ผลต่างระหว่างรุ่นของ "23 ธันวาคม พ.ศ. 2484"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 6: | บรรทัดที่ 6: | ||
---- | ---- | ||
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่ [[นายปรีดี พนมยงค์]] ปฏิญาณตนต่อ[[สภาผู้แทนราษฎร]] เพื่อเข้ารับตำแหน่งเป็น[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]] เพราะเมื่อ[[เจ้าพระยายมราช]] ผู้ซึ่งเป็น[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]]อยู่ด้วยท่านหนึ่งใน 3 ท่านได้เสียชีวิตลงยังไม่ได้ตั้งใครแทน ดังที่[[จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] [[นายกรัฐมนตรี]]ได้กล่าวตอนที่เสนอเรื่องต่อ[[สภาผู้แทนราษฎร]]เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 มีความว่า | วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่ [[ปรีดี พนมยงค์|นายปรีดี พนมยงค์]] ปฏิญาณตนต่อ[[สภาผู้แทนราษฎร]] เพื่อเข้ารับตำแหน่งเป็น[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]] เพราะเมื่อ[[เจ้าพระยายมราช]] ผู้ซึ่งเป็น[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]]อยู่ด้วยท่านหนึ่งใน 3 ท่านได้เสียชีวิตลงยังไม่ได้ตั้งใครแทน ดังที่[[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] [[นายกรัฐมนตรี]]ได้กล่าวตอนที่เสนอเรื่องต่อ[[สภาผู้แทนราษฎร]]เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 มีความว่า | ||
“โดยที่เจ้า[[พระยายมราช]] ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ถึงแก่อสัญกรรม สภาผู้แทนราษฎรยังมิได้ตั้งซ่อมผู้ใดเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์ [[คณะรัฐมนตรี]]เห็นว่า บรรดากิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐ ควรจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบกว่าปกติประการหนึ่ง กับประกอบด้วยเวลานี้ [[นายพลเอกเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน]]ก็ชราภาพ และสุขภาพไม่สมบูรณ์ อีกประการหนึ่ง เห็นว่าในปัจจุบันนี้ เมื่อได้พิจารณาสถานการณ์ทั่ว ๆ ไปแล้ว คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ควรจะประกอบให้เข้มแข็ง มีผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมที่จะให้เป็นที่เชื่อถือได้ทั้งราษฎรในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สมควรที่จะตั้งซ่อมคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้ที่ควรจะได้รับตำแหน่งนี้ มีนายปรีดี พนมยงค์ ด้วยผู้หนึ่งถ้าสภาผู้แทนราษฎร[[ลงมติ]]ตั้งเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์แล้ว นายปรีดี พนมยงค์ เป็นอันพ้นจากตำแหน่ง[[รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง]]” | “โดยที่เจ้า[[พระยายมราช]] ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ถึงแก่อสัญกรรม สภาผู้แทนราษฎรยังมิได้ตั้งซ่อมผู้ใดเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์ [[คณะรัฐมนตรี]]เห็นว่า บรรดากิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐ ควรจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบกว่าปกติประการหนึ่ง กับประกอบด้วยเวลานี้ [[นายพลเอกเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน]]ก็ชราภาพ และสุขภาพไม่สมบูรณ์ อีกประการหนึ่ง เห็นว่าในปัจจุบันนี้ เมื่อได้พิจารณาสถานการณ์ทั่ว ๆ ไปแล้ว คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ควรจะประกอบให้เข้มแข็ง มีผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมที่จะให้เป็นที่เชื่อถือได้ทั้งราษฎรในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สมควรที่จะตั้งซ่อมคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้ที่ควรจะได้รับตำแหน่งนี้ มีนายปรีดี พนมยงค์ ด้วยผู้หนึ่งถ้าสภาผู้แทนราษฎร[[ลงมติ]]ตั้งเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์แล้ว นายปรีดี พนมยงค์ เป็นอันพ้นจากตำแหน่ง[[รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง]]” | ||
บรรทัดที่ 12: | บรรทัดที่ 12: | ||
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบให้นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และนายปรีดี พนมยงค์ เองก็ได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ท่านเป็นอยู่ พร้อมกับพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบให้นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และนายปรีดี พนมยงค์ เองก็ได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ท่านเป็นอยู่ พร้อมกับพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | ||
