พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2471
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวระบบการเงินของสยามอยู่ในมาตราแลกเปลี่ยนทองคำซึ่งไม่ได้ใช้ทองคำเป็นหลักโดยตรง อาศัยผูกพันกับการเงินของประเทศอื่น โดยเฉพาะเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ ทั้งนี้เพราะสยามทำการค้ากับอังกฤษเป็นส่วนใหญ่
ในเวลานั้นกรุงลอนดอนเป็นแหล่งกลางทางการเงิน การแลกเปลี่ยนหรือชำระหนี้ระหว่างประเทศต่างๆ ทำกันที่นั่น ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ที่เข้ามาตั้งในสยาม จะซื้อขายแลกเปลี่ยนกับพระคลังเฉพาะเงินปอนด์สเตอร์ลิง สยามจึงเก็บเงินทุนสำรองธนบัตรและเงินทุนสำรองมาตราทองคำไว้ในกรุงลอนดอนเป็นส่วนใหญ่ แต่ต่อมาพบว่าการผูกพันในลักษณะนี้เป็นข้อบกพร่อง เพราะทำให้สถานการณ์ทางการเงินของสยามกระทบกระเทือนไปตามค่าเงินปอนด์
เซอร์ เอ็ดเวิร์ด คุก ที่ปรึกษาทางการเงิน เสนอให้ผูกค่าเงินบาทเข้ากับทองคำโดยตรง ทำให้เงินบาทไม่ต้องขึ้นอยู่กับการเทียบค่าทองคำของเงินสกุลใดสกุลหนึ่ง จึงออกพระราชบัญญัติประกาศอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทเป็น ๑ ต่อ ๑๑ ของเหรียญโสเวอเรน (sovereign)
พระราชบัญญัติเงินตรา พุทธศักราช ๒๔๗๑ เป็นการรวบรวม ปรับปรุงกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวด้วยเงินตราของสยามที่เดิมนั้นมีอยู่หลายฉบับ มารวมกันไว้ในที่เดียวกัน พร้อมกันนั้นได้กำหนดค่าของเงินบาทเข้ามาสู่มาตราทองคำ โดยกำหนดค่าที่แน่นอนไว้ รวมทั้งเปลี่ยนฐานะทางกฎหมายของธนบัตรให้เป็นธนบัตรที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายและเทียบค่าของเงินบาทเข้ากับทองคำโดยตรงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ที่มา
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