ไม่มีการยุบพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักรและการยุบพรรคการเมืองในฝรั่งเศส

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:32, 19 ธันวาคม 2568 โดย Adminkpi (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าด้วย "'''เรียบเรียง :  ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร''' '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร''' ----'''ไม่มีการยุบพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักรและการยุบพรรค...")
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

เรียบเรียง :  ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ไม่มีการยุบพรรคการเมืองในสหราชอาณาจักรและการยุบพรรคการเมืองในฝรั่งเศส          

ในกรณีของสหราชอาณาจักร  เหตุผลที่ไม่มีการยุบพรรค คือ ก่อนหน้า พ.ศ. 2541 สหราชอาณาจักรยังไม่มีกฎหมายจดทะเบียนพรรคการเมือง สหราชอาณาจักรเริ่มมีพระราชบัญญัติการจดทะเบียนพรรคการเมืองครั้งแรก คือ  Registration of Political Parties Act 1998  ( พ.ศ. 2541) และ  Parliament Acts, Political Parties, Elections and Referendums Act 2000 (พ.ศ. 2543) [1]ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครต้องลงสมัครรับเลือกตั้งภายใต้พรรคการเมือง การลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจึงกระทำต่อตัวบุคคลตามกฎหมาย the Corrupt and Illegal  Practices Act 1883 [2] ในประเทศที่ไม่ได้กำหนดให้ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคและลงสมัครภายใต้พรรคการเมืองจึงมักจะไม่มีบทลงโทษยุบพรรคการเมือง ยกเว้นที่กำหนดไว้บทบัญญัติตามกติกา “การห้ามพรรคการเมืองกระทำการบางอย่าง และ การยุบพรรคการเมือง" การยุบพรรคการเมืองไม่ใช่เป็นสิ่งต้องห้าม การยุบพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่กระทำได้ตามที่ปรากฏใน แนวทางด้านการห้ามและการยุบพรรคการเมือง คณะกรรมาธิการเวนิสแห่งสภายุโรป  [3] โดยกำหนดแนวทางไว้ว่า รัฐควรตระหนักว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการรวมตัวอย่างเสรีในพรรคการเมือง สิทธินี้จะรวมถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองและการรับและถ่ายทอดข้อมูลโดยไม่มีการแทรกแซงจากหน่วยงานรัฐไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม และการกำหนดให้พรรคการเมืองต้องลงทะเบียนไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธินี้ ข้อจำกัดใด ๆ ในการใช้สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่กล่าวไปนี้ผ่านกิจกรรมของพรรคการเมืองจะต้องไม่ขัดกับบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของอนุสัญญายุโรปเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสนธิสัญญาระหว่างประเทศอื่น ๆ ทั้งในเวลาปกติและในกรณีที่เป็นสภาวะฉุกเฉินของรัฐ การห้าม หรือ บังคับยุบพรรคการเมือง จะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่พรรคการเมืองสนับสนุนการใช้ความรุนแรงหรือใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อโค่นล้มคำสั่งตามรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย อันจะบ่อนทำลายสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ ข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียวที่ว่าพรรคที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญโดยสันติไม่ควรจะมีน้ำหนักเพียงพอสำหรับการห้ามหรือการยุบพรรค พรรคการเมืองโดยรวมไม่สามารถรับผิดชอบต่อพฤติกรรมส่วนบุคคลของสมาชิกที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคภายในกรอบกิจกรรมทางการเมืองทั้งในสาธารณะและในพรรค การห้าม หรือ ยุบพรรคการเมือง ซึ่งเป็นมาตรการที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ควรใช้ด้วยความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด ก่อนที่จะขอให้องค์กรตุลาการที่มีอำนาจสั่งห้ามหรือยุบพรรค รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ควรประเมินโดยคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศที่เกี่ยวข้องว่าพรรคดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายต่อระเบียบทางการเมืองที่เสรีและเป็นประชาธิปไตยหรือต่อสิทธิของพรรคการเมืองนั้นหรือไม่ และมีมาตรการอื่นๆที่รุนแรงน้อยกว่าที่สามารถป้องกันอันตรายดังกล่าวโดยไม่ต้องยุบพรรคหรือไม่  มาตรการทางกฎหมายที่มุ่งห้าม หรือ ยุบพรรคการเมืองโดยบังคับตามกฎหมายจะเป็นผลมาจากการพิจารณาของศาลว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และจะถือว่ามีลักษณะพิเศษและอยู่ภายใต้หลักการของการลงโทษตามสัดส่วน มาตรการดังกล่าวจะต้องอยู่บนพื้นฐานหลักฐานที่เพียงพอว่าพรรคเองและไม่ใช่เพียงสมาชิกรายบุคคลเท่านั้นที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ทางการเมืองโดยใช้หรือเตรียมที่จะใช้วิธีการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ การห้าม หรือ การยุบพรรคการเมือง ควรได้รับการตัดสินใจโดยศาลรัฐธรรมนูญ หรือ องค์กรตุลาการที่เหมาะสมอื่นๆ ตามขั้นตอนที่ให้หลักประกันกระบวนการทางกฎหมาย ความเปิดเผย และการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม [4]                                                                   

