สงเคราะห์อาชีพและการกุศล (พ.ศ. 2498)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล (2498)
ข้อมูลพื้นฐาของพรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล
พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล เป็นพรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2498 โดยได้จดทะเบียนต่อสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2498 ทะเบียนเลขที่ 8/2498 หัวหน้าพรรคการเมืองคือ หม่อมราชวงศ์ อภินพ นวรัตน และเลขาธิการพรรคคือ นางสาววัฒนา ศรีเงิน พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศลมีอุดมคติของพรรคว่า “ศาสนาเท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนมีความสงบสุข”
นโยบายของพรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล
นโยบายทั่วไปของพรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล ตั้งอยู่บนหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ และมีศาสนาเป็นหลักครองจิตใจประชาชนให้รู้จักปฏิบัติตนให้เป็นที่พึ่งของตนและบุคคลอื่น เพื่อช่วยให้การปกครองโดยประชาชนมีผลจริงจังยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นแนวทางการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันทุกวิถีทางเพื่อการครองชีพอยู่ดีกินดีโดยให้เดือดร้อนถึงรัฐบาลน้อยที่สุด สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การส่งเสริมการศึกษา ความสามัคคี ศีลธรรม วัฒนธรรม และการกุศลให้แก่ประชาชนยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
นโยบายด้านการปกครอง พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล มีแนวทางการปกครองโดยเทิดทูนพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด เพื่อเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย ในการดำเนินการทางการเมือง พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศลจะรักษาและดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยโดยเคร่งครัด และจะยึดมั่นในการฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีการติดต่อกับหนังสือพิมพ์ จะส่งเสริมกิจการของเทศบาล มุ่งจัดให้ระเบียบเรียบร้อย ไม่มีการแก่งแย่งอำนาจอันจะนำมาซึ่งผลดีอยู่เสมอ อีกทั้งจะให้มีบริการสาธารณะเพิ่มมากขึ้นจนพอแก่ความต้องการของประชาชน และจะส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลโดยเฉพาะตำรวจ มีศีลธรรมวัฒนธรรมเป็นที่นิยมรักใคร่นับถือแก่ประชาชนยิ่ง ๆ ขึ้น
นโยบายด้านเศรษฐกิจการคลัง พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล จะจัดระบบภาษีให้เป็นธรรมแก่ประชาชนโดยทั่วถึงกัน จะคำนึงถึงความรักประเทศชาติด้วยการเสียสละ จะไม่ให้มีการเก็บภาษีซ้อนหรือเพิ่มภาระในการเสียภาษาโดยไม่จำเป็น จะรักษาเสถียรภาพเงินตราของประเทศตามหลักเศรษฐกิจของโลกนิยม การใช้จ่ายของรัฐในทางประหยัดที่สุด จะส่งเสริมจัดตั้งองค์การและธนาคารให้ดำเนินการไปด้วยความมั่นคง มีคนไทยได้มีส่วนในกิจการการค้าทั้งในและต่างประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปสหกรณ์หรือบริษัทจำกัด ซึ่งประชาชนมีส่วนเป็นเจ้าของโดยแท้จริง จะจัดระบบตลาดและการผลิตสินค้าภายในประเทศให้มีระเบียบคุณภาพและปริมาณดียิ่งขึ้น
พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศลจะมุ่งจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องทีดิน โดยจะพยายามให้ประชาชนมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันจัดสรรที่ดินที่อยู่ที่ทำมาหากินกันเองโดยรัฐไม่ต้องเกี่ยวข้อง สำหรับนโยบายในด้านการส่งเสริมอาชีพ จะมีการส่งเสริมอาชีพทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกรรมกร ชาวนาหรือลูกจ้างแรงงานประเภทใด ๆ โดยจะพยายามให้มีการเสียสละช่วยเหลือเพื่อสงเคราะห์ซึ่งกันและกันตามฐานานุรูปของทุกครอบครัวเท่าที่จะเป็นไปได้
