ชาวไทย (พ.ศ. 2542)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคชาวไทย
พรรคชาวไทย มีอักษรย่อภาษาไทยว่า “พชท” ใช้ภาษาอังกฤษว่า “THAI PEOPLE PARTY” ขึ้นทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเลขที่ 12/2542 ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2542 มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคชาวไทย ตั้งอยู่เลขที่ 211/17 ซอยชัยเกียรติ 2 ม.6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 [1] ต่อมาได้เปลี่ยนที่ตั้งสำนักงานใหม่ไปตั้งอยู่เลขที่ 90/3 ถนน สุขาภิบาล 1 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10260 [2]
เครื่องหมายพรรคชาวไทยมีดังนี้ [3]
1. พื้นของเครื่องหมายเป็นสีขาว
2. เส้นโค้งสีแดงไขว้ตัดกันอยู่รอบนอก ปลายเส้นโค้งมีสีแดงมีลูกศรชี้ออก
3. ด้านในมีเส้นโค้งสีน้ำเงิน ไขว้สลับกันทั้งสีน้ำเงินและสีแดง ปลายเส้นโค้งมีลูกศรชี้ออกเหมือนกับเส้นโค้งสีแดง
4. ด้านในของเส้นโค้งทั้งสองสี มีวงกลมสีน้ำเงินทึบทั้งวง
5. มีอักษรว่า “พรรคชาวไทย” อยู่ด้านล่างของภาพเครื่องหมาย
มีความหมายดังนี้คือ พรรคชาวไทยจะเทิดทูนชาติ ศาสนาและจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์และราชวงศ์ พรรคชาวไทยจะสร้างปวงชนชาวไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและให้ “รู้รักสามัคคี” พรรคชาวไทยจะสร้างความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เทคโนโลยีและการพลังงาน ให้ชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงความยุติธรรมให้เกิดขึ้นกับชาวไทยทุกคน
ตรายางเครื่องหมายสำหรับประทับรับรองเอกสารของพรรคชาวไทยเป็นเครื่องหมายพรรคในลักษณะเดียวกัน แต่ย่อให้เล็กลงและมีสีเดียว [4]
นโยบายของพรรคชาวไทย พ.ศ. 2542 [5]
สมาชิกพรรคชาวไทยจะยึดมั่นในอุดมการณ์ของชาติ จะดำรงรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพของชาติ สร้างสังคมชาติไทยให้ไปสู่สังคมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีจุดมุ่งต่อประชาชนชาวไทยเพื่อความเป็นไทย เพื่อชาติไทยให้มีความเจริญมั่นคงรุ่งเรืองด้วยเสรีภาพ สมภาพ และภราดรภาพยังความผาสุกแก่ปวงชนชาวไทย
พรรคชาวไทยมุ่งหวังจะสรรสร้างประเทศไทยให้กลายเป็นอู่ข้าวสมกับได้ชื่อว่าเป็น “แหลมทอง” และอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากประชาชนเพิ่มขึ้นมากมายจนเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร
จุดมุ่งหมายของพรรคชาวไทยมีดังนี้
ในด้านสังคมจะปฏิรูปเพื่อสมภาพ ภราดรภาพ และอุดมภาพแก่ชนชาวไทย ปรับปรุงการบริหารทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพ
ในด้านเศรษฐกิจจะปฏิรูป สถาปนาโครงสร้างเศรษฐกิจขึ้นใหม่ เพื่อความเป็นธรรมและจริงจัง และพัฒนาให้เกิดความยุติธรรมทางด้านความเป็นอยู่ของชนบทและเมือง
ในด้านการเมืองจะระดมพลังทรัพยากรทั้งหมดในสังคมไทยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของชาติ และจะสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย
พรรคชาวไทย เป็นของชาวไทย โดยชาวไทย เพื่อชาวไทยรวมพลังกันสร้างระบอบประชาธิปไตยด้วยความบริสุทธิ์ใจให้มีความสมบูรณ์และมั่นคงสถาพร เพราะคนไทยมีความเป็นตัวของตัวเองรักความเป็นไท มีเมตตาธรรมและภราดรธรรมเป็นพื้นฐานอยู่ในจิตใจโดยถ้วนหน้าเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว ประเทศไทยได้พยายามจะสถาปนาระบอบประชาธิปไตยยังไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย ทำให้ประเทศชาติประสบปัญหาเรื้อรังและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
พรรคชาวไทย เห็นว่าการแก้ปัญหาของชาติให้ประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น จะต้องปฏิบัติการด้วยความบริสุทธิ์ใจให้ถูกต้องและจริงจังโดยดำเนินตามวิถีทางประชาธิปไตยโดยระบบพรรคการเมืองที่มีอุดมคติและนโยบายที่สอดคล้องตรงกันกับความต้องการของชาติและประชาชน ดังนั้นพรรคชาวไทย จึงขอเสนออุดมคติของพรรคและนโยบาย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้พิจารณา