การยุบพรรคการเมืองในฝรั่งเศส [5]

ในฝรั่งเศส พรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง ไม่ได้ต้องจดทะเบียนพรรคการเมือง แต่ต้องจดทะเบียนสมาคม (association) ตามกฎหมายเกี่ยวกับสมาคม (la loi du 1er juillet 1901) [6]  หากพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองละเมิดมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญหรือมาตรา 3 ของกฎหมายเกี่ยวกับสมาคม (la loi du 1er juillet 1901) พรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองนั้นจะถูกยุบได้ มาตรา 4 รัฐธรรมนูญฝรั่งเศส: ให้พรรคการเมืองและกลุ่มทางการเมืองต่างๆ มีสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้งได้ โดยมีการรวมตัวกันและดำเนินกิจกรรมได้อย่างเสรี ทั้งนี้ ต้องเป็นไปโดยเคารพต่อหลักอำนาจ อธิปไตยของชาติและหลักประชาธิปไตย พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองจะต้องสนับสนุนการดำเนินการตามหลักการที่กำหนดไว้ในวรรคสองของมาตรา 1 ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย กฎหมาย (พระราชบัญญัติ) ต่างๆให้หลักประกันการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่หลากหลายและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ ในชีวิตอย่างประชาธิปไตยของชาติ [7]  วรรคสองของมาตรา 1 มีข้อความดังนี้: กฎหมาย (พระราชบัญญัติ) ต่างๆ จะส่งเสริมการเข้าถึงตำแหน่งต่างๆและตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนตำแหน่งทางวิชาชีพและทางสังคมของสตรีและบุรุษ [8]  มาตรา 3 ของกฎหมายเกี่ยวกับสมาคม (la loi du 1er juillet 1901) : “สมาคมใดๆ ที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หรือมุ่งหวังที่จะกระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อบ่อนทำลายบูรณภาพของดินแดนแห่งชาติและรูปแบบการปกครองแบบสาธารณรัฐ สมาคมดังกล่าวถือเป็นโมฆะ” [9]       ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายของฝรั่งเศส กำหนดให้อำนาจในการยุบพรรคการเมืองในฝรั่งเศสอยู่ที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ   ฝ่ายบริหาร อันได้แก่ รัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชนผ่านการเลือกตั้ง       ฝ่ายตุลาการ ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนผ่านการเลือกตั้ง อันได้แก่ ศาล (ทริบูนาล จูดิซีแยร์- tribunal judiciaire)  ในกรณีที่ฝ่ายบริหารเป็นผู้ใช้อำนาจยุบพรรคการเมือง จุดเริ่มต้นอยู่ที่การพิจารณาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย (มินิสตร์ ดังเตรีเยอร์ - ministre d’Intérieur) และส่งเรื่องต่อไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ถ้าเห็นพ้องก็จะส่งต่อไปยังสำนักประธานาธิบดีเพื่อพิจารณา หลังจากที่ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย (ministre d’Intérieur)    ได้มีมติให้ยุบพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี “กงไซย์ เด มินิสตร์” (Conseil des ministers/council of ministers) จะมีการออก “เดเคร” (décret/decree) ตาม มาตรา L212-1 ของกฎหมายความมั่นคง (Internal Security Code) และกฎหมายว่าด้วยกองกำลังกึ่งทหารทางการเมือง (La Milice)  [10]  มาตรา L212-1 และ กฎหมายว่าด้วยกองกำลังกึ่งทหารทางการเมือง กำหนดไว้ดังนี้

