รามสยาม (พ.ศ. 2541)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:29, 11 กรกฎาคม 2553 โดย Teeraphan (คุย | ส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต



พรรครามสยาม

พรรครามสยาม มีชื่อภาษาอังกฤษ Ramsiam Party ชื่อย่อ R.S. วันที่จดทะเบียนตั้งพรรค 3 มีนาคม 2541 นายทะเบียนพรรคการเมืองที่ลงชื่อรับรองพรรค นายอารีย์ วงศ์อารยะ (พ.ศ. 2535) และ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ทะเบียนพรรคการเมือง เลขที่ 55/2541 (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541) ที่ตั้งพรรค สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ 163 ถนนสุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 258-9050-5 โทรสาร 258-9069 นายเกริกชัย เจริญรัชต์ภาคย์ หัวหน้าพรรคได้ให้ข้อมูลกับกระทรวงมหาดไทยไว้ว่า พรรครามสยาม เป็นพรรคก่อตั้งขึ้นเพื่อนำความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมะ มาใช้ปกครองบริหารและพัฒนาประเทศให้เป็น ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข นำความรู้ที่พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์มาแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เพื่อยกระดับจิตสำนึกรวมของชาติ เพื่อขจัดอธรรม ฟื้นฟูศีลธรรม คุณธรรม การป้องกันประเทศโดยไม่ให้มีค่านิยมไทย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ขณะเดียวกันรักษาการเตรียม พร้อมของกองกำลังรักษาชาติ และสนับสนุนการวิจัยเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อการป้องกันต่อไปอย่างมั่นคง

พรรครามสยามยังต้องการสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตและอุดมสมบูรณ์ ด้วยการเสริมสร้าง เพิ่มพูนปัญญาสร้างสรรค์ของบุคคล ในชาติ สร้างความมั่งคั่งให้มากขึ้น และให้รู้สึกเป็นอิสระที่จะใช้จ่าย เก็บภาษีทุกคนให้ต่ำลง ด้วยการบริหาร ชาติอย่างเรียบง่าย และแก้ไขการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การจ้างงานที่สำเร็จผล โดยการให้การฝึกงานกับคนว่างงาน รวมทั้งการฝึกหัดที่จะนำศักยภาพ สร้างสรรค์ที่หลบซ่อนอยู่ภายในของบุคคลออกมาใช้และได้รับการค้ำจุนจัดสรรจากธรรมชาติเพื่อให้แน่ใจ ในความสำเร็จทุกเรื่อง

จัดให้มีการเกษตรที่สนับสนุนการปลอดมลพิษ ให้มีฝนตกตามฤดูกาล และการฝึกอบรมเกษตรกร ให้รู้จักนำศักยภาพทั้งหมดของกฎธรรมชาติมาใช้ในการเกษตรอย่างมีผลต่อเนื่อง ด้านสังคม พรรครามสยามมีนโยบายให้การศึกษาโดยนำศักยภาพอัจฉริยะภาพของนักเรียนด้วยการเพิ่มพูนปัญญาสร้างสรรค์และดำเนิน ชีวิตที่มีคุณธรรม มุ่งมั่นต่อวิกฤติกาลเรื่องสุขภาพชาติ โดยการสริมระบบสาธารณสุขปัจจุบันด้วยโปรแกรมการศึกษา การรักษาโรคโดยใช้ยาหรือสมุนไพรที่ไม่มีผลเสียข้างเคียง และการแพทย์แผนโบราณอายุรเวท โดยการเน้น การป้องกันสุขภาพ รวมทั้งรักษา ฟื้นฟูอายุวัฒนะโดยธรรมชาติบำบัด ให้โปรแกรมทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุ และประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือด้วยวิธีที่เป็นธรรมชาติ เพื่อการมีจิตใจที่ดี มีเมตตาธรรม มีกายที่แข็งแรง มีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุข สร้างสังคมที่ปลอดอาชญากรรม ด้วยการขจัดสเหตุแท้จริงของอาชญากรรม อันได้แก่ การขาดสติ ปัญญาที่ไม่สามารถที่จะคิดดี พูดดี ทำดีโดยเพิ่มสติปัญญาให้รู้ถูก รู้ผิด ยึดถือวัฒนธรรม ศาสนา และประเพณีทางสังคมที่เป็นเอกลักษณ์ของทุกชุมชนขณะเดียวกัน รักษา ความเป็นหนึ่งเดียวของคนทั้งชาติเพื่อความสามัคคีในระดับพื้นฐาน ที่น่าสนใจคือพรรครามสยามมีนโยบายให้มีโครงการสร้างความสมานฉันท์ในจิตสำนึกชาติ โดยการสร้างกลุ่มปฏิบัติธรรมขึ้น 10,000 กลุ่ม โดยแยกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกปฏิบัติเทคนิคธรรมสมาชิกและธรรมสิทธิโปรแกรมทานเซ็นเด็นเทิ้ลเมดิวั่น (ที.เอ็ม) และเทคนิค ที.เอ็ม สิทธิ (เทคนิคธรรมสมาชิกหรอืทรานเซ็นเด็นเทิ้ลเมดิเทชั่นเป็นเทคนิคการทำจิตเข้าสู่สมาธิอย่างเป็นธรรมชาติ และอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนธรรมสิทธิ หรือ ที.เอ็ม สิทธิ เป็นเทคนิคขั้นก้าวหน้าของเทคนิค ที.เอ็ม) กลุ่ม 10,000 คนนี้ จะฟื้นฟูธรรมะ นำการค้ำจุนของกฎธรรมชาติมาฟื้นฟูคุณธรรมให้มวลชนในชาติ ช่วยขจัด ปัญหาต่าง ๆ ของประเทศให้หมดไป

นอกจากนี้พรรครามสยามจะทำให้ชาติปลอดจากมลพิษ ด้วยการสร้างอุตสาหกรรม พลังงานและการขนส่งที่ปลอดมลพิษ พัฒนาศักยภาพทางจิต สุขภาพอันสมบูรณ์ พฤติกรรมอันดีงาม สันติสุขและยกระดับจิตสำนึกของ ประชาชน ผู้นำ ผู้บริหารประเทศ และจิตสำนึกรวมของประเทศ โดยใช้เทคนิคการพัฒนาจิตที่ได้รับการ พัฒนาจิตที่ได้รับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ว่ามีประสิทธิภาพสูงสุด คือเทคนิค ที.เอ็ม และ ที. เอ็ม สิทธิ (เทคนิคธรรมสมาชิกและเทคนิคธรรมสิทธิ)

ปัจจุบันไม่ปรากฏว่าพรรครามสยามยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่มากน้อยเพียงใด เพราะไม่มีทั้งหลักฐานในการจัดตั้งและยุบพรรคที่เป็นรูปธรรม แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกยุบไปแล้ว เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่ามีการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งแต่อย่างใด แม้แต่ครั้งเดียว


ที่มา

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. http://www.dopa.go.th/party/rs1.htm