ทรงธรรม ปัญญาดี
ทรงธรรม ปัญญาดี : ผู้แทนฯ แปดสมัยของเชียงราย
ผู้เรียบเรียง : ศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
ผู้แทนราษฎรที่ชื่อทรงธรรม ปัญญาดี นี้จะเป็นที่รู้จักกันเต็มยศทหารของท่านว่าจ่าสิบเอก ทรงธรรมปัญญาดี ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงรายได้ติดต่อกันถึงแปดสมัย ขึ้นชื่อว่าเป็นนักอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ที่นายทหารระดับแม่ทัพนายกองที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ฟังแล้วสะดุ้งทีเดียว คุณทรงธรรม ปัญญาดี ลงเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งปี 2512 เพียงลงครั้งแรกท่านก็ชนะเลือกตั้งได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งในจังหวัดเชียงรายเลยทีเดียว ทำให้ผู้ติดตามการเมืองต้องหันไปดูว่าผู้แทนราษฎรหน้าใหม่คนนี้เป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร จึงได้คะแนนนำอย่างนี้ คุณทรงธรรมเขียนเล่าเอาไว้ว่าท่าน
ตกหน้าที่ให้โชค คือ ท่านเป็นคนพูดเก่ง เป็นนักจัดรายการวิทยุ ที่ได้รับเลือกจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นหัวหน้า ชุดจิตวิทยาทหาร ออกไปทำหน้าที่พบปะกับประชาชนที่จังหวัดเชียงราย อยู่นานถึงสองปีได้พบกับชาวบ้านมาก
“ผมก็ฝากฝังตัวเอง โดยจะขอเป็น ส.ส. หากมีการเลือกตั้ง และก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี' ...
ผมตระเวนอยู่ชายแดน 2 ปี ...นอกจากนั้นเวลา 17.00 น. จะมีการอบรมทหารก่อนจะให้ทหารไปสวดมนต์และนอน ผมก็จะถือโอกาสตอนที่ทำการอบรมเสร็จ พูดคุยกับทหารประมาณ 10 ถึง 20 นาที ถึงชีวิต
ของประชาชนที่ผมได้ไปเห็นมาว่าลำบากอย่างไร และบอกกับทหารว่าหากมีการเลือกตั้งผมจะลงสมัคร
ขอให้ทหารที่ปลดไปช่วยเหลือ ผมจะมีจดหมายไปหา เมื่อถึงเวลานั้น...ผมก็จะขอเสมียนกองร้อยเหล่านั้น
คัดรายชื่อทหารที่ปลดไปแล้วย้อนหลังห้าปีให้แก่ผม...”
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการได้รับเลือกตั้งของจ่าสิบเอก ทรงธรรม ปัญญาดี นั้นก็คือการที่ท่านออกหาเสียงตลอดระยะเวลาสองปีในขณะที่ทำงานเป็นหน่วยสงครามจิตวิทยาของทหารในพื้นที่เขตจังหวัดเชียงรายนั่นเอง นับว่าเป็นวิธีการตุนเสียงประชาชนในเขตของตนที่ต่างกันกว่าใครต่อใครหลายคนที่หาเสียง ทำให้คุณทรงธรรม ปัญญาดี ไม่ต้องเป็นเศรษฐี แต่ก็ได้คะแนนมากเป็นที่หนึ่งของจังหวัดได้ และท่านก็ได้เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เป็นเวลารวมกันทั้งหมดถึง 15 ปี 8 เดือน แม้จะไม่ติดต่อกันก็ตามเนื่องจากมีการยึดอำนาจบ้างทำให้ต้องเว้นระยะเวลา แต่ก็ถือว่าท่านได้รับเลือกตั้งติดต่อกันมาในช่วงเวลาดังกล่าว เราลองมารู้จักชีวิตของ
จ่าทหารบกที่ประชาชนเชียงรายเลือกให้เป็นผู้แทนปวงชนคนนี้ดูบ้าง
ทรงธรรม ปัญญาดี เป็นคนเชียงรายโดยกำเนิด เกิดในครอบครัวของชาวนา เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2474 ท่านเขียนเล่าเอาไว้ว่า
“... วันที่ผมเกิด พ่อผมกับตาผมทะเลาะกันอย่างรุนแรง นัยว่าพ่อผมไปไถนาแล้วทำคันไถถูกข้อเท้าควายเป็นแผล ตาผมก็ต่อว่าอย่างรุนแรง พ่อผมก็โกรธ เก็บข้าวของออกจากบ้านในวันที่ผมเกิด
และทั้งๆ ที่แม่ผมยังอยู่เดือน ...”