สมาคมหรือกลุ่มโดยพฤตินัยทั้งหมดจะถูกยุบโดยคำสั่งของคณะรัฐมนตรี:                                    

1 ผู้ที่ยุยงปลุกปั่นการชุมนุมด้วยอาวุธหรือการกระทำรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน                     

2 หรือผู้ที่แสดงออกถึงลักษณะเฉพาะของกลุ่มรบหรือกองกำลังทหารเอกชนโดยรูปแบบและองค์กรทางทหาร                                                                                                             

3 หรือผู้ที่มีวัตถุประสงค์หรือการกระทำที่มีแนวโน้มที่จะบ่อนทำลายบูรณภาพแห่งดินแดนแห่งชาติ หรือโจมตีรูปแบบการปกครองแบบสาธารณรัฐโดยใช้กำลัง                                           

4 หรือผู้ที่กระทำการที่มีแนวโน้มที่จะขัดขวางมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูความถูกต้องตามกฎหมายของสาธารณรัฐ                                                                                                      

5 หรือผู้ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมบุคคลที่เคยถูกตัดสินว่าร่วมมือกับศัตรู หรือเพื่อยกย่องความร่วมมือนี้                                                                                                                   

6 หรือผู้ที่กระทำการยั่วยุหรือมีส่วนในการกระทำของตนให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ความเกลียดชัง หรือความรุนแรงต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อันเนื่องมาจากถิ่นกำเนิด เพศ รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ หรือการเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ ชาติ เชื้อชาติ หรือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง ทั้งที่จริงหรือโดยสันนิษฐาน หรือเผยแพร่แนวคิดหรือทฤษฎีที่มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนหรือส่งเสริมการเลือกปฏิบัติ ความเกลียดชัง หรือความรุนแรงดังกล่าว                                                     

7 หรือผู้ที่กระทำการใดๆ บนดินแดนฝรั่งเศสหรือจากดินแดนนี้ เพื่อยั่วยุให้เกิดการก่อการร้ายในฝรั่งเศสหรือในต่างประเทศ  [11]            

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5  มีกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองถูกยุบ รวมกันเกือบ 100 กลุ่ม/พรรค  และกรณีล่าสุด คือ                              

1.พรรคเล็กขวาจัด ชื่อ Civitas “ซีวีตัส” มีแนวทางเน้นศาสนา, ต่อต้านชาวยิว (anti-semistism) และต่อต้านการสมรสเท่าเทียม ถูกยุบเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2023 โดยรัฐบาล                     2. กลุ่มการเมืองขวาจัด ใช้ความรุนแรง ชื่อ Les Remparts “เล ร็องปาร์” อยู่ที่เมือง Lyon “ลียง” ทางตอนใต้ มีแนวทางในการต่อต้านผู้อพยพ (immigrant) และเกลียดชาวต่างชาติ (Xenophobia) ถูกยุบเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2024 โดยรัฐบาล [12]   กระบวนการที่นำไปสู่การยุบพรรคหรือกลุ่มการเมืองโดยการเริ่มต้นของรัฐมนตรีความมั่นคงจะมีความรวดเร็วกว่ากระบวนการที่ผ่านการฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งจะไปเป็นตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมที่มีการฟ้อง ไต่สวนมูลฟ้อง สืบพยาน และการอุทธรณ์   ในกรณีการยุบพรรคหรือกลุ่มการเมืองในฝรั่งเศส จะพบว่า ผู้มีอำนาจในการสั่งยุบมีทั้งที่ยึดโยงกับประชาชนผ่านการเลือกตั้ง อันได้แก่ รัฐบาล และที่ไม่ได้ยึดโยงผ่านการเลือกตั้ง อันได้แก่ ศาล ผู้เขียนเห็นว่า หากนำตัวแบบที่ยึดโยงกับประชาชนมาใช้ในประเทศไทย โดยกำหนดให้รัฐมนตรีความมั่นคง นายกรัฐมนตรีที่เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งและมีฝักฝ่ายทางการเมืองมีอำนาจในการสั่งยุบพรรคการเมืองจะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรงมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน กระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญของไทยมีลักษณะที่ผสมผสานกัน นั่นคือ ห้ามมิให้บุคคลที่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ผู้สมัครจะต้องผ่านการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหาที่ประกอบไปด้วยประธานศาลต่างๆ และตัวแทนจากองค์กรอิสระ และได้รับเห็นชอบจากเสียงข้างมากของวุฒิสภาที่มาจากการเลือกกันเองของประชาชนในสายอาชีพต่างๆ             

