ผลต่างระหว่างรุ่นของ "1 มกราคม พ.ศ. 2504"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุต...' |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2504 ได้มีการประกาศใช้[[แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติแผนแรก]]ในประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้เป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวของประเทศที่เป็นแผน 6 ปี จาก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2509 โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง เป็นเวลาช่วงละ 3 ปี คือ ช่วงแรก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2506 และช่วงที่ 2 จาก พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2509 และเป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวที่มีชื่อเพียงแค่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แผนฉบับต่อมามีชื่อขยายเพิ่มเรียกว่า[[แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ]] | วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2504 ได้มีการประกาศใช้[[แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติแผนแรก]]ในประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้เป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวของประเทศที่เป็นแผน 6 ปี จาก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2509 โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง เป็นเวลาช่วงละ 3 ปี คือ ช่วงแรก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2506 และช่วงที่ 2 จาก พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2509 และเป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวที่มีชื่อเพียงแค่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แผนฉบับต่อมามีชื่อขยายเพิ่มเรียกว่า[[แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ]] | ||
ในปี พ.ศ. 2504 เมื่อแรกประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับแรกนี้ [[นายกรัฐมนตรี]]คือ [[จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์]] ซึ่งเป็นผู้นำคณะทหารที่ปกครองประเทศไทยโดยมีฐานทางกองทัพสนับสนุน เป็นเวลาที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะทหารปิดกั้นทางการเมือง ปกครองประเทศโดยอาศัยธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรที่มีอยู่เพียง 20 มาตราเป็นกติกาในการปกครอง และธรรมนูญฉบับนี้ก็มีมาตรา 17 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการสั่งการต่าง ๆ ได้รวมทั้งสั่งประหารชีวิตผู้ต้องหา | ในปี พ.ศ. 2504 เมื่อแรกประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับแรกนี้ [[นายกรัฐมนตรี]]คือ [[สฤษดิ์ ธนะรัชต์|จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์]] ซึ่งเป็นผู้นำคณะทหารที่ปกครองประเทศไทยโดยมีฐานทางกองทัพสนับสนุน เป็นเวลาที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะทหารปิดกั้นทางการเมือง ปกครองประเทศโดยอาศัยธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรที่มีอยู่เพียง 20 มาตราเป็นกติกาในการปกครอง และธรรมนูญฉบับนี้ก็มีมาตรา 17 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการสั่งการต่าง ๆ ได้รวมทั้งสั่งประหารชีวิตผู้ต้องหา | ||
อันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมนี้ทุกประเทศไม่ได้มีใช้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทุนนิยมสำคัญ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักรก็ไม่มีกำหนดแผนกลางของประเทศอย่างนี้ เพราะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นแผนกลางอย่างนี้ ประเทศตัวตั้งตัวตีที่เอามาใช้ประเทศแรกก็คือสหภาพโซเวียต ที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศแรกในโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2471 โดยเป็นการวางแผนที่ส่วนกลางในการจัดลำดับความสำคัญว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจในด้านใดและเรื่องอะไรก่อน เพราะทรัพยากรที่จะต้องเอามาใช้ในการพัฒนาประเทศมีอยู่จำกัด | อันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมนี้ทุกประเทศไม่ได้มีใช้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทุนนิยมสำคัญ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักรก็ไม่มีกำหนดแผนกลางของประเทศอย่างนี้ เพราะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นแผนกลางอย่างนี้ ประเทศตัวตั้งตัวตีที่เอามาใช้ประเทศแรกก็คือสหภาพโซเวียต ที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศแรกในโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2471 โดยเป็นการวางแผนที่ส่วนกลางในการจัดลำดับความสำคัญว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจในด้านใดและเรื่องอะไรก่อน เพราะทรัพยากรที่จะต้องเอามาใช้ในการพัฒนาประเทศมีอยู่จำกัด | ||
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 14: | ||
