สั่งนับคะแนนใหม่
ผู้เรียบเรียง: รองศาสตราจารย์ ดร.กตัญญู แก้วหานาม
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้นำระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมมาใช้ในการเลือกตั้งที่ทำให้คะแนนเสียงเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงคะแนนผ่านบัตรลงคะแนนเลือกตั้งที่ได้รับคนละ 1 ใบแต่เป็นการเลือกทั้ง “คนที่รัก” และ “พรรคที่ชอบ” ไปพร้อมกัน ดังนั้นคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ที่ปรากฏออกมาจึงมีความสำคัญต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะต้องนำคะแนนจากเขตเลือกตั้งนั้นไปคำนวณที่นั่ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ด้วยเหตุนี้หากคะแนนที่ปรากฎจากการนับของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง หรือไม่ตรงกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่นับได้ ก็จะทำให้มี “การสั่งนับคะแนนใหม่” ได้ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. ความหมาย หรือ แนวคิด
“การสั่งนับคะแนนใหม่” เกิดขึ้นตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561[1] ในมาตราดังต่อไปนี้
มาตรา 122 ที่กำหนดว่า ในกรณีที่ผลการนับคะแนนปรากฏว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานพร้อมเหตุผลต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่หรือสั่งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งนั้น พร้อมทั้งแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทราบ และนำส่งหีบบัตรเลือกตั้งพร้อมวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งแก่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งหรือผู้ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งมอบหมาย
มาตรา 124 ที่กำหนดว่า เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานผลการนับคะแนนแล้ว ถ้าปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง คณะกรรมการจะงดการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้งนั้นก็ได้
มาตรา 137 ก่อนหรือในวันเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนแล้วหรือพบเห็น
การกระทําที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือกรรมการแต่ละคน
ซึ่งพบเห็นการกระทําหรือการงดเว้นการกระทําใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือ เที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้มีอํานาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิกการเลือกตั้ง และสั่งให้ดําเนินการเลือกตั้งใหม่หรือนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยหรือ ทุกหน่วยเลือกตั้งได้ สําหรับการดําเนินการของกรรมการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่คณะกรรมการกําหนด
จากบทบัญญัติของหลักกฎหมายดังกล่าวสามารถอธิบายแนวคิดของ “การสั่งนับคะแนนใหม่”
ที่สามารถเกิดขึ้นได้ดังนี้
1. เกิดขึ้นในวันเลือกตั้งที่มีการนับคะแนนการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง ปรากฎว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานพร้อมเหตุผลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่
2. เกิดขึ้นภายหลังวันเลือกตั้ง เมื่อปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรายงานผลการนับคะแนนแล้ว ถ้าปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง คณะกรรมการการเลือกตั้งจะงดการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้งนั้นก็ได้
3. เกิดขึ้นได้ทั้งก่อนและภายหลังการเลือกตั้งก็ได้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่ปรากฏว่า เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้สืบสวนหรือไต่สวนแล้วหรือพบเห็นการกระทําที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้มีอํานาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง
หรือ ยกเลิกการเลือกตั้ง และสั่งให้ดําเนินการนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยหรือ ทุกหน่วยเลือกตั้งได้
2. ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับการสั่งนับคะแนนใหม่ นั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ได้เกิดปรากฏการณ์เกี่ยวกับการสั่งนับคะแนนใหม่ใน 2 กรณีได้แก่
1. การสั่งนับคะแนนใหม่เฉพาะหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยได้พิจารณากรณีผลการนับคะแนน ส.ส.และกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน และมีมติสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ 2 หน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2 หน่วยเลือกตั้ง กรณีที่ผลการนับคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ได้แก่ หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และหน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ที่ 5 ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น[2]
2. สั่งให้นับคะแนนใหม่ทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2562
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงข่าวเปิดเผยมติที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งนับคะแนนใหม่ทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ด้วยปรากฏหลักฐานว่าผลการนับคะแนนมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ โดยประเด็นที่น่าสนใจคือ การนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม ประกอบด้วยอำเภอเมืองนครปฐม (เฉพาะตำบลพระปฐมเจดีย์ ตำบลลาพยา ตำบลนครปฐม ตำบลบ่อพลับ ตำบลหนองปากโลง ตำบลสนามจันทร์ ตำบลห้วยเจรเข้ ตำบลโพรงมะเดื่อ ตำบลหนองดินแดง ตำบลสวนป่าน ตำบลสระกระเทียม ตำบลวังตะกู ตำบลวังเย็น ตำบลพระประโทน และตำบลบางแขม) โดยก่อนหน้านี้ ผู้สมัคร ส.ส.
