สร้างสรรค์ไทย (พ.ศ. 2545)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคสร้างสรรค์ไทย
พรรคสร้างสรรค์ไทย ใช้อักษรย่อเป็นภาษาไทยว่า “สสท.” เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “THAI CREATION PARTY” ใช้อักษรย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “TCAP.” ขึ้นทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเลขที่ 7/2545 ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2545[1]
โดยมีเครื่องหมายของพรรคสร้างสรรค์ไทยประกอบด้วย[2]
1. แผนที่ประเทศไทยสีแดง หมายถึง ชาติไทย
2. ขอบสีน้ำเงิน หมายถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งผดุงชาติไทยให้ดำรงอยู่ได้จนทุกวันนี้
3. พื้นสีขาว หมายถึง ศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจของชนชาวไทย
4. ภาพประสานมือ หมายถึง ความร่วมมือของชนชาติไทยทุกหมู่เหล่าร่วมกันสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศ ตรายางพรรคสร้างสรรค์ไทยใช้ภาพเครื่องหมายในลักษณะเดียวกัน หากแต่ใช้สีเดียว [3]
ที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคสร้างสรรค์ไทย ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 130/9 ตำบลบางกรวย อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130[4]
นโยบายพรรคสร้างสรรค์ไทย พ.ศ. 2545[5]
อุดมการณ์
“พรรคสร้างสรรค์ไทย” ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค คือ “รักไทยร่วมสร้างสรรค์ไทย” พรรคจะร่วมกับพี่น้องประชาชน พรรคการเมือง กลุ่มการเมืองและองค์กรต่างๆดำเนินการทั้งปวง เพื่อไปสู่อุดมการณ์ให้สำเร็จ
ปณิธาน
“รักไทยต้องสร้างสรรค์ประเทศไทย ทั้งกายใจชีวิตและทรัพย์สิน
รวมพลังสร้างชาติและแผ่นดิน ลูกหลานกินอยู่ดีตลอดกาล”
นโยบาย
1. นโยบายด้านการเมืองการปกครอง
1) นโยบายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ พรรคจะยกย่องให้สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นที่เคารพสักการะสูงสุด เป็นเอกลักษณ์ของชาติ และเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของชนในชาติ
2) นโยบายเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคจะสร้างระบบการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนปกป้องผลประโยชน์ของทุกคน
3) นโยบายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน จะปรับปรุงระบบบริหารให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคม และรับใช้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น
4) นโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ส่งเสริมให้มีการมอบอำนาจจากส่วนกลางสู่ภูมิภาคในการตัดสินใจในการบริหารงบประมาณและกิจการอื่นๆ
2. นโยบายด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มุ่งสร้างสันติภาพและพยายามแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และจะกระชับความสัมพันธ์กับนานาประเทศเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน บนหลักการของความเสมอภาค
3. นโยบายด้านสังคม ศาสนา และวัฒนธรรม มุ่งคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จะขจัดปัญหายาเสพย์ติดอย่างจริงจัง ส่งเสริมให้มีการนำหลักศีลธรรมคำสอนของศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิต และบำรุงศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติ
4. นโยบายด้านการพัฒนา มุ่งมั่นพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพ คุณธรรม มีระเบียบวินัย และจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และมุ่งปรับปรุงระบบการศึกษาทุกระดับทุกสาขา
5. นโยบายด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งเสริมการวิจัย การพัฒนา และถ่ายทอดด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาการทั้งปวงที่จะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ จะพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนในชนบทให้ก้าวหน้าทัดเทียมส่วนกลาง และจะนำประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
6. นโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างความสมดุลระหว่างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความเป็นธรรมในการกระจายรายได้เพื่อให้ผลพวงของการพัฒนาเศรษฐกิจอยู่ที่ประชาชนอย่างแท้จริง และปรับปรุงและรักษาความสมดุลของสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิต
พรรคสร้างสรรค์ไทยไม่เคยมีส่วนร่วมทางการเมืองเรื่องการเลือกตั้ง แต่เคยได้รับเงินบริจาคจำนวน 15,000 บาท[6] เพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง
จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 11/2545 ลงวันที่ 19 กันยายน 2545 ให้ยุบพรรคสร้างสรรค์ไทยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 65 วรรคสอง เนื่องจากพรรคสร้างสรรค์ไทยมีมติยุบพรรคตามข้อบังคับพรรคสร้างสรรค์ไทย พ.ศ. 2545 ข้อ 107 ที่กำหนดว่าให้หัวหน้าพรรคมีอำนาจเรียกกรรมการบริหารพรรคที่มาประชุมเพื่อลงมติ การลงมติให้ถือเสียงข้างมากของกรรมการบริหารพรรคที่มาประชุม ซึ่งในวันดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคสร้างสรรค์ไทย เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคมีภารกิจงานส่วนตัวที่จะต้องดำเนินการจำนวนมาก ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเสียสละในการดำเนินกิจการทางการเมืองต่อไปได้ จึงประสงค์จะขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคสร้างสรรค์ไทย และกรรมการบริหารบางคนประสงค์จะไปประกอบกิจการในต่างประเทศเป็นระยะเวลาติดต่อกันยาวนาน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องของหัวหน้าพรรคสร้างสรรค์ไทยซึ่งไม่โต้แย้งหรือคัดค้านคำร้องของนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงมีมติให้ยุบพรรคสร้างสรรค์ไทย [7]
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนพิเศษ 49 ง, วันที่ 5 มิถุนายน 2545, หน้า 177, 185.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนพิเศษ 49 ง, วันที่ 5 มิถุนายน 2545, หน้า 186.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนพิเศษ 49 ง, วันที่ 5 มิถุนายน 2545, หน้า 186.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนพิเศษ 49 ง, วันที่ 5 มิถุนายน 2545, หน้า 186.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนพิเศษ 49 ง, วันที่ 5 มิถุนายน 2545, หน้า 177-184.
- ↑ เว็บไซต์ข่าวสด, 16 พฤศจิกายน 2545.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 119 ตอนที่ 108 ง, 2 พฤศจิกายน 2545, หน้า 9. และราชกิจจานุเบกษา เล่ม 120 ตอนที่ 70 ก, 21 กรกฎาคม 2546, หน้า 1-3.