การที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายทหารที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์มากรับเอาความคิดให้มีการวางแผนที่ส่วนกลางกำหนดเรื่องเศรษฐกิจเช่นนี้มิใช่ว่าจะชอบการบริหารแบบคอมมิวนิสต์ หากแต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและมีการวางแผนเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ปรากฏว่าใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับนี้มาได้เกือบครบ 3 ปี อันเป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของแผน จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็เสียชีวิตไป | การที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายทหารที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์มากรับเอาความคิดให้มีการวางแผนที่ส่วนกลางกำหนดเรื่องเศรษฐกิจเช่นนี้มิใช่ว่าจะชอบการบริหารแบบคอมมิวนิสต์ หากแต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและมีการวางแผนเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ปรากฏว่าใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับนี้มาได้เกือบครบ 3 ปี อันเป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของแผน จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็เสียชีวิตไป | ||
แผนพัฒนาฯ ช่วงที่ 2 จึงดำเนินต่อมาภายใต้การนำของ[[รัฐบาล]]ที่มี[[จอมพลถนอม กิตติขจร]] เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาสู่อำนาจตามระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากคณะทหารชุดเดียวกันกับคณะของจอมพลสฤษดิ์ อย่างไรก็ตามการมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ดี | แผนพัฒนาฯ ช่วงที่ 2 จึงดำเนินต่อมาภายใต้การนำของ[[รัฐบาล]]ที่มี[[ถนอม กิตติขจร|จอมพลถนอม กิตติขจร]] เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาสู่อำนาจตามระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากคณะทหารชุดเดียวกันกับคณะของจอมพลสฤษดิ์ อย่างไรก็ตามการมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ดี | ||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2501-2519]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2501-2519]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 12:54, 16 ตุลาคม 2557
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2504 ได้มีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติแผนแรกในประเทศไทย แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้เป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวของประเทศที่เป็นแผน 6 ปี จาก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2509 โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง เป็นเวลาช่วงละ 3 ปี คือ ช่วงแรก พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2506 และช่วงที่ 2 จาก พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2509 และเป็นแผนพัฒนาฉบับเดียวที่มีชื่อเพียงแค่แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ แผนฉบับต่อมามีชื่อขยายเพิ่มเรียกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในปี พ.ศ. 2504 เมื่อแรกประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับแรกนี้ นายกรัฐมนตรีคือ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งเป็นผู้นำคณะทหารที่ปกครองประเทศไทยโดยมีฐานทางกองทัพสนับสนุน เป็นเวลาที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะทหารปิดกั้นทางการเมือง ปกครองประเทศโดยอาศัยธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรที่มีอยู่เพียง 20 มาตราเป็นกติกาในการปกครอง และธรรมนูญฉบับนี้ก็มีมาตรา 17 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการสั่งการต่าง ๆ ได้รวมทั้งสั่งประหารชีวิตผู้ต้องหา
อันแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมนี้ทุกประเทศไม่ได้มีใช้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศทุนนิยมสำคัญ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักรก็ไม่มีกำหนดแผนกลางของประเทศอย่างนี้ เพราะแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นแผนกลางอย่างนี้ ประเทศตัวตั้งตัวตีที่เอามาใช้ประเทศแรกก็คือสหภาพโซเวียต ที่เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ประเทศแรกในโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2471 โดยเป็นการวางแผนที่ส่วนกลางในการจัดลำดับความสำคัญว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจในด้านใดและเรื่องอะไรก่อน เพราะทรัพยากรที่จะต้องเอามาใช้ในการพัฒนาประเทศมีอยู่จำกัด
การที่จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายทหารที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์มากรับเอาความคิดให้มีการวางแผนที่ส่วนกลางกำหนดเรื่องเศรษฐกิจเช่นนี้มิใช่ว่าจะชอบการบริหารแบบคอมมิวนิสต์ หากแต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและมีการวางแผนเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ปรากฏว่าใช้แผนพัฒนาฯ ฉบับนี้มาได้เกือบครบ 3 ปี อันเป็นระยะเวลาครึ่งหนึ่งของแผน จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็เสียชีวิตไป
แผนพัฒนาฯ ช่วงที่ 2 จึงดำเนินต่อมาภายใต้การนำของรัฐบาลที่มีจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาสู่อำนาจตามระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากคณะทหารชุดเดียวกันกับคณะของจอมพลสฤษดิ์ อย่างไรก็ตามการมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับนี้ก็เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ดี