เขต 1 จังหวัดนครปฐม พรรคอนาคตใหม่ คือ นางสาวสาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ได้ยื่นหนังสือให้ กกต.
รวมคะแนนและนับคะแนนใหม่ หลังได้ตรวจสอบดูคะแนนทุกหน่วยเลือกตั้งและรวมคะแนนด้วยตนเองพบว่า คะแนนของตนมีคะแนนเพิ่มขึ้นจากที่มีการประกาศผลเดิมคือ 35,615 คะแนน ได้เพิ่มมา 151 คะแนน
รวมเป็น 35,766 คะแนน ขณะที่คะแนนของผู้ชนะในเขตนี้ คือ พันโทสินธพ แก้วพิจิตร จากสมัครพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนเท่ากับที่มีการประกาศผลคือ 35,762 คะแนน ซึ่งเท่ากับว่าคะแนนของผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่พลิกกลับมาชนะการเลือกตั้ง 4 คะแนน ทำให้ได้มีการยื่นหนังสือร้องไปเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562[3] ทำให้ต่อมา กกต. ได้มีการสั่งให้นับคะแนนใหม่ทุกหน่วยในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐมในวันที่
28 เมษายน 2562 ด้วยปรากฏหลักฐานว่าการนับคะแนนเป็นไปไม่ถูกต้องตามมาตรา 124 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ ผลการนับคะแนนใหม่พบว่า คะแนนของพันโทสินธพ แก้วพิจิต ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 35,711 คะแนน ซึ่งลดลงจากที่ประกาศไว้เดิม 51 คะแนน ส่วนคะแนนของ น.ส. สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้ร้องขอให้มีการนับคะแนนใหม่ จากพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 35,707 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ประกาศไว้เดิม 92 คะแนน[4]
3. หลักการสำคัญ / ความสำคัญ
ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการนับคะแนนใหม่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 วางหลักเกณฑ์การสั่งนับคะแนนใหม่ไว้ดังต่อไปนี้[5]
1. ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งและคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ได้รับการแต่งตั้งไว้ในคราวที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุดปฏิบัติหน้าที่ในการนับคะแนนใหม่ เว้นแต่กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นสมควรเปลี่ยนแปลง เพื่อความเป็นกลางทางการเมือง
ความซื่อสัตย์สุจริต หรือความเหมาะสม หรือความจำเป็น
2. ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ดำเนินการ ดังนี้
1) แต่งตั้งคณะกรรมการนับคะแนนใหม่จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายในเขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งละห้าคน ประกอบด้วยด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอีกสี่คน และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานที่นับคะแนนตามความเหมาะสมแก่การดำเนินการในการรักษาความปลอดภัย
ณ สถานที่นับคะแนนดังกล่าว
2) กรณีนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ให้แต่งตั้งคณะกรรมการนับคะแนนใหม่จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายในเขตเลือกตั้งอย่างน้อยหนึ่งชุด และให้ถือเกณฑ์แปดร้อยบัตรเลือกตั้งต่อหนึ่งชุดเป็นประมาณ
3) ประกาศกำหนดวัน เวลา สถานที่ และหน่วยเลือกตั้งที่จะนับคะแนนใหม่ ณ สถานที่นับคะแนนใหม่ภายในเขตเลือกตั้งตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเห็นสมควร และประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และพรรคการเมืองทราบ
4) แจ้งพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งว่าสามารถส่งผู้แทนพรรคการเมืองจำนวนหนึ่งคน
ต่อคณะกรรมการนับคะแนนใหม่จำนวนหนึ่งชุด เข้าร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนใหม่ในทุกขั้นตอนและการจับสลากในกรณีมีผู้สมัครได้คะแนนเท่ากันหลายคน โดยให้พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อผู้แทนพรรคการเมืองต่อประธานกรรมการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งก่อนวันนับคะแนนใหม่หนึ่งวัน
3. ก่อนวันนับคะแนนใหม่ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเบิกหีบบัตรเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่จะมีการนับคะแนนใหม่จากผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดให้มาอยู่ในความควบคุมดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนด และให้แต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษารีบบัตรเลือกตั้งระหว่างรอการนับคะแนนใหม่ โดยให้จัดทำควบคุมการเบิกจ่ายบัตรเลือกตั้งด้วย และเพื่อประโยชน์ในการนับคะแนนใหม่ การรักษาความสงบเรียบร้อยในการนับคะแนนใหม่ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งอาจแต่งตั้งคณะบุคคลหรือบุคคลใดเป็นผู้ช่วยเหลือในการปฏิบัติงานได้
4. ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการนับคะแนนใหม่ เช่น
หีบบัตรเลือกตั้ง ภาชนะใส่บัตรเลือกตั้ง แบบขีดคะแนน แบบพิมพ์ ถุงบรรจุบัตรเลือกตั้ง เป็นต้น ให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับการนับคะแนนใหม่ และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจัดเตรียมสถานที่ในการนับคะแนนใหม่และอำนวยความสะดวกในการนับคะแนนใหม่
5 ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งและคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจัดอบรมคณะกรรมการนับคะแนนใหม่ เพื่อให้ทราบแนวทางการนับคะแนนใหม่ ซึ่งในวันนับคะแนนใหม่
ให้ดำเนินการดังนี้
1) ก่อนถึงเวลานับคะแนน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งหรือผู้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งมอบหมายเบิกหีบบัตรเลือกตั้งจากคณะกรรมการเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้ง และให้นำหีบบัตรเลือกตั้งมายังสถานที่นับคะแนนใหม่ แล้วดำเนินการเปิดหีบบัตรเลือกตั้งที่บรรจุถึงบัตรเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งที่จะนับคะแนนใหม่ออกมาจัดเตรียมสำหรับจ่ายให้คณะกรรมการนับคะแนนใหม่แต่ละชุด
ตามบัญชีควบคุมการเบิกจ่ายบัตรเลือกตั้ง
2) เมื่อถึงเวลานับคะแนนใหม่ ให้คณะกรรมการนับคะแนนใหม่แต่ละชุดส่งตัวแทนอย่างน้อยชุดละสองคน เบิกถุงบรรจุบัตรเลือกตั้งครั้งละหน่วยเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งหรือผู้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งมอบหมาย แล้วให้นำมานับจำนวนบัตรเลือกตั้งว่าถูกต้องครบถ้วน ต่อหน้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งจำนวน 2 คน แล้วบันทึกผลการนับจำนวนบัตรเลือกตั้งไว้ในแบบรายงานเหตุการณ์ประจำที่เลือกตั้ง จากนั้นให้คละบัตรเลือกตั้งทั้งบัตรดี บัตรเสีย และบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดใส่ในหีบบัตรเลือกตั้งเปล่าที่เตรียมไว้
3) ให้คณะกรรมการนับคะแนนใหม่แต่ละชุด ดำเนินการนับบัตรเลือกตั้งเป็นคะแนน
4) เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว ให้คณะกรรมการนับคะแนนใหม่แต่ละชุดดำเนินการจัดทำรายงานผลการนับคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นจำนวน 3 ชุดแล้วดำเนินการ (1) ปิดประกาศ ณ สถานที่นับคะแนนหนึ่งชุด (2) ใส่ในถุงวัสดุใส (ชั้นนอก) ซึ่งบรรจุบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนใหม่แล้วหนึ่งชุด และ (3) ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายหนึ่งชุด
5) ให้คณะกรรมการนับคะแนนใหม่ บันทึกข้อมูลจำนวนบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนใหม่ และใส่ลงในถุงวัสดุใส (ชั้นนอก) ซึ่งบรรจุบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนใหม่จำนวนหนึ่งชุด
6) ส่งถุงวัสดุใสซึ่งบรรจุบัตรเลือกตั้งที่ผ่านการนับคะแนนใหม่ซึ่งได้ตรวจสอบความถูกต้องแล้วพร้อมใบขีดคะแนนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเพื่อส่งให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดเก็บรักษา
6. เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งได้รับรายงานผลการนับคะแนนใหม่จากคณะกรรมการนับคะแนนใหม่แล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจัดทำประกาศผลการรวมคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 3 ชุด และ จัดทำแบบสรุปรายงานผลการนับคะแนนใหม่จำนวน 3 ชุด เพื่อปิดประกาศ ณ สถานที่นับคะแนนชุดหนึ่ง จัดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชุดหนึ่ง และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งหนึ่งชุด โดยให้รวบรวมผลการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งที่ได้มีคำสั่งให้ทำการนับคะแนนใหม่ ไปรวมกับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งอื่น คะแนนจากการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักรที่มิได้ดำเนินการนับคะแนนใหม่
7. ในการนับคะแนนใหม่ หากผู้สมัครได้รับคะแนนมากที่สุดเท่ากันหลายคน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งดำเนินการจับสลาก ซึ่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่คณะกรรมการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนดให้เป็นวันนับคะแนนใหม่
