ในหน้าที่โดย ความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเคารพกฎเกณฑ์ของหน่วยงานด้วย ทั้งนี้ สภาที่ปรึกษาฯ อาศัยการวิพากษ์วิจารณ์และการเสนอแนะความคิดเห็น เป็นหนทางในการควบคุมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานทางการเมืองเหล่านี้

หน้าที่ในการเข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง อาทิ จุดประกายความคิดเห็นและความสนใจของมวลชน และเจ้าหน้าที่ทำงานของรัฐและพรรคฯ ในประเด็นทางการเมือง ด้วยการทำการสำรวจหรือศึกษาวิจัยว่าด้วยประเด็นปัญหาที่สำคัญ และริเริ่มเสนอแนะความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ต่อรัฐบาล ผู้นำประเทศ และต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ที่มา

สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.


ดูเพิ่มเติม

http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_People's_Political_Consultative_Conference, กันยายน 2553.

http://www.china.com.cn/english/chuangye/55437.htm, กันยายน 2553.

http://www.nesac.go.th/China/

อ้างอิง

  1. http://www.china.com.cn/english/chuangye/55437.htm, กันยายน 2553.
  2. http://en.wikipedia.org/wiki/Chinese_People's_Political_Consultative_Conference, กันยายน 2553.
  3. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน เพื่อเชื่อมสัมพันธภาพกับสภาที่ปรึกษาประชาชนแห่งชาติของจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 2549.