สังคมธิปไตย (พ.ศ. 2550)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคสังคมธิปไตย
พรรคสังคมธิปไตย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sangkomdhibataya Party ชื่อย่อ SDB วันที่ประชุมจัดตั้งพรรค 27 ตุลาคม พ.ศ. 2550 วันที่จดทะเบียนตั้งพรรค 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 นายทะเบียนพรรคการเมืองที่ลงชื่อรับรองพรรค นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ทะเบียนพรรคการเมือง เลขที่ 32/2550 (ตาม มาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550) ที่ตั้งพรรค สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 9/618 หมู่ 8 หมู่บ้านบุศรินทร์ ถ. พุทธมณฑลสาย 4 ต. กระทุ่มล้ม อ. สามพราน จ. นครปฐม 73220 โทรศัพท์ 028898939 โทรสาร 028899487 website http://www.thai-social-democracy.org/ คำขวัญพรรค “พรรคสังคมธิปไตย นำชัยเศรษฐกิจ เพื่อคุณภาพชีวิต สร้างสรรค์พันธกิจรัฐสวัสดิการ”
นายโชคชัย สุทธาเวศ หัวหน้าพรค ได้สรุปนโยบายของพรรคในภาพกว้างไว้ว่า พรรคสังคมธิปไตยต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงาน (รายได้และอื่นๆ) ปฏิรูปรัฐสวัสดิการ ขยายสิทธิประโยชน์ประกันสังคม ส่งเสริมให้มีสหภาพแรงงานและระบบแรงงานสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วมในกิจการ/องค์การ ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ โดยการไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน จัดตั้งกองทุนแรงงานเพื่อการบริหารกิจการ ขยาย-ปฏิรูปธุรกิจสหกรณ์และธุรกิจเพื่อสังคม
นายโชคชัยกล่าวว่า พรรคสังคมธิปไตยถือกำเนิดจากความพยายามและการร่วมมือกันของพลังสังคม และพลังประชาธิปไตยในมิติต่าง ๆ อาทิ แรงงาน (คนทำงาน) สหกรณ์ ประชาสังคม และ วิชาการ โดยมีเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์พรรคการเมืองทางเลือกใหม่ของสังคมไทย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ การเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์สังคมโลก การร่วมมือกันของพลังสังคมประชาธิปไตยดังกล่าวมีเจตนารมณ์ให้เกิดการสร้างสรรค์ สังคมประชาธิปไตยในประเทศไทยและสากลที่เชื่อมต่อระหว่างประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน และอนาคต โดยพรรคสังคมธิปไตยยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคที่ว่า พรรคจะยึดมั่นกับอุดมการณ์สังคมประชาธิปไตย อันให้คุณค่าต่อประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรที่เข้มแข็งของประชาชนในมิติต่าง ๆ ของรัฐ เพื่อเป้าหมายการสมานฉันท์ร่วมกันในการสร้างสรรค์สังคมรัฐ การมุ่งยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นๆ อย่างรอบด้าน และการมุ่งสู่การกระจายความมั่งคั่งและโภคทรัพย์เพื่อการกินดีอยู่ดีอย่างทั่วถึงเป็นธรรม และเสมอภาคกันของประชาชนทุกหมู่เหล่าโดยปราศจากอคติทางชนชั้น ชาติพันธุ์ สีผิว เพศ วัฒนธรรม ศาสนา หรือ ความเชื่อต่าง ๆ และอุดมการณ์ของพรรคที่จะนำไปสู่ความรุ่งเรืองของ ประเทศ ย่อมสอดคล้องกับทางสายกลางระหว่างทุนนิยมและสังคมนิยม สามัคคีธรรม และหลัก ธรรมิกสังคมนิยมขององคาพยพต่าง ๆ ในสังคม
ดังกล่าวมานี้พรรคสังคมธิปไตยจึงได้กำหนดหลักการพื้นฐานของพรรคว่า ในการดำเนินงานตามอุดมการณ์ของพรรค พรรคให้ความสำคัญต่อหลักการหรือหลักนิยมอันมีนัยทางทฤษฎีเพื่อการดำเนินงานของพรรค ด้วยการเสริมสร้างสังคมประชาธิปไตยของประชาชนและประเทศในระบอบรัฐสภา ในการทำงานหรือการประกอบอาชีพ และ ในการดำรงวิถีชีวิตโดยทั่วไป โดยการสนับสนุนจากการสร้างสรรค์สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และ วัฒนธรรม ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ การยึดมั่นต่อเสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ ของประชาชน และความเป็นธรรมในสังคม การให้คุณค่ากับการปฏิรูปสังคมให้เป็นสังคมประชาธิปไตย หลักรัฐธรรมนูญนิยมหลักนิติรัฐ หลักประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และ วัฒนธรรมของประชาชนกับรัฐ พรรคสังคมธิปไตยจะเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีความเป็นธรรม การจัดการให้เกิดดุลยภาพของการประกอบการเศรษฐกิจแนวเสรีนิยมและสังคมนิยม การกำกับและส่งเสริมทุนนิยมเสรีและธุรกิจ การค้าที่เป็นธรรมและการตลาดเพื่อสังคม การอยู่ดีกินดี การลดความยากจนและ ความทุกข์ยากลำบาก