ผลต่างระหว่างรุ่นของ "7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร ---- '''ผู้ทรงคุณวุ...'
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร
'''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


----
----
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 2 ของประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเป็นครั้งแรก อันต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ผ่านมาซึ่งเป็นการเลือกตั้งทางอ้อม แต่ก็เป็นการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น และมีกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 และเป็นการเลือกตั้งที่สมาชิกชุดเดิมอยู่ครบวาระ
วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 2 ของประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเป็นครั้งแรก อันต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ผ่านมาซึ่งเป็นการเลือกตั้งทางอ้อม แต่ก็เป็นการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น และมีกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 และเป็นการเลือกตั้งที่สมาชิกชุดเดิมอยู่ครบวาระ

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:22, 9 กันยายน 2556

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 2 ของประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเป็นครั้งแรก อันต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่ผ่านมาซึ่งเป็นการเลือกตั้งทางอ้อม แต่ก็เป็นการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น และมีกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 และเป็นการเลือกตั้งที่สมาชิกชุดเดิมอยู่ครบวาระ

กฎหมายเลือกตั้ง พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2479 นี้ได้แก้ไขให้เป็นการเลือกตั้งโดยตรง และให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ให้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ทุกจังหวัดจึงมีอย่างน้อยหนึ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดใดมีประชากรเกินกว่า 200,000 คน ก็จะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเขตต่อประชากรจำนวน 200,000 คน ทั้งนี้ ถ้าเศษของจำนวนที่เกินสองแสนมานั้นมากกว่าหนึ่งแสนคนก็ให้มีผู้แทนเพิ่มได้อีก 1 คน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้น รวมแล้วมีจำนวน 91 คน จาก 91 เขตเลือกตั้ง

หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ นายพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ก็ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก แต่รัฐบาลก็อยู่ได้ไม่ครบปี เพราะได้มีการยุบสภาในวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2481 เพราะรัฐบาลแพ้เสียงในสภาในการลงมติ แก้ไขข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับวิธีการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณที่ทางรัฐบาลไม่ได้เสนอ แต่ผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้เสนอ