จากที่กล่าวไป จะเห็นได้ว่า ประเทศฝรั่งเศสก็มีบทลงโทษยุบพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่แทรกแซง/ขัดขวางผลประโยชน์ของชาติฝรั่งเศสและรูปแบบการปกครองของฝรั่งเศส  แต่ละประเทศมีรูปแบบการปกครองของตน และมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายปกป้องรูปแบบการปกครองของตน  ในกรณีของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ก็มีกฎหมายปกป้องรูปแบบการปกครองที่ว่านี้ โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นสถาบันสำคัญสถาบันหนึ่งที่ขาดมิได้ของรูปแบบการปกครองระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ  ดังนั้น พรรคหรือกลุ่มการเมืองใดที่แทรกแซง/ขัดขวางการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ถือว่าแทรกแซง/ขัดขวางการปกครองระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงมีโทษยุบพรรคตามกฎหมาย  แต่ระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญมีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าระบอบสาธารณรัฐที่เป็นรูปแบบการปกครองที่ไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญมีทั้งการให้ความสำคัญต่อหลักการและคุณค่าประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของรัฐที่ดำรงอยู่สืบเนื่องมายาวนานก่อนที่จะเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย การธำรงไว้ซึ่งระบอบพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องปกป้องประคับประคองทั้งสถาบันพระมหากษัตริย์ ประชาธิปไตยและระบบรัฐสภาให้เหมาะสมพอดี มิให้เทเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งจนทำให้ระบอบไม่สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอียงไปทางสถาบันพระมหากษัตริย์มากจนเกินไปจนไม่มีความเป็นประชาธิปไตย หรือเอียงไปทางประชาธิปไตยและระบบรัฐสภาสุดโต่งมากจนเกินไปจนกลายเป็นระบอบสาธารณรัฐ

เชิงอรรถ


[1] Registration of Political Parties Act 1998  https://www.legislation.gov.uk/ukpga/1998/48/contents และ  Parliament Acts, Political Parties, Elections and Referendums Act 2000 https://www.legislation.gov.uk/ukpga/2000/41/contents  และ ดู ไชยันต์ ไชยพร, รายงานศึกษาข้อมูลเรื่อง เงินทางการเมืองในมุมมองเชิงเปรียบเทียบ:กรณีศึกษาประเทศไทย สหราชอาณาจักร และสวีเดน, สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กันยายน 2564, หน้า 20-32, 66, 89-93.  

