ผลต่างระหว่างรุ่นของ "31 มีนาคม พ.ศ. 2476"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 6: | บรรทัดที่ 6: | ||
---- | ---- | ||
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 | วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 เป็นวันที่มีการประกาศใช้[[กฎหมายเทศบาลฉบับแรก]]ของไทย หลังเปลี่ยนแปลง[[การปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475]] ตอนนั้น [[นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และมี[[นาย ปรีดี พนมยงค์]] เป็น[[รัฐมนตรี]]ว่าการ[[กระทรวงมหาดไทย]] ตอนที่เสนอร่างพระราชบัญญัติเทศบาล ฉบับนี้เข้าสภา นายปรีดี พนมยงค์ ได้เป็นผู้แถลงต่อสภา มีความตอนหนึ่งที่อธิบายถึงรูปแบบ[[เทศบาล]]ในตอนนั้นไว้ว่า | ||
“...คือดำเนินตามคล้ายๆ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามเหมือนกัน กล่าวคือ | “...คือดำเนินตามคล้ายๆ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามเหมือนกัน กล่าวคือ จะเห็นได้จาก[[เทศบาลตำบล]] [[คณะมนตรีตำบล]] และ[[สภาตำบล]] เพื่อให้ราษฎรได้รู้จักวิถีแห่ง[[รัฐธรรมนูญ]]ไปในตัว คือ ราษฎรจะได้ฝึกการปกครองในตำบลย่อย ๆ ของตน เพื่อประโยชน์แก่การที่จะเข้ามาเป็น[[ผู้แทนราษฎร]]ในสภานี้ต่อไป...” | ||
กฎหมายเทศบาลฉบับแรกนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2477 | กฎหมายเทศบาลฉบับแรกนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2477 อันเป็นวันที่ลงประกาศใน[[ราชกิจจานุเบกษา]] และรูปแบบเทศบาลที่มีก็เป็นเทศบาล 3 ระดับ จากขนาดเล็กไปหาขนาดใหญ่ ได้แก่ เทศบาลตำบล [[เทศบาลเมือง]] และ[[เทศบาลนคร]] ทั้งนี้โครงสร้างก็เป็นแบบ[[รัฐสภา]] มีสภาทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารและพิจารณาออก[[เทศบัญญัติ]]มาบังคับใช้ในเขตเทศบาล โดยมีคณะมนตรีเป็นคณะผู้บริหาร | ||
ที่น่าสนใจก็คือเมื่อตั้ง[[หน่วยปกครองท้องถิ่น]]ขึ้นมาแล้ว มีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง ปรากฏว่า มาตรา 27 ของกฎหมายเทศบาล ฉบับนี้ได้ระบุว่าเทศบาลตำบล ซึ่งเป็นเทศบาลขนาดเล็กที่สุดมีอำนาจหน้าที่ ซึ่งต้องทำ ดังนี้ | |||
“1. จัดการสาธารณสุข | “1. จัดการสาธารณสุข | ||
บรรทัดที่ 38: | บรรทัดที่ 38: | ||
ส่วนเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมา ก็มีอำนาจหน้าที่ต้องทำมากขึ้นนอกเหนือไปจากอำนาจหน้าที่ของเทศบาลตำบล | ส่วนเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมา ก็มีอำนาจหน้าที่ต้องทำมากขึ้นนอกเหนือไปจากอำนาจหน้าที่ของเทศบาลตำบล | ||
[[การกระจายอำนาจการปกครอง]]ในท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาลนี้ จึงเป็นแบบแรกที่มีขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และในปีถัดมาก็ได้มีการตั้งเทศบาลขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ ได้หลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพระนครที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ | |||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:28, 16 กันยายน 2556
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2476 เป็นวันที่มีการประกาศใช้กฎหมายเทศบาลฉบับแรกของไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475 ตอนนั้น นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนาย ปรีดี พนมยงค์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอนที่เสนอร่างพระราชบัญญัติเทศบาล ฉบับนี้เข้าสภา นายปรีดี พนมยงค์ ได้เป็นผู้แถลงต่อสภา มีความตอนหนึ่งที่อธิบายถึงรูปแบบเทศบาลในตอนนั้นไว้ว่า
“...คือดำเนินตามคล้ายๆ กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามเหมือนกัน กล่าวคือ จะเห็นได้จากเทศบาลตำบล คณะมนตรีตำบล และสภาตำบล เพื่อให้ราษฎรได้รู้จักวิถีแห่งรัฐธรรมนูญไปในตัว คือ ราษฎรจะได้ฝึกการปกครองในตำบลย่อย ๆ ของตน เพื่อประโยชน์แก่การที่จะเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรในสภานี้ต่อไป...”
กฎหมายเทศบาลฉบับแรกนี้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2477 อันเป็นวันที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และรูปแบบเทศบาลที่มีก็เป็นเทศบาล 3 ระดับ จากขนาดเล็กไปหาขนาดใหญ่ ได้แก่ เทศบาลตำบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร ทั้งนี้โครงสร้างก็เป็นแบบรัฐสภา มีสภาทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารและพิจารณาออกเทศบัญญัติมาบังคับใช้ในเขตเทศบาล โดยมีคณะมนตรีเป็นคณะผู้บริหาร
ที่น่าสนใจก็คือเมื่อตั้งหน่วยปกครองท้องถิ่นขึ้นมาแล้ว มีอำนาจหน้าที่อะไรบ้าง ปรากฏว่า มาตรา 27 ของกฎหมายเทศบาล ฉบับนี้ได้ระบุว่าเทศบาลตำบล ซึ่งเป็นเทศบาลขนาดเล็กที่สุดมีอำนาจหน้าที่ ซึ่งต้องทำ ดังนี้
“1. จัดการสาธารณสุข
2. จัดการให้ราษฎรได้มีน้ำจืดบริโภค
3. จัดให้มีและบำรุงถนนและทางกับการระบายน้ำในเขตเทศบาล
4. จัดการให้ราษฎรได้มีความสะดวกในการสื่อสาร
5. จัดการแก้ไข และส่งเสริมการทำมาหากินของราษฎรให้ดีขึ้นตามสมควร
6. จัดการให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรมชั้นประถม
7. จัดการอบรมให้ราษฎรเข้าใจในการปกครองระบอบรัฐธรรมนูญ
8. จัดการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี อีกทั้งระงับเหตุรำคาญในท้องถิ่น ตลอดจนป้องกันมิให้ผู้ใดละเมิดกฎหมาย
9. จัดให้มีศาลาเทศบาล
10. อำนาจหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งจะได้มีกฎหมายบังคับให้อำนาจหน้าที่ของเทศบาลตำบล
นอกจากหน้าที่ซึ่งต้องทำดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีภาระอื่นที่อาจทำได้ “ตามกำลังของตน” อีก 9 ข้อ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 28 ของกฎหมายเทศบาล ฉบับเดียวกันนี้
ส่วนเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมา ก็มีอำนาจหน้าที่ต้องทำมากขึ้นนอกเหนือไปจากอำนาจหน้าที่ของเทศบาลตำบล
การกระจายอำนาจการปกครองในท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาลนี้ จึงเป็นแบบแรกที่มีขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และในปีถัดมาก็ได้มีการตั้งเทศบาลขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ ได้หลายแห่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพระนครที่เป็นเมืองหลวงของประเทศ