ขบวนการสหพันธ์รัฐสากลนิยม (พ.ศ. 2500)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:47, 7 มิถุนายน 2553 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าใหม่: '''พรรคขบวนการสหพันธ์รัฐสากลนิยม''' พรรคขบวนการสหพันธ์รั...)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

พรรคขบวนการสหพันธ์รัฐสากลนิยม

พรรคขบวนการสหพันธ์รัฐสากลนิยมเป็นพรรคที่เปลี่ยนชื่อมาจากพรรคขบวนการคนใจบุญซึ่งได้รับการจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่19 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 [1] โดยผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคยังคงเป็นบุคคลเดิมคือนายจารุกข์ เรืองสุวรรณ และนายบุญ ศราภัย ตามลำดับ

ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคนั้นในช่วงดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีการได้มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแต่อย่างใดเนื่องจากหลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนชื่อพรรคมาได้ไม่นานจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ก็ได้กระทำการยึดอำนาจทางการเมืองในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 ซึ่งการยึดอำนาจดังกล่าวก็มีผลทำให้ต้องยกเลิกการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเนื่องจากคำประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 8 ที่ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญ ยกเลิกพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ.2498 และห้ามชุมนุมทางการเมือง

แนวนโยบายที่สำคัญของพรรคขบวนการสหพันธ์รัฐสากลนิยมนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับพรรคขบวนการคนใจบุญคือ [2]


ด้านการบริหารจัดการ

1.ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต่อต้านลัทธิเผด็จการทุกๆลัทธิ

2.ส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยคนในท้องถิ่นเอง

3.แก้ไขปรับปรุงภาษีอากรให้เป็นธรรม

4.สัญญาหรือข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

5.ดำเนินการทุกวิถีทางให้การดำเนินการของฝ่ายตุลาการเป็นไปอย่างอิสระ


ด้านเศรษฐกิจและสังคม

1.ดำเนินการจัดตั้งสถาบันการเศรษฐกิจแห่งชาติ

2.ส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎรโดยยึดวิธีสหกรณ์เป็นหลัก

3.ส่งเสริมให้ราษฎรได้มีและรู้จักใช้เครื่องมือทุ่นแรงทางการเกษตร

4.ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อจะให้ราษฎรมีฐานะดีขึ้นและให้กสิกร กรรมกรหลุดพ้นจากหนี้สิน

5.ส่งเสริมอุตสาหกรรมหนักให้มีการลงทุนทั่วประเทศ

6.ปรับปรุงค่าเงินตราให้มีเสถียรภาพ

7.ปรับปรุงรักษาความสงบภายในโดยยึดหลักป้องกันก่อนปราบปราม

8.กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปยังพื้นที่ต่างๆให้ได้สัดส่วนกับจำนวนประชากร

9.ขยายการศึกษาออกไปสู่ส่วนภูมิภาคเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ราษฎร

10.จัดตั้งโรงงานเภสัชกรรม


ด้านการต่างประเทศ

1.สร้างสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศบนพื้นฐานของความเสมอภาคเท่าเทียมกัน

2.มุ่งส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพถาวร

แต่กระนั้นก็มีสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ

1.มุ่งให้ทุกคนยึดถือหลักประจำใจคือ เสียสละ ยุติธรรม ซื่อสัตย์สุจริต เมตตากรุณา ขยันหมั่นเพียร

2.ก่อตั้งสหพันธ์สมาคมทางศาสนาทุกศาสนา สงเคราะห์ ช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ประชาชนทั่วไปยามเจ็บป่วย คลอดบุตร สมรส ชรา ทุพพลภาพ ตาย ประสบภัยธรรมชาติ

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 75 ตอนที่ 61 หน้า 2191-2192
  2. สรุปความจากราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 74 ตอนที่ 66 หน้า 1901-1904