[2] the Corrupt and Illegal Practices Act 1883 หรือ พระราชบัญญัติการกระทำทุจริต ค.ศ. 1883 ความเป็นมาของพระราชบัญญัติฉบับเกิดจาก วิลเลียม แกลดสโตน (William Gladstone) เห็นว่า การหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองที่เป็นอยู่ขณะนั้นยังไม่สุจริตและเที่ยงธรรม  และเมื่อเขาเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1883  เขาได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้อำนาจเงินในการเข้ามาเป็น ส.ส.  นั่นคือ การออก พ.ร.บ. การกระทำทุจริต ที่เรียกว่า “Corrupt and Illegal Practices Act 1883” ที่กำหนดอัตราการใช้เงินของผู้สมัครฯในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และประกาศห้ามไม่ให้มีการซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มแจกแก่ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน พระราชบัญญัติฉบับนี้มีข้อกำหนดถึงขนาดที่ว่า จำกัดจำนวนพาหนะที่ใช้ในการขนผู้คนไปที่หน่วยเลือกตั้ง  อีกทั้ง ยังมีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดที่ทำผิด พ.ร.บ. ดังกล่าวนี้   มีทั้งโทษปรับและจำคุก  จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 200 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นจำนวนค่าปรับที่สูง เพราะเมื่อเทียบกับเงินเดือน ส.ส. ที่เริ่มมีเงินเดือนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1911  โดยได้ปีละ 400 ปอนด์) และอาจจะมีโทษให้มีการต้องใช้แรงงานหนักด้วยก็การใช้แรงงานหนักที่ว่านี้ ได้แก่ การเป็นคนงานในเหมือง, ขุดดินทุบหิน, สร้างถนน, ทำงานในอู่ต่อเรือ เป็นต้น และยังมีโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 7 ปีด้วย  ดู Sean Lang, Parliamentary Reform: 1785-1928, (London: Routledge: 1999), pp, 88-80 และดูเนื้อหาฉบับเต็มของพระราชบัญญัติฯ จาก  https://www.parliament.uk/contentassets/4598666c79f34e6c8f621a9e05523045/imagevaulthandler.aspx.jpg                       

[3] Guidelines on prohibition and dissolution of political parties and analogous measures adopted by the Venice Commission at its 41st plenary session (Venice, 10 – 11 December 1999),  Venice Commission of the Council of Europe. https://www.coe.int/en/web/venice-commission/-/cdl-inf-2000-001-e

[4] เพิ่งอ้าง.

[5] คัดจากบทความของ คุณ ณุทยา ณุตตรกุล, ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ที่ Paris 1 Sorbonne และปริญญาโท ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ที่ Inalco (เกียรตินิยมอันดับ 1) ปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาเอกที่ Sciences Po Paris. ขอขอบคุณ คุณ ณุทยา ณุตตรกุล มา ณ ที่นี้ด้วย

[6] The law of 1 July 1901 and freedom of association/ Publication au JORF du 2 juillet 1901

Loi du 1 juillet 1901,

https://www.hautes-alpes.gouv.fr/contenu/telechargement/16720/150553/file/loi_association_1er_juillet_1901_cle0aeb5a.pdf#:~:text=Article%203%20Toute%20association%20fond%C3%A9e%20sur%20une%20cause,du%20gouvernement%2C%20est%20nulle%20et%20de%20nul%20effet.

[7] “Article 4: Political parties and groups shall contribute to the exercise of suffrage. They shall be formed and carry on their activities freely. They shall respect the principles of national sovereignty and democracy. They shall contribute to the implementation of the principle set out in the second paragraph of article 1 as provided for by statute. Statutes guarantee the pluralistic expression of opinions and the equitable participation of political parties and groups in the democratic life of the Nation.”  CONSTITUTION OF OCTOBER 4, 1958

https://www.conseil-constitutionnel.fr/sites/default/files/as/root/bank_mm/anglais/constiution_anglais_oct2009.pdf

[8] “Statutes shall promote equal access by women and men to elective offices and posts as well as to professional and social positions.” ดูเชิงอรรถที่ 6

[9] ดูเชิงอรรถที่ 7

[10] Internal Security Code, Article L212-1, https://www.legifrance.gouv.fr/codes/section_lc/LEGITEXT000025503132/LEGISCTA000025505125/#LEGISCTA000025508388   และ  Law of 10 January 1936 on combat groups and private militias (La Milice)  https://www.legifrance.gouv.fr/loda/id/JORFTEXT000000325214

[11] Internal Security Code, Article L212-1, เพิ่งอ้าง.

[12] https://www.lemonde.fr/politique/article/2013/06/06/au-nom-de-quoi-le-gouvernement-peut-il-dissoudre-des-groupes-ultra_3425520_823448.html