4. สรุป
การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับ 2560
ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้นำระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมมาใช้ในการเลือกตั้งที่ทำให้คะแนนเสียงเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงคะแนนเสียงในหน่วยเลือกตั้งต่างๆ หากคะแนนที่ปรากฎจากการนับของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง หรือไม่ตรงกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่นับได้ ก็จะทำให้มี “การสั่งนับคะแนนใหม่” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีต่อไปนี้ (1) เกิดขึ้นในวันเลือกตั้งที่มีการนับคะแนนการเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง ปรากฎว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานพร้อมเหตุผลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ (2) เกิดขึ้นภายหลังวันเลือกตั้ง เมื่อปรากฏว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับรายงานผลการนับคะแนนแล้ว ถ้าปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง คณะกรรมการการเลือกตั้งจะงดการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่งหรือทุกหน่วยเลือกตั้งนั้นก็ได้ และ (3) เกิดขึ้นได้ทั้งก่อนและภายหลังการเลือกตั้งก็ได้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่ปรากฏว่า เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้สืบสวนหรือไต่สวนแล้วหรือพบเห็นการกระทําที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้มีอํานาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ ยกเลิกการเลือกตั้ง และสั่งให้ดําเนินการนับคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยหรือ ทุกหน่วยเลือกตั้งได้
5. บรรณานุกรม
77ข่าวเด็ด. (2562). นับใหม่นครปฐมอลเวง “ประชาธิปัตย์” กลับมาชนะเหมือนเดิม เฉือน 4 แต้ม สืบค้นจาก
https://www.77kaoded.com/news/apich/467893, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563
กรุงเทพธุรกิจ. (2561). ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ สืบค้นจาก
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/831800, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563
เดอะสแตนดาร์ด. (2562). กกต. สั่งนับคะแนนใหม่ทุกหน่วย เขต 1 นครปฐม หลัง ‘อนาคตใหม่’ ร้องเรียน
เหตุรวมคะแนนเองพลิกแซงชนะ. สืบค้นจาก https://thestandard.co/count-votes-nakhon-pathom-again/, เข้าถึงเมื่อ 26 เมษายน 2563
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561,
ราชกิจจานุเบกษา, เล่มที่135 ตอนที่ 68 ก วันที่ 12 กันยายน 2561, หน้า 81
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 สืบค้นจาก
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/040/1.PDF, เข้าถึงเมื่อ 6 เมษายน 2563
ไทยพีบีเอส. (2562). เลือกตั้ง2562 : กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย. สืบค้นจาก
https://news.thaipbs.or.th/content/279005, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563
[1] พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561,
ราชกิจจานุเบกษา, เล่มที่135 ตอนที่ 68 ก วันที่ 12 กันยายน 2561, หน้า 81
[2] ไทยพีบีเอส. (2562). เลือกตั้ง2562 : กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย. สืบค้นจาก
https://news.thaipbs.or.th/content/279005, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563
[3] เดอะสแตนดาร์ด. (2562). กกต. สั่งนับคะแนนใหม่ทุกหน่วย เขต 1 นครปฐม หลัง ‘อนาคตใหม่’ ร้องเรียน
เหตุรวมคะแนนเองพลิกแซงชนะ. สืบค้นจาก https://thestandard.co/count-votes-nakhon-pathom-again/, เข้าถึงเมื่อ 26 เมษายน 2563
[4] 77ข่าวเด็ด. (2562). นับใหม่นครปฐมอลเวง “ประชาธิปัตย์” กลับมาชนะเหมือนเดิม เฉือน 4 แต้ม สืบค้นจาก https://www.77kaoded.com/news/apich/467893, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563
[5] กรุงเทพธุรกิจ. (2561). ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ กกต.สั่งนับคะแนนใหม่ สืบค้นจาก
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/831800, เข้าถึงเมื่อ 28 เมษายน 2563