ระบบหลายพรรคการเมือง
บทความนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยโดยผู้ืทรงคุณวุฒิ
ผู้เรียบเรียง ชัยวัฒน์ ม่านศรีสุข และ รศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
ระบบพรรคการเมืองที่มีพรรคการเมืองตั้งแต่สามพรรคหรือมากกว่านั้นในระบบการเมือง โดยที่พรรคเหล่านี้มีศักยภาพที่จะจัดตั้งรัฐบาลผ่านการแข่งขันอย่างเสรีในการเลือกตั้ง รัฐบาลที่เกิดขึ้นจากระบบหลากหลายพรรคการเมืองอาจเป็นรัฐบาลพรรคการเมืองเดียว หรือรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมืองก็ได้
ประเภทของระบบหลายพรรคการเมือง
ภายใต้ระบบหลากหลายพรรคการเมือง Giovanni Sartori นักรัฐศาสตร์ชาวอิตาลีได้จำแนกระบบหลากหลายพรรคออกเป็น 2 ประเภทย่อย[1] ประเภทแรกได้แก่ ระบบหลากหลายพรรคแบบกลางๆ (moderate multi-party system) ซึ่งประกอบไปด้วยพรรคการเมืองประมาณ 5-6 พรรค พรรคการเมืองทั้งหมดนี้มีความสามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลหรือเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลผสม โดยที่แต่ละพรรคการเมืองจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองไม่แตกต่างกันมากนัก ตัวอย่างเช่น ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และสวีเดน ประเภทที่สองได้แก่ ระบบหลากหลายพรรคแบบแตกย่อย (polarlized multi-party system) ซึ่งประกอบไปด้วยพรรคการเมืองมากกว่า 5-6 พรรคขึ้นไป ในกรณีนี้รวมพรรคการเมืองชนิดที่ไม่ต้องการเป็นรัฐบาลหรือมีลักษณะต่อต้านระบบ (anti-system party) เข้าไปด้วย พรรคการเมืองในระบบพรรคการเมืองเช่นนี้จะมีพื้นฐานความแตกต่างในเชิงอุดมการณ์สูงมาก ตัวอย่างเช่น ประเทศฝรั่งเศสในสมัยสาธารณรัฐที่ 4 อิตาลี และประเทศไทยในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงช่วง 6 ตุลาคม 2519 ที่มีพรรคการเมืองกว่า 50 พรรคการเมือง
เมื่อเทียบกับระบบสองพรรคใหญ่ทางการเมืองแล้ว ระบบหลากหลายพรรค (แบบกลางๆ) มีข้อดีที่น่าสนใจคือ ภายใต้ระบบสองพรรคใหญ่ ผู้ลงคะแนนได้จำแนกตนออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ โดยที่ทั้งสองกลุ่มมีความแตกต่างกันในเชิงพื้นฐานอุดมการณ์อย่างมากจนในบางครั้งส่งผลให้ไม่สามารถตกลงกันได้ในหลักการสำคัญๆ ขณะที่ภายใต้ระบบหลากหลายพรรค พรรคการเมืองจะมีลักษณะธรรมชาติที่มีความเป็นกลางๆ ไม่สุดโต่งไปด้านใดด้านหนึ่ง และถ้าไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาด สภาวะดังกล่าวจะบังคับให้พรรคการเมืองต้องหันหน้าเข้ามาทำงานร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนรูปแบบของความเป็นกลาง (centrism) กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ ภายใต้ระบบหลากหลายพรรคการเมืองมักจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงหรืออย่างถอนรากถอนโคนในเชิงนโยบาย
อ้างอิง
- ↑ Giovanni Sartori, Parties and Party System: A Framework of Analysis, New York: Cambridge University Press, 1976