ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสด็จฯ เยือน ชวา บาหลี 1"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
เมื่อ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]] เสด็จพระราชดำเนินจากสิงคโปร์ไปถึงเกาะชวา ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย [[ผู้สำเร็จราชการ]]ของฮอลันดา เจ้าอาณานิคมที่ปกครองอยู่ในตอนนั้นรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติองค์พระประมุขของประเทศเอกราช ระหว่างการเสด็จเยือนชวาและบาหลีเป็นระยะเวลา ๒ เดือนนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ ตลอดจนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชวาอย่างรอบด้าน เสด็จเยือนโบราณสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ ดังที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ส่วนพระองค์ เช่น ที่ราบสูงเดียง เมืองโวโนโซโบ ซึ่งมีภูมิประเทศและทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งยังมีศาสนสถานที่สำคัญ คือ จันทิอรชุนแห่งนี้ | |||
จันทิอรชุน สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ ๗ และ ๘ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในชวาตอนกลาง ตั้งอยู่บนความสูง ๑,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณโดยรอบมีหมอกควัน กลิ่นก๊าซกำมะถันจากภูเขาไฟ ทะเลสาบสีเขียวมรกตสะท้อนความคิดของชาวชวาโบราณในการสร้างเทวสถานสำหรับพระผู้เป็นเจ้า | จันทิอรชุน สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ ๗ และ ๘ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในชวาตอนกลาง ตั้งอยู่บนความสูง ๑,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณโดยรอบมีหมอกควัน กลิ่นก๊าซกำมะถันจากภูเขาไฟ ทะเลสาบสีเขียวมรกตสะท้อนความคิดของชาวชวาโบราณในการสร้างเทวสถานสำหรับพระผู้เป็นเจ้า |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:23, 10 กุมภาพันธ์ 2559
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินจากสิงคโปร์ไปถึงเกาะชวา ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย ผู้สำเร็จราชการของฮอลันดา เจ้าอาณานิคมที่ปกครองอยู่ในตอนนั้นรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติองค์พระประมุขของประเทศเอกราช ระหว่างการเสด็จเยือนชวาและบาหลีเป็นระยะเวลา ๒ เดือนนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ ตลอดจนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชวาอย่างรอบด้าน เสด็จเยือนโบราณสถานที่สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์ ดังที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ส่วนพระองค์ เช่น ที่ราบสูงเดียง เมืองโวโนโซโบ ซึ่งมีภูมิประเทศและทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งยังมีศาสนสถานที่สำคัญ คือ จันทิอรชุนแห่งนี้
จันทิอรชุน สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ ๗ และ ๘ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในชวาตอนกลาง ตั้งอยู่บนความสูง ๑,๐๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณโดยรอบมีหมอกควัน กลิ่นก๊าซกำมะถันจากภูเขาไฟ ทะเลสาบสีเขียวมรกตสะท้อนความคิดของชาวชวาโบราณในการสร้างเทวสถานสำหรับพระผู้เป็นเจ้า
นอกจากนี้ยังเสด็จเยือนโบราณสถานสำคัญอื่นๆ อีก โดยเฉพาะที่เมืองยอกยาการ์ตา มีศาสนสถานที่คล้ายคลึงกันหลายแห่ง เช่น จันทิเปลาซาน จันทิกาลาซาน และจันทิบรัมมานัน จันทิบรัมบานันนี้ ประกอบด้วยเทวาลัยขนาดใหญ่ ๓ หลังด้วยกัน คือ องค์ประธานหลังกลางที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นถวายพระศิวะ ส่วนอีก ๒ หลังที่เล็กลงมา ทางทิศเหนือสร้างถวายพระวิษณุ ทางทิศใต้สร้างถวายพระพรหมมีเทวาลัยขนาดเล็กรายรอบอีกร่วม ๒๕๐ ปัจจุบันจันทิบรัมมานัน เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย สะท้อนให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเคยมีผู้คนศรัทธาในศาสนาฮินดูเป็นอย่างมาก ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะแผ่มาถึง จนผู้คนแถบนี้นับถือศาสนาอิสลามกันโดยมาก
ที่มา
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