ทรงธรรม ปัญญาดี เป็นคนชอบฟังการพูดหาเสียงของนักการเมือง และอยากเป็นนักการเมือง
“... การเมืองจึงซึมซับเข้าสู่สมองของผมตั้งแต่ ม.4 และคิดว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นผู้แทนราษฎรให้ได้...”
ทรงธรรม ปัญญาดี ได้เล่าถึงชีวิตลำบากของท่านว่า “อยู่กับยายตามมีตามเกิด ความรู้ความสามารถ
ก็แค่นักเรียนคนหนึ่ง แต่เหิมเกริมจะไปเป็นผู้แทน ...” แม้เคยฝันอยากเป็นผู้แทนแต่เมื่อศึกษามาไม่มากจึงไปสมัครเป็นทหารจนได้ยศเป็นจ่าสิบเอก ก่อนที่จะลาออกมาสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรที่จังหวัดเชียงราย ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2512 โดยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สำคัญในตอนนั้นที่เคยมีผู้แทนราษฎรที่จังหวัดนี้มาก่อน จึงเป็นที่รู้จักของคนเชียงรายพอสมควร นับว่าดีกว่าที่จะลงสมัครอิสระ ส่วนพรรครัฐบาล คือ พรรคสหประชาไทยนั้นก็มีคนแย่งกันลงสมัครมากอยู่แล้ว และท่านก็ได้เป็นผู้แทนราษฎร แต่อยู่ได้ไม่ครบวาระ เพราะจอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ได้ยึดอำนาจล้มรัฐธรรมนูญและรัฐสภา ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ปี 2514 อันมีผลให้สภาผู้แทนราษฎรถูกล้มไปด้วย
เหตุการณ์ 14 ตุลาคมปี 2516 ที่รัฐบาลจอมพล ถนอมถูกล้มโดยประชาชน ทำให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และมีการเลือกตั้งใหม่ในตอนต้นปี 2518 ที่คุณทรงธรรม ปัญญาดี ลงเลือกตั้งโดยย้ายมาอยู่พรรคชาติไทย และท่านก็ชนะเลือกตั้งอีก แต่ก็เป็นผู้แทนราษฎรได้ไม่นานเพราะมีการยุบสภา ทำให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนเมษายน ปี 2519 ที่คุณทรงธรรมเปลี่ยนมาเข้าพรรคธรรมสังคม และท่านก็ชนะเลือกตั้ง
ได้เป็นผู้แทนราษฎรอีก ได้อยู่ในสภาฯ จนถึงวันที่ 6 ตุลาคมปี 2519 คณะปฏิรูปการปกครองฯ ได้ยึดอำนาจยกเลิกรัฐธรรมนูญ คุณทรงธรรมจึงต้องตกงานการเมืองอยู่ 2 ปีกว่า จนมีการเลือกตั้งในปี 2522 สมัยนายกฯ เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ คุณทรงธรรมก็ลงเลือกตั้งอีกในนามพรรคสยาม และก็ชนะเลือกตั้งอีก อยู่ในสภาฯ
ได้จนถึงวันที่ 19 มีนาคม ปี 2526 มีการยุบสภา ท่านต้องกลับไปลงเลือกตั้งในเดือนเมษายนปีเดียวกัน
และในการเลือกตั้งครั้งนี้ท่านได้ให้ภรรยา คือคุณอำไพ ปัญญาดี ลงเลือกตั้งด้วยในอีกเขตหนึ่ง และทั้ง 2
ท่านก็ชนะเข้าสภาฯในนามพรรคประชาธิปไตย แต่พอถึงการเลือกตั้งครั้งที่ 14 ในวันที่ 27 กรกฎาคม ปี 2529 คุณทรงธรรมแพ้เลือกตั้ง ต่อมาคุณทรงธรรมได้กลับมาลงเลือกตั้งอีกในปี 2531 สังกัดพรรคชาติไทยอีกครั้ง และได้รับเลือกเข้าสภาฯอีก ครั้งนี้พลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะพรรคชาติไทยเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนั้นคุณทรงธรรมได้ลงเลือกตั้งในนามพรรคชาติไทยต่อมาอีก 2 ครั้ง และชนะทั้ง 2 ครั้ง ในปี 2535 จึงได้เป็นผู้แทนราษฎรจนถึงเวลาที่มีการยุบสภาในปี 2538
หลังจากนั้น จ่าสิบเอก ทรงธรรม ปัญญาดี ก็ไม่ได้กลับเข้าเข้าสภาฯ อีกเลย ท่านเสียชีวิตลงในปี 2544