สมัชชารัฐสภาอาเซียน

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:26, 8 ธันวาคม 2557 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง'''พัชร์ นิยมศิลป ---- '''ผู้ทรงคุณวุฒิป...')
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียงพัชร์ นิยมศิลป


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ ศาสตราจารย์ ดร. ไชยวัฒน์ ค้ำชู


ประวัติความเป็นมา

สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) เป็นองค์กรที่พัฒนามาจากองค์การรัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Organization: AIPO) ซึ่งเริ่มก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1977 โดยในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 รัฐสภาอินโดนีเซียเสนอให้จัดตั้งองค์กรที่ประกอบด้วยรัฐสภาจากประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ (ในขณะนั้น) ได้แก่ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์และไทยทั้งนี้การจัดตั้งองค์กรดังกล่าวจะมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือของรัฐสภาแห่งชาติในอาเซียนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เนื่องจากขณะนั้นความร่วมมือของอาเซียนนั้นมีอยู่ทุกกรอบแล้ว แต่ยังขาดความร่วมมือในกรอบของระดับรัฐสภาเท่านั้น ปรากฏว่าแนวความคิดของรัฐสภาอินโดนีเซีย ได้รับความสนใจจากประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 4 ประเทศ เป็นอย่างดี โดยต่างเห็นพ้องต้องกันถึงประโยชน์ของการสร้างความร่วมมือให้ใกล้ชิดในระหว่างรัฐสภาของกลุ่มประเทศอาเซียน ต่อมาจึงได้มีการประชุมเพื่อปรึกษาหารือ การจัดตั้งองค์การรัฐสภาอาเซียนขึ้นในปี ค.ศ. 1975 ณ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนิเซีย โดยการประชุมที่ประชุมรัฐสภาอาเซียน (ASEAN Parliamentary Meeting :APM) ครั้งแรกเมื่อ 11 มกราคม ค.ศ. 1975 อินโดนิเซียได้เสนอให้ใช้ชื่อองค์กรว่า องค์กรความร่วมมือรัฐสภาอาเซียน (ASEAN Parliamentary Cooperation)จากนั้นที่ประชุมได้กำหนดกรอบจุดประสงค์ขององค์กรไว้ 5 ประการ ได้แก่

1. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐสภาในประเทศสมาชิกอาเซียน

2. จัดการประชุมสามัญ อย่างสม่ำเสมอ

3. จัดตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนประเทศสมาชิก ประเทศละ 3 คน โดยมีรองโฆษกสภาผู้แทนราษฎรอินโดนิเซีย เป็นประธาน และมีประธานรัฐสภาจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และประเทศไทยเป็นรองประธาน ทั้งนี้ให้คณะทำงานดังกล่าวมีหน้าที่

-เสนอรูปแบบและโครงสร้างองค์การรัฐสภาอาเซียนที่จะจัดตั้ง
-ร่างธรรมนูญจัดตั้งองค์การรัฐสภาอาเซียน

4.คณะทำงานข้างต้นจะประชุมกันในอีก 1 เดือนหลังการประชุมครั้งแรก

5.การประชุม APM ครั้งที่ 2 จะจัดที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ต่อมาในการประชุมAPM ครั้งที่ 2 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 20 – 23 สิงหาคม 1975 ได้เปลี่ยนชื่อองค์กรเป็นองค์การรัฐสภาอาเซียน ((ASEAN Inter-Parliamentary Organization: AIPO)อย่างไรก็ดีสมาชิกไม่สามารถหาฉันทามติเกี่ยวกับคุณสมบัติและวิธีดำเนินงานในองค์กรได้ จากนั้นในการประชุม จวบจนการประชุม APM ครั้งที่ 3 เมื่อ 29 สิงหาคม – 2 กันยายน ค.ศ. 1977 สมาชิกจึงได้มีฉันทามติลงนามเห็นชอบในธรรมนูญขององค์การรัฐสภาอาเซียนเพื่อจัดตั้ง องค์การรัฐสภาอาเซียนอย่างเป็นทางการนับแต่นั้นมา

