เกษตรก้าวหน้า (พ.ศ. 2543)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:16, 10 มิถุนายน 2553 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต



พรรคเกษตรก้าวหน้า

พรรคเกษตรก้าวหน้าได้รับการจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 [1] โดยมีนางนุจรินทร์ โคตรธรรม เป็นหัวหน้าพรรคต่อมานางนุจรินทร์ โคตรธรรม ได้ลาออกจาการเป็นหัวหน้าพรรคเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2547 เป็นผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ [2] สุดท้ายเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2547 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคเกษตรก้าวหน้าตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 เนื่องจากพรรคเกษตรก้าวหน้าจัดทำรายการการใช้จ่ายเงินสนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปี พ.ศ. 2545 ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง [3]

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 พรรคเกษตรก้าวหน้ามิได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อแม้แต่ผู้เดียว ในส่วนของแบบแบ่งเขตนั้นได้มีผู้ลงสมัครในนามของพรรคจำนวนหนึ่งคน แต่ต่อมาได้ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิเนื่องจากเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ [4]


นโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ [5]


ด้านการบริหารจัดการ

1.ปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมโดยประชาชนเป็นผู้กำหนด

2.ส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองโดยลดอำนาจของส่วนกลางแล้วขยายอำนาจนั้นไปสู่ท้องถิ่น

3.ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มองค์กรต่างๆเช่น กลุ่มอาชีพ องค์กรคนเมือง องค์กรชุมชนแออัด

4.ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนในการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ

5.ปรับปรุงระบบงานราชการให้เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด

6.ตัดทอนกระทรวงที่มีอำนาจมากและเลื่อนฐานะกรมให้เป็นกระทรวง

7.ส่งเสริมการผลิต ค้นคว้า วิจัยผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธยุทโธปกรณ์ในประเทศ


ด้านเศรษฐกิจ

1.ปรับปรุง ยกเลิก แก้ไขกิจการที่ล้าหลังของรัฐวิสาหกิจและของเอกชน

2.ปรับปรุงทัศนคติของเอกชนให้มีการผลิตเพื่อรับใช้ประชาชนและดำเนินการแปรรูปโครงสร้างกิจการให้เป็นบริษัทมหาชนเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการถือหุ้นและตรวจสอบการดำเนินกิจการ

3.ตั้งกองทุนส่งเสริมการผลิตโดยปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาห้าปี

4.ปลดเปลื้องหนี้สินและจัดหาที่ดินทำกินให้เกษตรกร

5.ให้ความสำคัญกับการผลิตและส่งออกเป็นหลักขณะเดียวกันก็เน้นการผลิตเพื่อยังชีพเป็นหลักด้วยเช่นกัน

6.ส่งเสริมธนาคารหมู่บ้าน

7.ส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์การตลาด สหกรณ์การค้าในทุกหมู่บ้าน

8.จัดหาผู้เชี่ยวชาญในทุกด้านที่เกี่ยวของกับการเกษตรให้แก่เกษตรกร

9.ห้ามนำเข้าสินค้าทางด้านการเกษตรจากต่างประเทศเป็นระยะเวลาห้าปียกเว้นที่ในประเทศไม่มี


ด้านสังคม

1.ยกเลิกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมและกฎระเบียบที่ลิดรอนเสรีภาพของประชาชน

2.ปฏิเสธวัฒนธรรมต่างชาติที่บ่อนทำลายประเพณี วัฒนธรรม การดำรงชีวิตของชาวไทย

3.มุ่งให้ประชาชนทุกคนมีงานทำ มีรายได้อย่างต่อเนื่อง มีเวลาพักผ่อน มีเครื่องนุ่งห่ม ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ

4.ประชาชนมีสิทธิในการจัดตั้งหน่วยป้องกันคุ้มครองตัวเอง

5.ไม่มีข้อจำกัดในการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อทุกประเภท

6.ให้ความสำคัญกับผู้ต้องหาทั้งขณะอยู่ระหว่างการสอบสวนไปจนถึงเมื่อถูกดำเนินคดี


ด้านการต่างประเทศ

1.สร้างมิตรภาพกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศด้อยพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก

2.ช่วยเหลือประเทศที่ล้าหลัง

3.สร้างการรวมกลุ่มประเทศเกษตรกรรมขึ้นทั่วโลก

4.จัดตั้งทูตเกษตรกร ทูตการศึกษา ทูตแรงงาน

5.จัดตั้งกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ


อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 25ง หน้า 15
  2. พ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับพรรคเกษตรก้าวหน้า พ.ศ. 2543 ข้อ29 (9)
  3. คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2547 เรื่องให้ยุบพรรคเกษตรก้าวหน้า วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
  4. สยามจดหมายเหตุ ปีที่ 25 ฉบับที่ 49 หน้า 1361
  5. สรุปความจากราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 25ง หน้า 15-60