การแก้ปัญหาเร่งด่วนของชาติ พรรคชาวไทยมุ่งจะสร้างฐานทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชนให้อยู่ดีกินดีเสริมความสามัคคีในชาติ รักษาความสงบเรียบร้อยและมีระเบียบโดยทั่วไป เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพราประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม จำต้องมีการพัฒนาเกษตรกรรม เช่น การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และการประมง การพัฒนาสาขาอื่นๆ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร การพัฒนาการศึกษาเพื่อการพัฒนาเกษตรกรรมและขอให้การพัฒนาทุกสาขาเป็นไปอย่างมีเป้าหมายและแน่ชัดให้สอดคล้องกัน สามารถระดมทรัพยากรของชาติให้มีประสิทธิภาพไม่ล่าช้า–ซ้ำซ้อนและสูญเปล่าเพื่อให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ จะได้ใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายให้แน่นอนและชัดเจนยิ่งขึ้น
ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 พรรคชาวไทยเคยลงสมัครเลือกตั้งโดยได้หมายเลข 2 ซึ่งได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 2 คน ได้แก่ 1. ว่าที่ร้อยตรีณัฐ ศรีเฟื่องฟุ้ง 2. นายเล็ก ช้างเผือก และผู้สมัครแบบแบ่งเขตเบอร์เดียว ที่จังหวัดสมุทรปราการเขต 5 จำนวน 1 คน ได้แก่ นายสุชาติ สวงไท แต่ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง [6]ต่อมาพรรคชาวไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 8/2547 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2547 ให้ยุบพรรคชาวไทยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 65 วรรคสอง เนื่องจากไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ที่บัญญัติว่า ที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองต้องประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนของสาขาพรรคการเมือง และสมาชิก ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับพรรคการเมือง ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในคราวประชุมใหญ่วิสามัญพรรคชาวไทย ครั้งที่ 2/2545 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2545 มีมติให้เปลี่ยนข้อบังคับพรรคชาวไทยบางข้อ ซึ่งไม่มีผู้แทนสาขาพรรคการเมือง และสมาชิกครบองค์ประชุม รวมถึงบัญชีรายชื่อไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่ได้เข้าร่วมประชุม ดังนั้นจึงไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 26 ซึ่งเป็นเหตุให้ยุบพรรคได้ตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (5) และศาลพิจารณาข้อเท็จจริงและคำชี้แจงของหัวหน้าพรรคชาวไทยแล้วเห็นว่าเป็นจริง จึงตัดสินให้ยุบพรรคชาวไทย [7]
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 83 ง, วันที่ 18 ตุลาคม 2542, หน้า 76, 92-94.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 121 ง, วันที่ 29 พฤศจิกายน 2543, หน้า 32.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 83 ง, วันที่ 18 ตุลาคม 2542, หน้า 93
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 83 ง, วันที่ 18 ตุลาคม 2542, หน้า 94.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนพิเศษ 83 ง, วันที่ 18 ตุลาคม 2542, หน้า 76-92.
- ↑ ไทยโพสต์ 11 ธันวาคม 2543 และ สยามจดหมายเหตุ ปีที่ 25 ฉบับที่ 49 (30 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2543), หน้า 1353.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 121 ตอนพิเศษ 130 ง, วันที่ 19 พฤศจิกายน 2547, หน้า 110. และราชกิจจานุเบกษา เล่ม 122 ตอนที่ 40 ก, วันที่ 19 พฤษภาคม 2548, หน้า 165-176.