และการส่งเสริมการกระจายรายได้ที่เสมอภาคและเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า เสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ครอบคลุมถึงการเสริมสร้างระบบรัฐสวัสดิการที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมบริหารและเป็นเจ้าของ และได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึงในทุกกลุ่มอาชีพ ในทุกช่วงวัย ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เกิด ก่อนวัยเรียน วัยเรียน วัยทำงานหลังวัยทำงาน และจนตาย การยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานแรงงานที่เป็นธรรม โดยครอบคลุมถึงการจ้างงาน ค่าจ้าง สวัสดิการแรงงานและสวัสดิการสังคม และจะต้องให้คนทำงานมีความปลอดภัยและได้รับเงื่อนไขการทำงานที่เป็นธรรม รวมทั้งมีความมั่นคงและความสมบูรณ์ของครอบครัว การจัดให้มีการประกอบการรัฐวิสาหกิจโดยรัฐที่มีหน้าที่ดูแลปัจจัยความจำเป็นพื้นฐานของประชาชน และการเสริมสร้างระบบสหกรณ์ให้มีความอิสระและเข้มแข็ง
ทั้งนี้พรรคสังคมธิปไตยจะมีการรับรอง ส่งเสริม และพัฒนาสิทธิมนุษยชนของประชาชนในทุกด้าน รวมถึงการพัฒนาสิทธิแรงงานให้อยู่ในระดับไม่ด้อยกว่ามาตรฐานสากลตามอนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ร่วมกับการส่งเสริมความรับผิดชอบและผลประโยชน์ร่วมในสังคม รวมทั้งการส่งเสริมการรวมตัวจัดตั้งและความเข้มแข็งขององค์กรและขบวนการของแรงงาน/คนทำงาน และประชาสังคมหลากหลายประเภท เช่น สหภาพแรงงาน สหกรณ์ และ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรวิชาชีพ องค์กรชุมชน องค์กรของนักศึกษาและเยาวชน และ การทำงานร่วมกันขององค์กรและขบวนการดังกล่าว เน้นให้เกิดการอยู่ร่วมกันแบบหลากหลายวัฒนธรรมและการมีวัฒนธรรมร่วมกัน การสร้างความเป็นปึกแผ่นร่วมกันของพหุสังคมสยาม การประสานพลังประชาสังคม และขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมใหม่ ๆ ในการร่วมกันพัฒนาและสร้างสรรค์ประเทศชาติสร้างสรรค์แรงงานสัมพันธ์ตามแนวประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมตัดสินใจระหว่างฝ่ายแรงงานกับผู้ประกอบการ และองค์กรของทั้งสองฝ่าย บนพื้นฐานการสนับสนุนอย่างสร้างสรรค์จากรัฐ รวมทั้งการเสริมสร้างสถานประกอบการที่แรงงานเป็นเจ้าของกิจการ
พรรคสังคมธิปไตยมุ่งสร้างสังคมที่มีการยึดมั่นต่อแก่นหรือหลักการสำคัญของศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการทำงานที่อุทิศตน ลดความละโมบโลภมากในการประกอบอาชีพ และการเสียสละเพื่อส่วนรวม และหลักการธรรมิกสังคมนิยมและทางสายกลาง อันนำไปสู่เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ได้ดุลยภาพในแนวพหุภาคีและทวิภาคีเพื่อการจัดการผลประโยชน์ร่วมในระดับสากล ภูมิภาค และ ระหว่างประเทศที่เป็นธรรมและเสมอภาคต่อกัน
นอกจากนี้ยังได้อธิบายความหมายของเครื่องหมายของพรรคด้วยว่า ภาพเครื่องหมายของพรรคเป็นรูปผู้คนจับมือล้อมกันเป็นวงกลมภายใต้วงล้อสีฟ้าที่มีข้อความชื่อพรรคสังคมธิปไตย ภายในวงล้อมีแกนก้านล้อแปดแกนยึดไว้ด้วยดุมล้อสีเหลืองทองที่มีรูปดอกกุหลาบแดงห้าดอกล้อมรอบ รูปการจับมือกันเป็นวงกลมของผู้คนแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจและการประสานกันของพลังสังคมประชาธิปไตยต่างๆ ในสังคมไทยและในสากล รูปวงล้อสีฟ้าแสดงถึงการที่พรรคขับเคลื่อนประวัติศาสตร์สังคมเพื่อการก้าวไปข้างหน้าและการยกระดับอารยะธรรมของมนุษยชาติให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนคู่กับโลก รูปดุมล้อและแกนก้านล้อสีเหลืองทองแสดงถึงคุณค่าที่แท้จริงดั่งทองคำ และการส่งประกายเรืองรองของพรรคในการสร้างสรรค์การเมืองแบบสังคมประชาธิปไตย รูปดอกกุหลาบแดงประกอบใบ สีเขียวรอบดุมล้อแสดงถึงความรัก ความปรารถนาดี ความมีชีวิตชีวา ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และ ความมีเสน่ห์ของพรรคในสายตาของผู้พบเห็น
พรรคสังคมธิปไตยเป็นพรรคที่ดูจะมีความกระตือรือร้นทางการเมืองอย่างมาก โดยในเวบไซต์ของพรรคมีระบบสื่อสารหลายทาง (interaction) ไว้ให้ผู้สนใจสามารถเสนอแนะ ติชม แนวนบายของพรรค ทั้งยังมีการเผยแพร่แผ่นพับให้ข้อมูลของพรรคอย่างเป็นระบบ จึงเป็นพรรคการเมืองที่น่าจับตามอง แม้ในระยะเริ่มต้นนี้จะมีสมาชิกพรรคเพียง 9 คนเท่านั้น
ที่มา
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษ 32ง (13 กุมภาพันธ์ 2551), น. 38 – 84
พรรคสังคมธิปไตย. http://www.thai-social-democracy.org/