อนึ่งที่ประชุมองค์การรัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 10-15 กันยายน ค.ศ. 2006 ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ประกาศใช้ธรรมนูญขององค์กรฉบับใหม่ โดยได้เปลี่ยนชื่อจากองค์การรัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Organization: AIPO) มาเป็นสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กร และบูรณาการการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติให้มีรูปธรรม ตลอดจนยกระดับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาในประเทศสมาชิกอาเซียนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ปรับปรุงโครงสร้างการทำงานขององค์กร เพิ่มช่องทางการทำงานร่วมกันกับ ASEAN โดยการแลกเปลี่ยนการเข้าร่วมประชุมระหว่างประธาน AIPA และประธานคณะกรรมการประจำอาเซียน และให้อำนาจกับที่ประชุมสมัชชาใหญ่ในการริเริ่มการจัดทำกฎหมายในประเด็นที่ประเทศสมาชิกให้ความสนใจร่วมกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายการจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community)

ธรรมนูญสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2007 โดยประเทศสมาชิกสมัชชาอาเซียน ประกอบด้วย รัฐสภาแห่งชาติจำนวน 8 ชาติ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนิเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ทั้งนี้บรูไนดารุซาลามและสหภาพพม่าได้เข่าร่วมในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์พิเศษ (Special Observer Country) เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีรัฐสภาจึงส่งตัวแทนที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติโดยอนุโลมจาก สภานิติบัญญัติบรูไน (The Brunei Legislative Council) และสมัชชาแห่งชาติพม่า (The National Convention) ต่อมาในการประชุม AIPA ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 2-8 สิงหาคม ค.ศ. 2009 ที่พัทยา ที่ประชุมฯ ได้มีมติให้ประเทศบรูไนเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ คงเหลือพม่า (เมียนม่าร์) เพียงประเทศเดียวที่ดำรงสถานะประเทศผู้สังเกตการณ์พิเศษ จนกระทั้ง ค.ศ. 2011 ประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมัชชารัฐสภาอาเซียน

โครงสร้างและอำนาจหน้าที่

ธรรมนูญสมัชชารัฐสภาอาเซียน ข้อ 5 กำหนดให้สมัชชารัฐสภาอาเซียน ประกอบด้วย 5 ส่วนงานได้แก่ สมัชชาใหญ่ ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมาธิการสามัญ และสำนักงานเลขาธิการอาเซียน โดยแต่ละส่วนงานทำหน้าที่ดังนี้

1. สมัชชาใหญ่ (The General Assembly)สมัชชาใหญ่เป็นองค์กรสูงสุดของสมัชชารัฐสภาอาเซียน ทั้งในด้านการบริหารและด้านนโยบาย ธรรมนูญได้กำหนดให้สมัชชาใหญ่จะต้องมีการประชุมอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี โดยมีประเทศสมาชิกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพเรียงตามตัวอักษร(ภาษาอังกฤษ)

2. ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน (The Presidency) ประธานรัฐสภาของประเทศที่เป็นเจ้าภาพ

การประชุมสมัชชาใหญ่ในปีนั้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน นอกจากนั้นยังเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร (The Chairman of the Executive Committee) ด้วย ซึ่งประธาน AIPA มีวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี

3.คณะกรรมการบริหาร (The Executive Committee) การประชุมคณะกรรมการบริหารฯ

ประกอบด้วยประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียนเป็นประธานคณะกรรมการและสมาชิกรัฐสภาจากประเทศสมาชิกไม่เกินประเทศละ 3 คนโดยหนึ่งในสามคนจะต้องเป็นประธานรัฐสภาหรือผู้แทนคณะกรรมการบริหารมีวาระ 1 ปีเช่นเดียวกับวาระการดำรงตำแหน่งของประธาน AIPAโดยจะมีการประชุมอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่เพื่อจัดเตรียมวาระการประชุม แผนงานและกิจการอื่นๆสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่

หน้าที่ของคณะกรรมการบริหารของสมัชชารัฐสภาอาเซียนมีดังนี้

1) พิจารณาและเสนอแนะการเป็นสมาชิกภาพของรัฐสภาประเทศสมาชิกและการเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์และผู้สังเกตการณ์พิเศษของสมัชชารัฐสภาอาเซียนตลอดจนพิจารณาบุคคลหรือองค์กรที่สมัชชารัฐสภาอาเซียนจะเชิญเข้าร่วมกิจกรรมหรือการประชุมขององค์กร
2) ริเริ่มกิจกรรมของสมัชชารัฐสภาอาเซียน
3) ติดตามการปฏิบัติตามข้อมติที่ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่
4) เตรียมหัวข้อการประชุมและกำหนดการที่แต่ละประเทศสมาชิกเสนอเพื่อให้ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ให้ความเห็นชอบ
5) เสนอการจัดตั้งคณะกรรมาธิการสามัญคณะกรรมาธิการศึกษาและคณะกรรมาธิการวิสามัญเมื่อมีความจำเป็นต้องจัดตั้ง
6) กำกับติดตามและดูแลควบคุมสำนักงานเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน
7) เสนอการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน
8) กำหนดข้อบังคับการประชุมของคณะกรรมการบริหารแต่ละครั้ง

