สาเหตุแห่งการแทรกแทรงทางการเมือง
สาเหตุของการแทรกแซงทางการเมือง
4.3 สาเหตุของการแทรกแซงทางการเมือง
นักวิชาการต่างประเทศและของไทย เคยวิเคราะห์การที่คณะทหารทำการแทรกแซงทางการเมือง พบว่าสิ่งเร้าที่สำคัญที่ทำให้ทหารเข้าแทรกแซง ทางการเมือง คือ ผลประโยชน์ของกลุ่มทหาร (Corporate interest) ซึ่งได้แก่ ความเป็นอิสระ (autonomy) และการไม่ถูกแทรกแซงจากกลุ่มทางสังคมอื่นๆ (exclusiveness) ในกิจกรรมที่ทหารถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบหลัก สำหรับการเมืองไทย ผลประโยชน์ของกลุ่มทหารมิใช่ผลประโยชน์ในลักษณะที่เรียกว่า (Corporate interest) ซึ่งมีขอบเขตจำกัดเท่านั้น หากยังมีผลประโยชน์ทางการเมืองอีกด้วย เช่น ตำแหน่งทางการเมือง ถ้าคณะทหารไทยเป็นเป็นทหารกลุ่มอาชีพจะมุ่งรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มให้ความเป็นอิสระไม่ถูกแทรกแซงโดยกลุ่มสังคมอื่นๆ ในกิจกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบหลักของทหารจะไม่เข้าไปมีบทบาททางการเมืองมาก
คณะทหารก็ยังต้องการความมั่นใจอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญแก่กองทัพและนโยบายบางด้านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของฝ่ายทหาร โดยตรงดังนั้น การจำกัดบทบาททหาร จึงมักใช้วิธียอมให้คณะทหารมีตัวแทน ในวงการการเมืองเช่นถือเป็นหลักปฏิบัติว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะต้องแต่งตั้งจากผู้นำของกองทัพ
แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนให้ทหารเข้ามามีบทบาททางการเมืองในลักษณะดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่ไม่เป็นหลักประกันว่าการปฏิวัติ รัฐประหาร จะไม่เกิดขึ้นอีกเพราะมีปัจจัยหลายด้านที่มีส่วนกำหนดขอบเขตของการแทรกแซงทางการเมืองของทหาร คือ ทหารจะมีแนวโน้มที่จะทำรัฐประหาร (จงกล บึงตระกูล,2530 : 45-46)
พันโทวิทวัส รชตะนันท์ ได้ทำการสำรวจทัศนคติของทหารต่อสาเหตุของการรัฐประหาร ซึ่งแบ่งเงื่อนไขของรัฐประหารเป็น 2 ประเด็นใหญ่คือ
1. ประเด็นที่ว่าทหารจะทำรัฐประหารเมื่อสภาพทางการเมืองภายในไร้เสถียรภาพ ได้แก่ 1.1 ผู้นำทางการเมืองขาดความชอบธรรม 1.2 ความเปราะบางของรัฐบาล 1.3 ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย 1.4 วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ 1.5สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกระทบกระเทือน(ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ถูกกระทบกระเทือนเป็นสาเหตุที่สำคัญของการรัฐประหารในความเห็นของนายทหารผู้ตอบ) 2. ประเด็นที่ว่า สาเหตุของการรัฐประหารสืบเนื่องมาจากเงื่อนไขเกี่ยวกับสถาบันทหารโดยตรง ได้แก่ 2.1 ผลประโยชน์ของทหารถูกกระทบกระเทือน 2.2 ความขัดแย้งระหว่างผู้นำทหาร