หลักสยาม (พ.ศ. 2537)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:35, 10 มิถุนายน 2553 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าใหม่: '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐ...)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต



พรรคหลักสยาม

พรรคหลักสยาม เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “SIAM PRINCIPLE PARTY” ขึ้นทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเลขที่ 41/2537 ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2537 [1]

ที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคหลักสยาม ตั้งอยู่ที่ 779/30 ซอยสุวรรณมณี ถนน ประชาอุทิศ-เทพลีลา แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร [2]


นโยบายพรรคหลักสยาม[3]

พรรคหลักสยาม ยึดหลักประชาธิปไตยในการกำหนดนโยบายของพรรคโดยความคิดเห็นส่วนรวมของสมาชิก และจะทบทวนให้สอดคล้องกับสภาวะการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ภาวะปัจจุบัน พรรคหลักสยามมีนโยบายในการดำเนินการบริหารประเทศโดยแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังต่อไปนี้

1. ด้านการเมืองและการปกครอง ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐเดี่ยว โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง การปกครองและการรักษาความมั่นคง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยจะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินให้ทันสมัยและมีแนวทางเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

2. ด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบทุนเสรีที่มีคุณธรรม มุ่งพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะคำนึงถึงความสมดุลกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ทรัพยากรบุคคล และรักษาสภาพความสมดุลของสิ่งแวดล้อม มุ่งกระจายความมั่งคั่งไปสู่ชนบท และปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้เป็นธรรม

3. ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต สร้างค่านิยมให้ประชาชนมีคุณธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม รู้รักสามัคคี มีวินัย มุ่งจัดให้มีสวัสดิการและปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีพให้กับประชาชนโดยเสมอภาคและทั่วถึง ส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน และพัฒนาสาธารณูปการด้านสังคมบริการให้ทันสมัยปลอดภัยและเป็นธรรม

4. ด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มุ่งพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศรวมทั้งการใช้แหล่งพลังงานต่างๆให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

ส่งเสริมภาครัฐและเอกชนให้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อกำหนดและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจของไทย เพื่อเพิ่มผลผลิต ตลอดจนเพิ่มการใช้ทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

พรรคหลักสยามไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งจนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 5041/2539 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2539 ให้ยุบพรรคหลักสยามเนื่องจากไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 ตามนัยมาตรา 46 (3) แห่งพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2538 มาตรา 3[4]

มีรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคหลักสยามตอนตั้งพรรคมีทั้งสิ้น 14 คน โดยมีตำแหน่งสำคัญดังนี้ [5]

1. นายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ หัวหน้าพรรค

2. นายสุทธิ เศรษฐโสภณสุข รองหัวหน้าพรรค

3. นายวิสุทธิ์ กนกศีชริน เลขาธิการพรรค

4. นายกุลชีพ วรพงษ์ รองเลขาธิการพรรค

และกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 คน โดยนายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (พลังธรรม)ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2538 นายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยให้นายสุทธิ เศรษฐโสภณสุข ปฏิบัติหน้าที่แทน[6] โดยนายพีระพงศ์กล่าวว่าเพื่อจะนำพรรคไปรวมกับพรรคพลังธรรมเนื่องจากอุดมการณ์ตรงกัน [7]

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  2. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  3. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 16-18
  4. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนที่ 54 ง, วันที่ 8 กรกฎาคม 2540, หน้า 15
  5. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  6. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนพิเศษ 19 ง, วันที่ 7 มิถุนายน 2538, หน้า 35.
  7. สยามจดหมายเหตุ พ.ศ. 2538, หน้า 360.