การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5 (พ.ศ. 2539)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:09, 23 สิงหาคม 2553 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าใหม่: :'''ผู้เรียบเรียง''' นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ---- :'''ผู้ทรงคุณวุฒิ...)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)
ผู้เรียบเรียง นครินทร์ เมฆไตรรัตน์

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5 (2539)

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5 มีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายน 2539 โดยในครั้งนี้มีผู้สมัครทั้งที่สังกัดพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระ และมีอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงสมัครถึง 2 คน คือ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และร.อ.กฤษฎา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ลงสมัครมากเป็นประวัติการณ์กว่า 29 คน โดยมีผู้สมัครที่โดดเด่น เช่น นายพิจิตต รัตตกุล ผู้สมัครอิสระจากกลุ่มมดงาน, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง จากพรรคพลังธรรม, ร.อ.กฤษฎา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา ผู้สมัครอิสระ และนายอากร ฮุนตระกูล ผู้สมัครอิสระ

ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายพิจิตต รัตตกุล ได้รับคะแนนเสียงมากเป็นอันดับที่หนึ่ง 768,994 คะแนน หรือร้อยละ 49.47 ได้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มาจากการเลือกตั้งเป็นคนที่ 4

ในปี 2535 นายพิจิตตเคยลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต้องพ่ายแพ้แก่ ร.อ.กฤษฎา ผู้สมัครจากพรรคพลังธรรม นโยบายสำคัญๆของนายพิจิตต และกลุ่มมดงานนั้นมีอยู่ 6 หมวด คือ

(1) การจัดการขยะ โดยเน้นหลักที่ว่าด้วย “เก็บขยะถี่ กำจัดขยะเร็ว”

(2) การจราจร ที่มีอยู่ 5 โครงการ คือ รถรางเลียบคลอง, รถตู้มวลชน, ที่จอดรถที่ตะเข็บเมืองชั้นนอก, จุดกลับรถที่เป็นรูปเกือกม้า และที่จอดคถใต้ดินในเขตเมืองชั้นใน

(3) นโยบายคุณภาพอากาศ ที่เน้นการแก้ไขปัญหาฝุ่นเขม่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนกรุงเทพมหานคร

(4) พัฒนาโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร

(5) นโยบายสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการขยายบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ

(6) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเน้นการจัดตั้ง “ประชาคมเมือง” ที่เป็นพื้นที่อิสระสำหรับการพบปะและสะท้อนปัญหาจากประชาชนต่อหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานราชการของกรุงเทพมหานคร โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถจัดตั้งกรรมการชุมชนให้ได้ 2,000 แห่งในระยะเวลา 4 ปี[1]

อาจกล่าวได้ว่า นโยบายทั้ง 6 หมวดของนายพิจิตตและกลุ่มมดงานถูกนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายในหมวดที่ 2 คือการแก้ไขปัญหาจราจร โดยการสร้างรถรางเลียบคลอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นนโยบายหาเสียงหลักของนายพิจิตต ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ส่งผลให้นายพิจิตตไม่ได้รับความนิยมจากประชาชนมากนักในช่วงระยะเวลา 4 ปีของการบริหารงานกรุงเทพมหานคร

อ้างอิง

  1. ดู รายการเหตุบ้านการเมือง, หัวข้อ “ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่” วันที่ 2 มิถุนายน 2539, ช่อง 3