4. คณะกรรมาธิการสามัญ (The Committees) ที่ประชุมสมัชชาใหญ่อาจตั้งคณะกรรมการถาวร(Standing Committee) คณะกรรมาธิการศึกษา (The StudyCommittee) คณะกรรมาธิการวิสามัญ (The Ad-Hoc Committee) หรือ คณะกรรมาธิการสามัญด้านต่างๆ (Standing Committee on Specific Matters) เพื่อที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามมติสมัชชาใหญ่และสอดคล้องกับจุดประสงค์ของ AIPA

5. สำนักงานเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน (The Secretariat) สำนักงานเลขาธิการเป็นหน่วยงานจัดการบริหารของสมัชชาตั้งอยู่ที่เมืองเดียวกับสำนักเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่ กรุงจาการ์ตาสาธารณรัฐอินโดนีเซียมีเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียนเป็นหัวหน้าเลขาธิการ AIPA ได้รับการแต่งตั้งโดยประธาน AIPA โดยความเห็นชอบของที่ประชุมสมัชชาใหญ่โดยได้รับคัดสรรตามระบบหมุนเวียนมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปีตามธรรมนูญ AIPA ทั้งนี้เลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียนจะขึ้นตรงต่อประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน รับผิดชอบดูแลกิจการของ AIPA และเป็นผู้แทน AIPA ในฐานะผู้สังเกตการณ์ในที่ประชุมรัฐสภาระหว่างประเทศ (International Parliamentary Conferences)

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยกับสมัชชารัฐสภาอาเซียน

รัฐสภาไทยได้จัดตั้งหน่วยประจำชาติไทยในองค์การรัฐสภาอาเซียนขึ้นซึ่งประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภาทุกคนซึ่งเป็นสมาชิกโดยตำแหน่งหน่วยประจำชาติไทยจะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารหน่วยฯเพื่อทำหน้าที่บริหารกิจการของหน่วยฯตามข้อบังคับหน่วยประจำชาติไทยฯ พ.ศ. 2548 คณะกรรมการบริหารนี้ประกอบด้วยประธานรัฐสภาเป็นประธานและรองประธานรัฐสภาเป็นรองประธานหน่วยโดยตำแหน่งส่วนรองประธานสภาผู้แทนราษฎรรองประธานวุฒิสภาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎรและประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาเป็นกรรมการบริหารหน่วยโดยตำแหน่งและมีสมาชิกรัฐสภาอื่นที่ได้รับคัดเลือกรวมอีก 14 คนโดยมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปีสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรนั้นรัฐสภาไทยก็ได้ส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ทุกครั้งนอกจากนั้นก็ได้ส่งตัวแทนร่วมในคณะผู้แทนสันถวไมตรีเพื่อเดินทางไปเยือนรัฐสภาประเทศต่างๆด้วย

เอกสารอ้างอิง

ASEAN Charter

ASEAN Inter-Parliamentary Assembly , Background and history (from AIPO to AIPA) <http://www.aipasecretariat.org/about/background-history/>.

ASEAN Inter-Parliamentary Assembly, Background and history (from AIPO to AIPA), <http://www.aipo.org/Bg_and_History.htm>.

Imelda Deinla, Giving the ASEAN Inter-Parliamentary Assembly a Voice in the ASEAN Community, International Institute for Democracy and Electoral Assistance, 2013, <http://www.idea.int/resources/analysis/loader.cfm?csModule=security/getfile&pageid=58475>.

The Statutes of the ASEAN Inter-Parliamentary Assembly

สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สมัชชารัฐสภาอาเซียน,7 มิถุนายน 2551,<http://mp.parliament.go.th/InParOrg/Int%204AIPA/AIPA/AIPA%20info%2001.htm>.