รวมไทย (พ.ศ. 2536)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง นครินทร์ เมฆไตรรัตน์


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


พรรครวมไทย (2536)

พรรครวมไทยเป็นพรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 โดยได้ยื่นจดทะเบียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ทะเบียนเลขที่ 38/2536 หัวหน้าพรรค คือ นายสัญชยากร เศียนเสวี รองหัวหน้าพรรค 3 คน ได้แก่ นายธีรพล วัฒนปรีดี นายประสิทธิ์ กวางกระเจิง นายสืบศักดิ์ อยู่เย็น เลขาธิการพรรค คือ นายมัธยม นิภาเกษม รองเลขาธิการพรรค 2 คน คือ นายสิงหชัย เทียนสิงหเดช และนางสาวรัตน์ บุตสาทำ กรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย นางสาวเยาวเรศ เตชะวงศ์ นางสาวนงนุช เพิ่มการ นายณรงค์ศักดิ์ พุ่มร่ม นางสาวพนาพร ช่างเพ็ชรผล นายเกียรติศักดิ์ หล่ายแปด นางสาวพิลาลักษณ์ ชาวเหนือ นางไพรวัลย์ พรมยศ สิบเอก สยาม มนตรี นางเทียมจันทร์ แก้วเรือง นายมะโนด แก้วเรือง นางสาวกัญญา เสาวภา และนายสุพัตร ธรรมสิทธิ์

นโยบายของพรรครวมไทย

นโยบายด้านการเมือง พรรครวมไทยจะยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนปลูกฝังให้ประชาชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นของประชาชนในประเทศ จะเสริมสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยสนับสนุนให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับท้องถิ่น เพื่อเป็นรากฐานของการเมืองระดับชาติ จะเคารพและคุ้มครองปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน และให้ได้รับความเสมอภาคทางกฎหมายและโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียมกัน ตลอดจนรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและผดุงไว้ซึ่งความเป็นอิสระของขบวนการยุติธรรม เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย

พรรครวมไทยจะส่งเสริมและสนับสนุนการปกครองท้องถิ่นทุกระดับ โดยการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมีอิสระทางการเงินการคลังและการกำหนดนโยบายของตนเองมากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงระบบบริหารราชการส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดให้มีความเข้มแข็งและมีเอกภาพสามารถอำนวยการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดได้อย่างแท้จริง มีอำนาจตัดสินใจแก้ปัญหา และพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนดำเนินการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนากระบวนการเลือกตั้งทุกระดับ โดยเฉพาะการเลือกตั้งระดับชาติให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากอิทธิพลใด ๆ มากำหนด เพื่อให้สถาบันรัฐสภาเป็นสถาบันแห่งตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง

นโยบายด้านการบริหาร พรรครวมไทยจะปฏิรูประบบราชการและองค์กรของรัฐให้มีประสิทธิภาพที่จะสนองประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง โดยมุ่งเปลี่ยนบทบาทของราชการจากผู้ปฏิบัติมาเป็นผู้กำกับดูแลให้การสนับสนุนการดำเนินงานของภาคเอกชนมากยิ่งขึ้น และเปลี่ยนแนวคิดการบริหารราชการจากการปกครองมาเป็นการบริหาร การพัฒนา ส่งเสริม กำกับดูแลและการจัดการมากขึ้น ขณะเดียวกันจะปรับโครงสร้างระบบราชการให้กะทัดรัดและลดขนาดให้เล็กลง

พรรครวมไทยจะพัฒนาระบบราชการให้เป็นระบบวิชาชีพที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับภาคเอกชน เพื่อให้ระบบราชการสามารถสนองตอบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะปรับปรุงการบริหารราชการและวิธีการปฏิบัติงานให้รวดเร็วขึ้น และกระจายอำนจการบริหารงานในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการตัดสินใจ การบริหารงานบุคคลและการบริหารงบประมาณจากส่วนกลางสู่หน่วยปฏิบัติและส่วนภูมิภาคให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชน และส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว จะจัดตั้งองค์กรเพื่อแก้ไขกรณีพิพาททางการบริหาร เช่น ศาลปกครอง เป็นต้น เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติราชการให้ถูกต้องและเป็นธรรม รวมถึงจะขจัดการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างจริงจังในทุกวงการ ทั้งข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง และพนักงานของรัฐ