นโยบายด้านการต่างประเทศ พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล จะรักษาสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศโดยไม่จำกัด ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขของประชาชนและสันติของโลก โดยเฉพาะระหว่างนี้จะส่งเสริมกิจการของสหประชาชาติเท่าที่จะพึงกระทำได้
นโยบายด้านการศึกษา พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล ต้องการให้การศึกษาได้ดำเนินควบคู่กันไปกับศาสนาโดยตลอดไป โดยจะจัดให้มีครูเพียงพอกับจำนวนนักเรียน จะจัดให้มีสถานที่ศึกษาที่เหมาะสมเพียงพอและกุลบุตรธิดา
นโยบายด้านการทหาร พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล จะส่งเสริมให้กิจการทหารของประเทศมีความเข้มแข็งทันสมัย เป็นที่อบอุ่นใจของประชาชนยิ่งขึ้นโดยเต็มความสามารถ
นโยบายด้านการรักษาความสงบภายในประเทศ พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล ต้องการให้ประชาชนเข้าใจในเจตนาอันบริสุทธิ์ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกแผนก ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะจัดให้มีสมรรถภาพ ศีลธรรม วัฒนธรรม และยึดมั่นในอุดมคติที่ว่า “จะเอาความดีชนะประชาชน”
นโยบายด้านการสาธารณสุข พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล จะพยายามให้ประชาชนรู้จักความสะอาด ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามคำแนะนำของนายแพทย์ ให้มีพลานามัยแข็งแรง อยู่ดีกินดี ปราศจากโรคภัย จัดระบบโสเภณี ไม่ให้เป็นภัยแก่สังคมและให้ลดจำนวนน้อยลงเท่าที่จะทำได้ โดยใช้หลัก “ป้องกันดีกว่ารักษาพยาบาล” หรือ “กันดีกว่าแก้”
นโยบายด้านการราชทัณฑ์ของประเทศ พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล จะถือเอากิจการราชทัณฑ์ของประเทศเป็นหลักในการปราบโจรผู้ร้าย จะพยายามปรับปรุงกิจการอบรมจิตใจให้ถูกทาง และจิตวิทยาจะให้มีการฝึกอาชีพอย่างจริงจัง จะพยายาให้อาชญากรทุกคนได้พึงสำนึกถึงผลที่ตนต้องเสียหายจากการต้องเสียเวลาอันมีค่าของตนและครอบครัว ในการจะสร้างเกียรติสร้างชื่อเสียงและสร้างตัวเพื่ออนาครไปอย่างน่าเสียดายยิ่งกว่าจะยอมตนให้เข้าไปอยู่ในที่คุมขัง จะเปิดนิคมอบรมเป็นการแสดงผลอย่างจริงจัง ให้มีการรับประกาศนียบัตร มีสิทธิพิเศษในการได้เข้าทำงานก่อนบุคคลอื่นอย่างแท้จริง เป็นการให้เกียรติแก่ผู้ที่จะกลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติสืบไปด้วย
พรรคสงเคราะห์อาชีพและการกุศล ถือเป็นหนึ่งในพรรคขนาดเล็กในจำนวนมาก ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2498 และพยายามเสนอนโยบายของต่อตนประชาชนในการส่งผู้สมัครของพรรคลงแข่งขันรับเลือกตั้ง แต่ผลการเลือกตั้งในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ปรากฏว่าผู้สมัครจากบรรดาพรรคขนาดเล็กเหล่านี้ไม่ได้รับการเลือกตั้งแม้แต่คนเดียว กล่าวคือ ในจำนวนพรรคการเมือง 20 กว่าพรรคนั้น มีเพียง 8 พรรคเท่านั้นที่สมาชิกของพรรคได้รับเลือกตั้ง ได้แก่ พรรคเสรีมนังคศิลา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเสรีประชาธิปไตย พรรคธรรมาธิปัตย์ พรรคเศรษฐกร พรรคชาตินิยม พรรคขบวนการไฮด์ปาร์ค พรรคอิสระ และไม่สังกัดพรรค
ที่มา
ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 72 ตอนที่ 98 ลงวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2498 หน้า 3178-3182
สมุทร สุรักขกะ, 26 การปฏิวัติไทยและรัฐประหาร สมัย 2489 ถึง 2507, พระนคร: โรงพิมพ์สื่อการพิมพ์, 2507
ขจัดภัย บุรุษพัฒน์, การเมืองและพรรคการเมืองไทยนับแต่ยุคแรกถึงปัจจุบัน, พระนคร: สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, 2511