ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พิพิธภัณฑ์สถานสำหรับพระนคร"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
ที่นี่คือ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่พระที่นั่งสำคัญในอดีต  ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถาน หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในปัจจุบัน และเป็นที่รวบรวมเก็บรักษาโบราณและศิลปวัตถุต่าง ๆสำหรับประชาชนในการศึกษาหาความรู้ อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร ปี ๒๔๖๙ เพื่อให้มีการพิทักษ์รักษาโบราณวัตถุและสิ่งของให้มั่นคงด้วยการวางระเบียบการบำรุงพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครให้เจริญก้าวหน้าต่อไปด้วย
ที่นี่คือ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่พระที่นั่งสำคัญในอดีต  ในรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ได้พระราชทานสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถาน หรือ [[พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร]]ในปัจจุบัน และเป็นที่รวบรวมเก็บรักษาโบราณและศิลปวัตถุต่าง ๆสำหรับประชาชนในการศึกษาหาความรู้ อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร ปี ๒๔๖๙ เพื่อให้มีการพิทักษ์รักษาโบราณวัตถุและสิ่งของให้มั่นคงด้วยการวางระเบียบการบำรุงพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครให้เจริญก้าวหน้าต่อไปด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวยังได้ออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งโบราณวัตถุและศิลปวัตถุออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบนำโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอันเป็นหลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของชาติออกนอกประเทศ โดยกำหนดให้ผู้จะนำออกต้องได้รับอนุมัติจากราชบัณฑิตยสภาก่อน
นอกจากนี้ [[รัฐบาล]]ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวยังได้ออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งโบราณวัตถุและศิลปวัตถุออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบนำโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอันเป็นหลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของชาติออกนอกประเทศ โดยกำหนดให้ผู้จะนำออกต้องได้รับอนุมัติจากราชบัณฑิตยสภาก่อน
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด "พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร"  ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๙ ในช่วงการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของศกนั้น  
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด "พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร"  ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๙ ในช่วงการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของศกนั้น  

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:09, 22 มกราคม 2559

ที่นี่คือ พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า ซึ่งประกอบไปด้วยหมู่พระที่นั่งสำคัญในอดีต ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถาน หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในปัจจุบัน และเป็นที่รวบรวมเก็บรักษาโบราณและศิลปวัตถุต่าง ๆสำหรับประชาชนในการศึกษาหาความรู้ อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร ปี ๒๔๖๙ เพื่อให้มีการพิทักษ์รักษาโบราณวัตถุและสิ่งของให้มั่นคงด้วยการวางระเบียบการบำรุงพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครให้เจริญก้าวหน้าต่อไปด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวยังได้ออกพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งโบราณวัตถุและศิลปวัตถุออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบนำโบราณวัตถุและศิลปวัตถุอันเป็นหลักฐานที่สำคัญทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ของชาติออกนอกประเทศ โดยกำหนดให้ผู้จะนำออกต้องได้รับอนุมัติจากราชบัณฑิตยสภาก่อน

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด "พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร" ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๙ ในช่วงการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของศกนั้น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสำหรับพระนครในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย โดยทางพิพิธภัณฑสถานฯ ได้จัดแสดงโบราณวัตถุ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในประเทศไทยซึ่งจัดแสดงตามแต่ละยุคสมัยพร้อมทั้งประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา

อาจกล่าวได้ว่าที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงส่งเสริมการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครในอดีตนั้นก็เพื่อให้ประชาชนได้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์และหวงแหนศิลปะ โบราณสถานและโบราณวัตถุของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืนนั่นเอง

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