นโยบายด้านเศรษฐกิจ พรรครวมไทยจะรักษาอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้ต่อเนื่องไปอย่างมีเสถียรภาพ จะกระจายรายได้และส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาคต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและเป็นระบบ จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจระดับนานาชาติ และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาค ขณะเดียวกันพรรครวมไทยจะให้ความสำคัญแก่การพัฒนาภาคเกษตรกรรม เพื่อให้เป็นฐานรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การปรับปรุงการผลิต คุณภาพผลผลิต ให้มีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร และให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

นโยบายด้านการคลัง พรรครวมไทยจะเสริมสร้างและรักษาเสถียรภาพทางการเงิน โดยให้มีปริมาณเงินที่เพียงพอในอัตราที่เหมาะสม เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทุกภาคของประเทศ จะพัฒนาและจัดให้สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ บริษัทการเงินประเภทต่าง ๆ กระจายตัวไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ จะส่งเสริมการออมของประชาชนให้กว้างขวางครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ และให้ความมั่นคงปลอดภัยแก่ผู้ออม จะจัดให้มีระบบภาษีอากรที่เอื้ออำนวยต่อการผลิต การบริการ การค้าทั้งภายในและต่างประเทศ โดยมุ่งให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้ประโยชน์สูงสุด และแข่งขันกันบนพื้นฐานของความเป็นธรรม จะจัดให้มีระบบการจัดเก็บภาษีที่สอดคล้องเหมาะสม เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนให้บริการโดยอำนวยความสะดวกแก่ผู้เสียภาษี และประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียภาษีทราบและเข้าใจภาระหน้าที่ในการเสียภาษีทุกประเภท

นโยบายด้านการเกษตร พรรครวมไทยจะพัฒนาการเกษตรกรรมแนวใหม่ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นฐานรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรให้สูงขึ้น โดยสนับสนุนให้มีบริการด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกื้อกูลต่อการพัฒนาการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร และข้อมูลการตลาด เพื่อเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรในระดับไร่นา โดยจัดให้มีองค์กรร่วมของรัฐบาล เอกชน และเกษตรเพื่อให้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพัฒนาการเกษตรและการตัดสินใจแก้ปัญหาร่วมกัน จะให้ความสำคัญสูงสุดและเน้นหนักการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในเรื่องที่เป็นปัญหาหลัก ได้แก่ การถือครองที่ดิน แหล่งน้ำ สินเชื่อระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ ปัจจัยในการผลิต และตลาดรับซื้อผลิตผลการเกษตรทั้งในส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น

นโยบายด้านอุตสาหกรรม พรรครวมไทยจะเร่งกระจายอุตสาหกรรมไปสู่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นเขตอุตสาหกรรม โดยให้มีความสอดคล้องกับแหล่งวัตถุดิบ แรงงาน และสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ทั้งในด้านคุณภาพและต้นทุนการผลิต จะส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนในต่างประเทศให้มากขึ้น และเน้นเป็นพิเศษในประเทศแถบอินโดจีนและประเทศกลุ่มอาเซียน และจะส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้

นโยบายด้านสังคม พรรครวมไทยจะเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเร่งรัดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ รวมทั้งป้องกันและปราบปรามการผลิตและการค้ายาเสพติดให้โทษอย่างเฉียบขาด พรรครวมไทยจะมุ่งพัฒนาสังคมและจิตใจในระดับหมู่บ้าน โดยเน้นคุณธรรมเป็นเครื่องนำทางชีวิต ให้มีการปฏิบัติศาสนธรรมต่าง ๆ และส่งเสริมให้ศาสนสถานของชุมชนเป็นศูนย์กลางพัฒนาสังคมและจิตใจให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

