สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (พิษณุ สุ่มประดิษฐ์)
ผู้เรียบเรียง พิษณุ สุ่มประดิษฐ์
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หมายถึง สภานิติบัญญัติระดับชาติซึ่งทำหน้าที่รัฐสภา เป็นสภาเดียว โดยมีสมาชิกซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว สภานิติบัญญัติแห่งชาติทั้งหมดมีที่มาหลังการปฏิวัติรัฐประหาร เท่าที่ผ่านมามีการแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่รัฐสภาดังกล่าว รวม ๕ ชุด (คณิน บุญสุวรรณ, ๒๕๔๘ : ๕๑๙)
ที่มาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
นับตั้งแต่ประเทศไทยดำเนินการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองแบบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๕๒) ประเทศไทยได้ปกครองด้วยระบบรัฐสภามาแล้วเป็นเวลา ๗๗ ปี ซึ่งจะมีเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นที่ประเทศไทยได้ว่างเว้นจากการปกครอง โดยปราศจากสถาบันรัฐสภา เนื่องจากมีการปฏิวัติรัฐประหาร หรือยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน และหัวหน้าคณะปฏิวัติหรือรัฐประหาร ได้ใช้อำนาจเด็ดขาดในรูปของคำสั่งคณะปฏิวัติในการบริหารราชการแผ่นดินในช่วงเวลานั้น ๆ
โดยการปฏิวัติรัฐประหารหรือการยึดอำนาจการบริหารประเทศ ด้วยการใช้กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ จนกระทั่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น ๑๓ ครั้ง ซึ่งผลจากการปฏิวัติรัฐประหารหรือการยึดอำนาจบริหารประเทศดังกล่าว ได้ส่งผลให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอันเป็นกฎหมายปกครองประเทศและกลไกของรัฐสภา ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องถูกยุบเลิกไป ทั้งนี้ คณะปฏิวัติจะทำการแต่งตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมทั้งแต่งตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติแทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ทั้งนี้ จากประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองไทยที่ผ่านมา การได้มีองค์กรที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติ ภายหลังที่มีการปฏิวัติรัฐประหารนั่นคือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นมา ๕ ชุด คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๑๕ - พ.ศ. ๒๕๑๖ สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๑๖ - พ.ศ. ๒๕๑๗ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๒๐ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๓๔ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๔๙ - พ.ศ. ๒๕๕๐
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๑๖
แต่งตั้งขึ้นในรัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร จากการปฏิวัติตัวเองของจอมพลถนอม กิตติขจร ตามมาตรา ๖ แห่ง ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ มีสมาชิกจำนวน ๒๙๙ คน ทำหน้าที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ - วันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ สิ้นสุดลงโดยพระราชกฤษฎีกายุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ อันมีสาเหตุมาจากการเกิดเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ทำให้มีสมาชิกฯ ขอลาออกเป็นจำนวน ๒๘๘ คน จนไม่เพียงพอจะเป็นองค์ประชุมได้ สำหรับประธานสภาคือ พลตรีศิริ สิริโยธิน ดำรงตำแหน่ง ระหว่าง วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ - วันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
ผลงานด้านนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มีการตราพระราชบัญญัติประมาณ ๔๖ ฉบับ พระราชบัญญัติที่สำคัญ เช่น
- พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการปฏิวัติ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ พ.ศ. ๒๕๑๕
- พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการเดินขบวน เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๖
านิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๖ – ๒๕๑๘
แต่งตั้งขึ้นในรัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ หลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ ซึ่งเป็นการยึดอำนาจและขับไล่รัฐบาลชุดที่มีจอมพล ถนอม กิตติขจร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การปฏิวัติของประชาชนในครั้งนี้ไม่มีการยกเลิกธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ แต่ที่มีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นใหม่ก็เพราะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งสมัยของจอมพล ถนอม กิตติขจร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งตามเสียงเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนในขณะนั้น เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลแต่งตั้งสมาชิกชุดใหม่ก่อนที่จะมีการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นการเด็ดขาดลงไป ทำให้เหลือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพียง ๑๑ คน ไม่เพียงพอที่จะเป็นองค์ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ด้วยเหตุนี้จึงมีการยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งสมัชชาแห่งชาติขึ้น จำนวน ๒,๓๔๗ คน ตามพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมัชชาแห่งชาติ ลงวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๑๖ เพื่อให้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติเลือกตั้งกันเองให้เหลือ ๒๙๙ คน เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อพิจาณาและอนุมัติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะใช้บังคับแทนธรรมนูญปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ สมัชชาแห่งชาติชุดนี้เรียกกันทั่วไปว่า สภาสนามม้า ทั้งนี้ สภาสมัชชาแห่งชาติได้เลือกตั้งกันเอง เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๖ โดยข้าราชการพลเรือนเป็นกลุ่มที่ได้รับเลือกเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติมากที่สุด และพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งสมาชิกสภา นิติบัญญัติแห่งชาติตามมติสมัชชาแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๖
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดนี้ ปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ – วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ สิ้นสุดลงเนื่องจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ สาเหตุที่สภานี้มีชื่อเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า “สภาสนามม้า” เนื่องจากเลือกกันที่สนามม้าราชตฤนมัย ประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มี ๒ คน คือ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธ์ ปราโมช เป็นประธานสภาคนแรก ดำรงตำแหน่ง ระหว่าง วันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ - วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ต่อจากนั้น หม่อมราชวงศ์คึกฤทธ์ ปราโมช ลาออกและเลือกประธานกันใหม่มี นายประภาศน์ อวยชัย เป็นประธานสภา ดำรงตำแหน่ง ระหว่าง วันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ – วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘
ผลงานด้านนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มีการตรารัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้ จำนวน ๒ ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๕๑๘ และมีการตราพระราชบัญญัติประมาณ ๑๒๐ ฉบับ พระราชบัญญัติที่สำคัญ เช่น
- พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๑๖
พ.ศ.๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. ๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดสระบุรีและจังหวัดลพบุรี พ.ศ. ๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๗
- พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๑๗
านิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๒
เกิดขึ้นภายหลังคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน นำโดย พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ ยึดอำนาจรัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร วันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ โดยมีเหตุผลในการยึดอำนาจว่าเป็นเพราะมีความแตกแยกของข้าราชการและประชาชน ประกอบกับการจะพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ๓ ขั้นตอน ๆ ละ ๔ ปีนั้นนานเกินไป คณะผู้ยึดอำนาจได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๙ จากนั้นได้ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรพุทธศักราช ๒๕๒๐ เป็นการชั่วคราวแทน ในธรรมนูญปกครองราชอาณาจักรฉบับนี้ได้ปรากฏเจตนารมณ์อย่างชัดเจนในการที่จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายในปีพุทธศักราช ๒๕๒๑
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดนี้ แต่งตั้งตามมาตรา ๗ แห่ง ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐ มีสมาชิกจำนวน ๓๖๐ คน (ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐ ให้แต่งตั้งได้ไม่น้อยกว่า ๓๐๐ คน แต่ไม่เกิน ๔๐๐ คน) ทำหน้าที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๐ - วันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ สิ้นสุดลงเนื่องจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒ สำหรับประธานสภาคือ พลอากาศเอกหะริน หงสกุล ดำรงตำแหน่ง ระหว่างวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๐ - วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๒
ผลงานด้านนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มีการตรารัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้ จำนวน ๑ ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๒๑ และมีการตราพระราชบัญญัติประมาณ ๑๖๓ ฉบับ พระราชบัญญัติที่สำคัญ เช่น
- พระราชบัญญัติประถมศึกษา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการตำรวจ พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติครู (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติการเนรเทศ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๑
- พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. ๒๕๒๑
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๔ – ๒๕๓๕
เกิดขึ้นเมื่อคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)นำโดย พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ สุจินดา คราประยูร, พลเรือเอก ประพัฒน์ กฤณจันทร์, พลอาศเอก เกษตร โรจนนิล, พลตำรวจเอก สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ และพลเอก อิสระพงษ์ หนุนภักดี ยึดอำนาจการปกครองประเทศของรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ เหตุผลที่สำคัญในการเข้ายึดอำนาจ คือ การรักษาไว้ซึ่งสถาบันที่พระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐให้ดำรงอยู่ตลอดไป คณะผู้ยึดอำนาจได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญที่ใช้บังคับอยู่ คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๒๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และได้ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครอง พุทธศักราช ๒๕๓๔ แทน ซึ่งได้กำหนดให้มีสภาเดียว คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดนี้ แต่งตั้งตามมาตรา ๗ แห่ง ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๓๔ มีสมาชิกจำนวน ๒๙๒ คน (ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๓๔ ให้แต่งตั้งได้ไม่น้อยกว่า ๒๐๐ คน แต่ไม่เกิน ๓๐๐ คน) ทำหน้าที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๔ - วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ สิ้นสุดลงเนื่องจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ โดยมี นายอุกฤษ มงคลนาวิน ดำรงตำแหน่งประธานสภา ระหว่างวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๔ - วันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
ผลงานด้านนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มีการตรารัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้ จำนวน ๑ ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ และมีการตราพระราชบัญญัติประมาณ ๒๔๗ ฉบับ พระราชบัญญัติที่สำคัญ เช่น
- พระราชบัญญัติพรรคการเมือง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๓๕
- พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๕
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๐
เกิดขึ้นเมื่อคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) นำโดย พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะฯ, พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก เป็นรอง หัวหน้าคณะฯ, พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์, พลเอก บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์, พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ เป็นสมาชิกฯ, พลเอก วินัย ภัททิยกุล เป็นเลขาธิการฯ, พลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นผู้ช่วยเลขาธิการฯ, พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้ช่วยเลขาธิการฯ ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ และได้ประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ จากนั้นได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ซึ่งมีบทบัญญัติกำหนดให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ ทำหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดนี้ แต่งตั้งตามมาตรา ๕ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒๔๒ คน (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ให้แต่งตั้งได้ไม่เกิน ๒๕๐ คน) เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ต่อมาวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพิ่มเติม จนครบ ๒๕๐ คน
ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ชุดนี้ ทำหน้าที่รัฐสภา ระหว่างวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ - วันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ สิ้นสุดลงเนื่องจากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ โดยมี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ดำรงตำแหน่งประธานสภา ระหว่างวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๙ - วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ผลงานด้านนิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติชุดนี้ มีการตรารัฐธรรมนูญออกมาบังคับใช้ จำนวน ๑ ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และมีการตราพระราชบัญญัติที่สำคัญ เช่น
- พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติระเบียบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทบริหารทรัพย์สินสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๔๙
- พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ ๘ เรื่อง ห้ามกักตุนสินค้า ลงวันที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
พ.ศ.๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดบริษัทบริหารทรัพย์สิน พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐
- พระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑
อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็เหมือนกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภานั่นเอง ซึ่งแบ่งเป็น ๓ ข้อใหญ่ ๆ ได้แก่
๑. อำนาจหน้าที่ ในการตรากฎหมาย
๒. อำนาจหน้าที่ในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
๓. อำนาจหน้าที่อื่นตามที่รัฐธรรมนูญหรือธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรบัญญัติไว้หรือตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามกฎหมายและตามข้อบังคับการประชุมสภา
นอกจากอำนาจหน้าที่ ๓ ประการดังกล่าวข้างต้นแล้ว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ บางชุดยังมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้
๑. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๑๖ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๖ – ๒๕๑๘ มีหน้าที่พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ (มาตรา ๑๐ แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕)
๒. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๒ มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๖ แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐)
๓. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๔ – ๒๕๓๕ มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญ (มาตรา ๖ แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๓๔)
อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ภายหลังมีรัฐธรรมนูญ(ฉบับถาวร)
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นอกจากจะมีอำนาจตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติแต่ละชุดได้รับการแต่งตั้งแล้ว ภายหลังจากที่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรแล้ว สภานิติบัญญัติแห่งชาติยังต้องทำหน้าที่รัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับต่าง ๆ ดังนี้
๑. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๑๗
มาตรา ๒๓๔ บัญญัติว่า “นับตั้งแต่วันใช้ รัฐธรรมนูญนี้จนถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา ๒๓๓ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๑๕ ทำหน้าที่รัฐสภา ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และมิให้นำบทบัญญัติมาตรา ๑๐๒ และมาตรา ๑๐๓ มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามมาตรานี้” ซึ่งในที่นี้คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๖ – ๒๕๑๘
๒. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๒๑
มาตรา ๑๙๕ บัญญัติว่า “นับตั้งแต่วันใช้รัฐธรรมนูญนี้จนถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา ๒๐๒ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐ ทำหน้าที่รัฐสภา ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเสนอร่างพระราชบัญญัติตามมาตรา ๑๒๕ ตั้งกระทู้ถามตามมาตรา๑๓๖ หรือเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา ๑๓๗ มิได้และมิให้นำบทบัญญัติมาตรา ๘๖ และมาตรา ๙๗ มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามมาตรานี้” ซึ่งในที่นี้คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๒๐ – ๒๕๒๒
๓. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๓๔
มาตรา ๒๑๒ บัญญัติว่า “นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้จนถึงวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา ๒๑๘ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๓๔ ทำหน้าที่รัฐสภาตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะเสนอร่างพระราชบัญญัติตามมาตรา ๑๓๗ ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา ๒๑๑ ตั้งกระทู้ถามตามมาตรา ๑๔๙ หรือเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ มิได้มิให้นำบทบัญญัติมาตรา ๙๖ และมาตรา ๑๐๘ มาใช้บังคับแก่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามวรรคหนึ่ง” ซึ่งในที่นี้คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๔ - ๒๕๓๕
๔. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๒๙๓ บัญญัติว่า “ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๔๙ ทำหน้าที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้จนกว่าจะมีการประชุมรัฐสภาเป็นครั้งแรกตามมาตรา ๑๒๗” ซึ่งในที่นี้คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๐
หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ
คณิน บุญสุวรรณ, “ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย”, กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, 2548.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักกฎหมาย, “รวมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (2475-2549)”, กรุงเทพฯ : สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, กรุงเทพฯ, 2549.
บรรณานุกรม
คณิน บุญสุวรรณ, “ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย”, กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ, 2548.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สำนักกฎหมาย, “รวมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (2475-2549)”, กรุงเทพฯ : สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, กรุงเทพฯ, 2549.