การที่นายปรีดี พนมยงค์ ได้ตำแหน่งใหม่ครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเมื่อรัฐบาลไทยร่วมมือกับญี่ปุ่นให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทางผ่านประเทศโดยมีผู้นำไทยอีกหลายคนไม่เห็นด้วย ซึ่งทางญี่ปุ่นก็พอทราบอยู่บ้าง และญี่ปุ่นนั้นต้องการจะขอยืมเงินจากประเทศไทย เพื่อเอามาใช้จ่ายให้กองทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายปรีดี พนมยงค์ นั่นเอง จึงต้องเอานายปรีดี พนมยงค์ ออกจากตำแหน่งนี้ และให้[[คุณพระบริภัณฑ์ยุทธกิจ]] | การที่นายปรีดี พนมยงค์ ได้ตำแหน่งใหม่ครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเมื่อรัฐบาลไทยร่วมมือกับญี่ปุ่นให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทางผ่านประเทศโดยมีผู้นำไทยอีกหลายคนไม่เห็นด้วย ซึ่งทางญี่ปุ่นก็พอทราบอยู่บ้าง และญี่ปุ่นนั้นต้องการจะขอยืมเงินจากประเทศไทย เพื่อเอามาใช้จ่ายให้กองทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายปรีดี พนมยงค์ นั่นเอง จึงต้องเอานายปรีดี พนมยงค์ ออกจากตำแหน่งนี้ และให้[[คุณพระบริภัณฑ์ยุทธกิจ]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรีก็อนุมัติเงินกู้ให้ญี่ปุ่นไปตามที่ขอ ในตอนนั้นคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประกอบด้วย [[พล.ต.พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาทิตย์ ทิพอาภา]] [[พล.อ.พิชเยนทรโยธิน]] และ นายปรีดี พนมยงค์ และเมื่อออกจาก[[คณะรัฐมนตรี]] นายปรีดี พนมยงค์ จึงมีโอกาสที่มาคิดดำเนินการในเรื่อง[[ขบวนการเสรีไทย]]ต่อมา | ||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:30, 15 ตุลาคม 2557
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เป็นวันที่ นายปรีดี พนมยงค์ ปฏิญาณตนต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพราะเมื่อเจ้าพระยายมราช ผู้ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อยู่ด้วยท่านหนึ่งใน 3 ท่านได้เสียชีวิตลงยังไม่ได้ตั้งใครแทน ดังที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวตอนที่เสนอเรื่องต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 มีความว่า
“โดยที่เจ้าพระยายมราช ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ถึงแก่อสัญกรรม สภาผู้แทนราษฎรยังมิได้ตั้งซ่อมผู้ใดเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า บรรดากิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐ ควรจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบกว่าปกติประการหนึ่ง กับประกอบด้วยเวลานี้ นายพลเอกเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธินก็ชราภาพ และสุขภาพไม่สมบูรณ์ อีกประการหนึ่ง เห็นว่าในปัจจุบันนี้ เมื่อได้พิจารณาสถานการณ์ทั่ว ๆ ไปแล้ว คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ควรจะประกอบให้เข้มแข็ง มีผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมที่จะให้เป็นที่เชื่อถือได้ทั้งราษฎรในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อประโยชน์ส่วนรวม สมควรที่จะตั้งซ่อมคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้ที่ควรจะได้รับตำแหน่งนี้ มีนายปรีดี พนมยงค์ ด้วยผู้หนึ่งถ้าสภาผู้แทนราษฎรลงมติตั้งเป็นผู้สำเร็จราการแทนพระองค์แล้ว นายปรีดี พนมยงค์ เป็นอันพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2484 สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบให้นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และนายปรีดี พนมยงค์ เองก็ได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ท่านเป็นอยู่ พร้อมกับพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
การที่นายปรีดี พนมยงค์ ได้ตำแหน่งใหม่ครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเมื่อรัฐบาลไทยร่วมมือกับญี่ปุ่นให้กองทัพญี่ปุ่นเดินทางผ่านประเทศโดยมีผู้นำไทยอีกหลายคนไม่เห็นด้วย ซึ่งทางญี่ปุ่นก็พอทราบอยู่บ้าง และญี่ปุ่นนั้นต้องการจะขอยืมเงินจากประเทศไทย เพื่อเอามาใช้จ่ายให้กองทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งคนที่ไม่เห็นด้วยก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายปรีดี พนมยงค์ นั่นเอง จึงต้องเอานายปรีดี พนมยงค์ ออกจากตำแหน่งนี้ และให้คุณพระบริภัณฑ์ยุทธกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอีกตำแหน่งหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรีก็อนุมัติเงินกู้ให้ญี่ปุ่นไปตามที่ขอ ในตอนนั้นคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ประกอบด้วย พล.ต.พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาทิตย์ ทิพอาภา พล.อ.พิชเยนทรโยธิน และ นายปรีดี พนมยงค์ และเมื่อออกจากคณะรัฐมนตรี นายปรีดี พนมยงค์ จึงมีโอกาสที่มาคิดดำเนินการในเรื่องขบวนการเสรีไทยต่อมา