พรรครวมไทยจะยกระดับการศึกษาของประชาชนส่วนใหญ่ให้สูงขึ้นโดยเร็ว ให้มีการปรับวิธีการจัดการศึกษาให้สามารถผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลก อีกทั้งจะพัฒนาคุณภาพและความเสมอภาคทางการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน เพื่อส่งเสริมจริยธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษาต่อเนื่อง การศึกษาตลอดชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม พลานามัย ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ตลอดจนการให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของชาติมากยิ่งขึ้น

พรรครวมไทยจะให้ความสำคัญกับสาธารณสุขมูลฐาน ควบคู่ไปกับสาธาณสุขสมัยใหม่เพื่อให้บริการของรัฐเป็นไปอย่างทั่วถึง จะให้ความคุ้มครองด้านสวัสดิการแรงงานให้เกิดความเป็นธรรมทั้งต่อฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง จะดำเนินการพัฒนาระบบการประกันสังคม ให้มีประสิทธิภาพและขยายให้ครอบคลุมกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จะยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนแออัด และชนบทให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน โดยสนับสนุนกิจกรรมด้านสุขาภิบาลอาหาร การสุขาภิบาลที่อยู่อาศัย การกำจัดน้ำเสีย การกำจัดสิ่งปฏิกูล และขยะมูลฝอย และจะพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นฐานรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะยาว ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน

นโยบายด้านการป้องกันประเทศ พรรครวมไทยจะสนับสนุนและส่งเสริมบทบาทหน้าที่หลักของทหารในการป้องกันประเทศ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ การช่วยเหลือประชาชนและการบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ตลอดจนค่านิยมที่สนับสนุนการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยให้ยั่งยืนและต่อเนื่อง จะปรับปรุงและพัฒนากองทัพให้มีขนาดที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ มีความพร้อมรบและมีความทันสมัย เพื่อให้มีขีดความสามารถในการป้องกันประเทศได้ทุกระดับภัยคุกคาม โดยคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นสำคัญ จะส่งเสริมการผนึกกำลังป้องกันประเทศ ทั้งกำลังทหาร กึ่งทหาร ตำรวจ และราษฎรอาสาสมัครในรูปแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ตลอดจนการดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความพร้อมด้านทรัพยากรที่จะสนับสนุนการผนึกกำลัง เพื่อป้องกันภัยคุกคามทั้งภายในและภายนอกประเทศ จะสนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาการทหาร การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ และสามารถพึ่งตนเองได้มากที่สุด อันจะช่วยประหยัดงบประมาณการจัดซื้อจากต่างประเทศ

นโยบายด้านการต่างประเทศ พรรครวมไทยจะดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระโดยยึดถือประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตยของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนพิทักษ์และสร้างเสริมความมั่นคงของรัฐและผลประโยชน์ของชาติ จะส่งเสริมด้านสันติภาพและการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างประเทศทั้งหลาย บนหลักการของการเคารพเอกราชอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความเสมอภาค ความยุติธรรม การไม่แทรกแซงในกิจการภายในของกันและกัน และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศโดยสันติวิธี พรรครวมไทยจะเสริมสร้างและกระชับไมตรีความร่วมมือทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมตลอดจนความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แน่นแฟ้นและใกล้ชิดยิ่งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนมาตรการที่จะให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง เพื่อให้บรรลุถึงสันติภาพและเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยแท้ จะปรับปรุงส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยมุ่งขยายตลาดการค้าและการลงทุน และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเกิดประโยชน์แห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความก้าวหน้าร่วมกัน

หลังการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยรัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปัตย์เมื่อกลางปี พ.ศ. 2538 และประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พรรครวมไทยได้ส่งผู้สมัครของพรรคลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยได้ถูกยุบพรรคไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2539


ที่มา

ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 110 ตอนที่ 198 วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536, หน้า 5-22.

เสนีย์ คำสุข, ข้อมูลพื้นฐานพรรคการเมือง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475-2544, รัฐสภาสาร ปีที่ 49 ฉบับที่ 11 (พฤศจิกายน 2544), หน้า 17-70.