22 เมษายน พ.ศ. 2522

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:14, 19 พฤศจิกายน 2555 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร ---- '''ผู้ทรงคุณวุ...')
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง ศ.นรนิต เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 เป็นวันที่มีการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 13 ในประเทศไทยและเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521

ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ยังไม่มีกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ยอมให้มีพรรคการเมืองอย่างเป็นทางการ กระนั้นนักการเมืองก็ได้รวมตัวกันเป็น “กลุ่มการเมือง” และเรียกชื่อกลุ่มตัวเช่นเดียวกันชื่อพรรคการเมืองเก่าของตนนั่นเอง จึงมีคนเห็นว่าอาจเป็นเหตุทำให้พรรคการเมืองยังไม่เข้มแข็งในการเลือกตั้งครั้งนี้

ในวันเดียวกันกับที่มีการเลือกตั้งก็ได้มีประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ มีจำนวน 3 ใน 4 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมาจากผลการเลือกตั้งในวันนี้ ปรากฏว่าผลของการเลือกตั้งทั่วไปใน วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 ไม่มีกลุ่มการเมืองใดได้เสียงข้างมาก กลุ่มการเมืองที่มีคะแนนนำและได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจำนวนมากเรียงลำดับกัน 5 กลุ่มจากจำนวนทั้งหมด 301 คน มีดังนี้

1. กลุ่มกิจสังคม 88
2. กลุ่มชาติไทย 42
3. กลุ่มประชาธิปัตย์ 35
4. กลุ่มประชากรไทย 32
5. กลุ่มสยามประชาธิปไตย 31

หลังการเลือกตั้งแล้ว พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แม้จะไม่ได้ลงแข่งขันเลือกตั้งก็ตาม ก็ยังได้รับการเสนอชื่อให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เกิดรัฐบาล “เกรียงศักดิ์ 2” ต่อมาได้ เพราะเสียงสนับสนุนในรัฐสภาที่มีสมาชิกวุฒิสภาจำนวนถึง 3 ใน 7 ของจำนวนสมาชิกรัฐสภาได้ทำให้ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ได้เสียงสนับสนุนมาก บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญได้เปิดทางให้คณะทหารมีบทบาททางการเมืองต่อไปอีกได้อย่างน้อย 4 ปี

สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 นี้ แม้จะมีวาระอยู่ได้ 4 ปีก็ตาม แต่ก็มาหมดสมาชิกภาพ สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบสภาในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2526 ก่อนครบวาระเพียงไม่นาน โดยมีเหตุมาจากความเห็นที่แตกแยกกันเกี่ยวกับบทบาทของทหารในทางการเมืองและวิธีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังที่นิยม รัฐอมฤต เขียนไว้ในหนังสือชื่อการเมืองไทย มีความตอนหนึ่งว่า

“รัฐสภาไม่ยอมผ่านร่างแก้ไขรัฐธรมนูญที่ผลักดันโดยวุฒิสมาชิกสายทหาร ซึ่งต้องการให้ขยายเวลาบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 ออกไปอีกสมัยหนึ่ง เพื่อคงอำนาจของวุฒิสมาชิกในการแต่งตั้งถอดถอนรัฐบาล ให้สิทธิแก่ข้าราชการในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง และระงับการใช้บังคับระบบเลือกตั้งแบบรวมเขตเลือกพรรค ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งกับวุฒิสมาชิกสายทหาร รัฐบาลจึงตัดสินใจยุบสภา”